24 พ.ย. เวลา 13:46 • ประวัติศาสตร์

จีน-ญี่ปุ่น ช่วงประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม ….

เนื่องจากช่วงนี้สองยักษ์เอเชียเขาตีกัน
ทางจีนก็เลยงัดประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะที่นานกิง
มาปลุกกระแสชาตินิยมกันยกใหญ่
ก็ไม่รู้ว่าได้ผลหรือไม่นะ
แต่จะมีใครรู้ ว่าที่จริงแล้ว ในการรบระหว่างสองประเทศนี้
ในประวัติศาสตร์นั้น สิ่งที่ทำร้ายคนจีนมากกว่าญี่ปุ่น
…ก็คือ ภัยจากคนจีนด้วยกันนั่นเอง….
ยุทธการ “เขื่อน” ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนอยากให้ลืม
ยุทธการนี้ มีชื่อเป็นทางการว่า ยุทธการที่ซูโจว
มันเป็นปฏิบัติการทางการทหารของทางจีนเอง
โดยตอนนั้นผู้ดำเนินรายการก็คือ กองทัพของพรรคก๊กหมินตั๋ง
ที่ภายหลังหนีไปไต้หวันนั่นเอง
มันส่งผลให้มีคนเสียชีวิตทั้งทางตรง ทางอ้อม
มากกว่า 800,000 คน
การปฏิบัติการนี้ จะว่าเป็นการทำเพื่อสู้กับญี่ปุ่นอย่างเดียว
ก็คงไม่ถูกต้องนัก แต่ต้องบอกว่า มันเป็นปฏิบัติการเพื่อตัด
กำลังบำรุงจากโซเวียต ต่อทัพพรรคคอมมิวนิสต์จีนเอง
เป็นจุดประสงค์หลักด้วยเช่นกัน
ซึ่งมันก็อาจบอกได้เหมือนกัน ว่าที่จริงแล้ว
ความเสียหายต่อชีวิตชาวจีนมากที่สุด เกิดจากพวกเขา
ตีกันเอง มากกว่าที่จะบอกว่าใครไปทำอีกส่วนหนึ่ง
สาระสำคัญของปฏิบัติการนี้ ก็คือการทำลายเขื่อนอย่างจงใจ
เพื่อให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ เพื่อผลทางการทหาร
มันจะเป็นความไร้สติ ประเมินความเสียหายต่ำไป
ของพรรคก๊กหมินตั๋งหรือไม่ ก็ไม่มีใครรู้
แต่ที่แน่ๆ มันทำให้คนจีนมากกว่า 8 แสนชีวิตต้องสูญเสียไป
จากผลของมัน หรือมากกว่าความเสียหายที่นานกิง ถึงสี่เท่าตัว
หรือถ้าจะเอาตัวเลข จากพรรคคอมมิวนิสต์จีน
หลังได้รับชัยชนะแล้ว พวกเขาเคลมผลจากปฏิบัติการนี้
ถึง 12 ล้านชีวิตเลยทีเดียว
…คือ พรรคคอมมิวนิสต์เองก็อยากใส่ไฟให้คนเกลียด
ก๊กหมินตั๋งด้วยนั่นแหละ เลยใส่ตัวเลขให้มันหนักเข้าไปอีก…
แต่ไม่ว่าจะ 8 แสน หรือ 12 ล้าน
นั่นก็คือความสูญเสียขั้นสุด ที่เกิดกับประชาชนชาวจีน
ในช่วงความขัดแย้ง ทั้งกับญี่ปุ่น และตีกันเองนั่นเอง
…และมันส่งผลต่อเนื่องมาถึง สงครามนกกระจอก
ของเหมาเจ๋อตุง ที่คร่าชีวิตชาวจีน ไปมากกว่า 36 ล้านคนด้วย
ในภายหลังนั่นเอง….
เนื้อหาของยุทธการเขื่อนนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน
ก๊กหมินตั๋งหรือ NRA ในตอนนั้น ต้องการป้องกันเสฉวน
ซึ่งเป็นที่มั่นหลักของตัวเอง ทั้งจากญี่ปุ่น และจีนคอมมิวนิสต์
พวกก็เเลยไประเบิดทำลายเขื่อนกั้นแม่น้ำฮวงโห
ให้น้ำมันท่วม เพื่อปิดเส้นทางคมนาคมต่างๆซะงั้น
เราก็ลองคิดดูแล้วกัน ว่าฮวงโหที่เราเห็นในสารคดีนั้น
ปกติก็มีความบ้าคลั่งในตัวเองอย่างมากอยู่แล้ว
แล้วถ้าเขื่อนที่กั้นมันแตกล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น ?
ใช่แล้ว มันคือหายนะขั้นสุด ต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ของประชาชน มากกว่าที่ระเบิด หรือกองกำลังใดๆ
ของญี่ปุ่นได้สร้างบาดแผลไว้
จะว่ามันร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา รวมกับนางาซากิ
ก็ยังได้ เมื่อดูจากผลทางตรงและอัอมของมัน ที่ส่งผล
มาถึงสงครามนกกระจอก
…บางที มันอาจเป็นความสูญเสียที่มากที่สุด
ในเหตุการณ์ช่วงก่อน ถึงจบสงครามโลกครั้งที่สองด้วยซ้ำ…
คาดการณ์ว่า ความสูญเสียทันที ต่อคนจีนตาดำๆ
แถบเหอหนาน ที่ต้องจมน้ำเสียชีวิต มากกว่า 80,000 คน
รวมถึงทัพญี่ปุ่นอีกหลายหมื่น
และทำให้เกิดโรคระบาด ความอดอยากต่อเนื่อง
จนมีผู้คนมากมายกว่า 8 แสนคนต้องเสียชีวิตไป
จากผลของการกระทำที่ไร้สตินี้
แม้มันจะได้ผลอย่างดี ถึงจุดประสงค์ทางการทหาร
โดยญี่ปุ่นนั้นไม่สามารถเข้าครอบครองเสฉวน
ซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของจีน จนสามารถยืนหยัดสู้กับญี่ปุ่นได้
จนได้รับชัยชนะร่วมกับสัมพันธมิตรในสงครามโลก
…แต่มันก็ถูกตั้งเครื่องหมายคำถามอย่างมาก
ในแง่ความคุ้มค่าทางยุทธวิธี จากสิ่งที่เสียไป….
…และยุทธการนี้นี่เอง ที่เหมือนเป็นการสาดน้ำมัน
ใส่กองทัพญี่ปุ่น ซึ่งสูญเสียหนักมากให้โกรธแค้น
จนปฏิบัติการเอาคืนอย่างโหดเหี้ยม ในเวลาต่อมานั่นเอง….
สงคราม เป็นเรื่องโหดร้ายเสมอ
ในสงคราม มันไม่มีพระเอก และตัวร้ายหรอก
ทุกฝ่ายทำทุกทางเพื่อชัยชนะ โดยไม่สนใจวิธีการเสมอ
ไม่ว่าวิธีที่เลวร้ายแค่ไหน ต่างก็ถูกเอามาใช้
แน่นอน เมื่อคุณกระทำ ฝ่ายตรงข้ามก็จะยิ่งโกรธแค้น
และตอบสนองด้วยวิธีที่บ้าคลั่งเช่นกัน
การจะไปโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในสงคราม
มันจึงไม่ใช่สิ่งที่จะถูกต้องสักเท่าไหร่นัก
มันจริง ที่การกระทำของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น
ต่อชาวจีนนั้น คือเรื่องที่อุบาทว์ เข้าขั้นเลวร้ายสุดๆ
ที่โลกจะต้องจดจำไว้เป็นบทเรียน
แต่ในอีกทาง มันก็มีหลักฐานเช่นกัน ว่าทหารญี่ปุ่น
ที่แพ้ในระหว่างสงคราม ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีอะไรนัก
ไม่ว่าจะสมรภูมิไหน ไม่ใช่แค่ในจีน
(สหรัฐเองก็เหอะ เล่นเชลยศึกญี่ปุ่นหนักเหมือนกันแหละ)
สงครามคือเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก
ที่มาขับดันความไร้มนุษยธรรมของมนุษย์มากที่สุด
จนคนเราทำในเรื่องที่เลวร้าย เกินจะจินตนาการได้
การปูกระแสชาตินิยม เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
มันจึงเป็นเรื่องอันตราย ไม่ว่าที่ไหนบนโลก
…แต่ก็นั่นแหละ มนุษย์ก็ยังเลือกที่จะทำมันเสมอๆ
และยังเป็นเช่นนี้ตลอดมา แบบที่เราเห็นในปัจจุบัน….
…มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา จริงๆ งั้นเหรอ?….
…ก็ลองคิดดูกันนะครับ ….
โฆษณา