เมื่อวาน เวลา 01:12 • สุขภาพ

ทุกวันนี้ หลายคนรู้สึกหมดไฟ

พวกเขาไม่ได้หมดไฟเพราะปัญหาในชีวิตตัวเอง
ถาโถมเข้ามาจนพวกเขารับไม่ไหวนะครับ
แต่พวกเขาหมดไฟเพราะพวกเขาเป็นห่วงคนรอบตัว
เวลาที่พวกเขาเห็นว่าคนรอบตัวเผชิญกับปัญหา
ใจของพวกเขาจะรีบกระโจนอยากเข้าไปช่วยเหลือ
เพราะพวกเขาไม่ต้องการเห็นคนรอบตัวทรมานกับปัญหาเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ความทุกข์ที่คนรอบตัวเผชิญ
จึงกลายเป็นความทุกข์ของพวกเขาไปด้วย
พวกเขาเข้าใจ (ในเชิงตรรกะ) ครับว่า
พวกเราสามารถช่วยเหลือกันและกันได้
แต่ไม่มีใครที่จะแบกรับความทุกข์แทนกันได้
แต่ถึงกระนั้น ใจพวกเขาก็ยังคงอยากที่จะ
“แบกรับความทุกข์แทน” คนรอบตัวในชีวิตพวกเขาอยู่ดี
คุณผู้อ่านรู้จักคนที่มีลักษณะเหมือน
กับที่ผมเขียนไว้ในข้างต้นไหมครับ?
(หรือในบางกรณี คนๆนั้นก็อาจจะเป็นตัวคุณผู้อ่านเอง…ก็เป็นได้)
ความท้าทายสำคัญสำหรับคนที่ผมเขียนถึงในข้างต้นก็คือ
เราจะบริหารจัดการใจตัวเองอย่างไร
ให้สามารถเป็นห่วงและช่วยเหลือคนรอบตัวได้
โดยไม่ถูกความทุกข์ใจถาโถมเข้ามาจนรับมือไม่ไหว?
สิ่งหนึ่งที่อาจจะช่วยเราได้ในเบื้องต้น
คือการ “ขีดเส้น” กับตัวเองให้ชัดเจนครับ
ยกตัวอย่างเช่น
เราจะอนุญาตให้ตัวเองรู้สึกเป็นห่วงและ
ช่วยเหลือผู้คนในชีวิตของเราอย่างเต็มที่
แต่เราก็จะ “ขีดเส้น” ไว้ว่า
นับตั้งแต่ 19.00 น เป็นต้นไป (จนถึงเวลานอน)
เราจะหยุดคิดถึงคนอื่นและจะใช้เวลาดังกล่าว
ในการทำเฉพาะสิ่งที่ “เห็นแก่ตัวเอง” เท่านั้น
(เช่น อ่านนิยาย เล่นเกม เล่นดนตรี วาดรูป)
เป็นต้น
ตอนแรกๆที่เราเริ่มต้น “ขีดเส้น”
เราอาจจะพบว่า พอถึงเวลาจริงๆ
ใจเราก็ยังคงนึกเป็นห่วงคนอื่น
สมองเราก็ยังคงคิดหาหนทางที่จะช่วยคนอื่น
สองมือเราก็ยังลงมือทำนู่นนี่นั่นเพื่อคนอื่นอยู่ดี
หากเรา “ติดขัด” ในลักษณะนี้
ผมขอเสนอให้เราลองเริ่มต้น “ขีดเส้น”
เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆก่อนครับ
ยกตัวอย่างเช่น
เริ่มต้นด้วยการ block เวลานาน 30 นาที
ของแต่ละวันให้ “เวลาเห็นแก่ตัวเอง”
(แทนที่จะเริ่มต้น “ขีดเส้น” วันละเป็นชั่วโมงๆ)
เป็นต้น
พอเราเริ่มคุ้นชินกับช่วงระยะเวลาดังกล่าว
เราก็ค่อยๆขยายช่วงเวลานั้นให้นานขึ้นทีละนิดๆ
(เช่น จาก 30 นาทีเป็น 1 ชั่วโมง
จาก 1 ชั่วโมงเป็น 2 ชั่วโมง
จาก 2 ชั่วโมงเป็น 4 ชั่วโมง เป็นต้น)
ในที่สุดแล้ว เราอาจจะยังอดไม่ได้ที่
จะรู้สึกเป็นห่วงคนอื่นหรอกนะครับ
(และเอาเข้าจริงๆ ต่อให้เราจะสามารถ “ดีดนิ้ว”
และบังคับให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ไม่ห่วงใครเลย
(นอกจากตัวเอง) ได้จริงๆ หลายคนก็คง
ไม่อยากเห็นตัวเองกลายเป็นคนแบบนั้นอยู่ดี)
แต่ด้วยแนวทางที่ผมนำเสนอในวันนี้
มันอาจจะช่วยให้เรากลายเป็นคน
ที่แคร์คนอื่น (โดยที่ตัวเองไม่หมดไฟ) ได้ครับ
โฆษณา