25 พ.ย. เวลา 02:20 • ธุรกิจ

OnePOD Max ทำไมร้านค้าปี 2025 ต้องมี?

เทคโนโลยีป้องกันการขโมย + ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
ในช่วงปีที่ผ่านมา ร้านค้าปลีกในไทยเผชิญปัญหา “Shrinkage” หรือความเสียหายจากการถูกขโมย เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าไอทีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หูฟังไร้สาย, สมาร์ทวอทช์, กล้องแอคชั่น, Powerbank ฯลฯ
ขณะเดียวกันลูกค้ายุคใหม่ก็ต้องการ ประสบการณ์ทดลองสินค้าแบบอิสระ สัมผัสจริง ใช้งานจริง ก่อนตัดสินใจซื้อ
นี่จึงเป็นจุดที่เทคโนโลยีอย่าง OnePOD Max กลายเป็น “ตัวช่วยสำคัญ” ของร้านค้าปี 2025
ทำไม OnePOD Max ถึงตอบโจทย์สถานการณ์ไทยตอนนี้?
1) ปัญหาการขโมยเพิ่มขึ้น แต่ร้านต้องเปิดสินค้าทดลอง
หลายร้านแก้ปัญหาด้วยการเก็บสินค้าหลังเคาน์เตอร์ ทำให้ลูกค้า “จับต้องไม่ได้” ส่งผลให้ยอดขายลด
OnePOD Max ช่วยให้ร้านวางสินค้าให้ลูกค้าทดลองได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกลัวถูกดึงหนีหรือสับเปลี่ยนสินค้า
2) ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience)
ลูกค้าสามารถหยิบ, จับ, ทดลองฟังก์ชันสินค้าได้อย่าง ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ
ไม่มีสายล็อกแข็งๆ ไม่มีตัวล็อกบังสินค้า
เหมือนยืนทดลองบน Apple Store
ประสบการณ์ดี = เพิ่มโอกาสปิดการขายทันทีหน้าร้าน
3) ร้านบริหารจัดการง่ายขึ้น
OnePOD Max ช่วยให้พนักงาน
  • ตรวจสอบความพร้อมของสินค้าได้เร็ว
  • ลดภาระในการดูแลสต็อกโชว์
  • ป้องกันสินค้าหลุดหายหรือถูกเปลี่ยน
  • จัดโชว์สินค้าให้สวยงามแบบมืออาชีพ
4) รองรับสินค้าหลายประเภท ใช้ได้แทบทุกร้าน
เหมาะกับร้านประเภท
  • ร้านมือถือ
  • ร้านแก็ดเจ็ต
  • ร้านไอที
  • ร้านกล้อง
  • โชว์รูมสินค้าเทค
  • ร้านในห้างที่คนเดินหนาแน่น
ไม่ว่าจะเป็นกองทัพโจรเล็ก โจรคู่ หรือมือไวขนาดไหน ก็ “ดึงไม่ออก” เพราะระบบยึดแน่นแต่ใช้งานง่ายสำหรับลูกค้า
OnePOD Max = ยอดขายขึ้น + ความเสียหายลดลง
นี่คือเหตุผลที่หลายร้านค้าชั้นนำเริ่มเปลี่ยนไปใช้โซลูชัน Display Security แบบใหม่
เพราะไม่ใช่แค่ “ป้องกันการขโมย” แต่ช่วยให้ร้านออกแบบประสบการณ์ทดลองสินค้าได้ดีขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและอยากซื้อทันที

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา