Blockdit Logo (Mobile)
ณัฐมาคุย
ยืนยันแล้ว
•
26 พ.ย. เวลา 03:00 • สุขภาพ

ยาลดความอ้วนรุ่นใหม่กำลังมา

หลังจากความสำเร็จของยาแก้ความอ้วนยุคแรก (โดยเฉพาะกลุ่ม GLP-1 agonists เช่น Semaglutide) ตอนนี้มี รอบที่สอง ของการพัฒนายาในตลาดอยู่ใกล้เข้ามา ซึ่งตั้งเป้าทำให้ผลลดน้ำหนักมากขึ้น / สะดวกขึ้น / เข้าถึงได้มากขึ้น
ยาเหล่านี้ไม่ได้มุ่งแค่ลดน้ำหนักแบบ “ไดเอ็ท” แต่เข้าไปแตะประเด็นของโรคอ้วน-เมตาบอลิซึม (obesity + metabolic disease) และมีแนวโน้มว่า “การรักษาโรคอ้วน” จะถูกมองเป็นภาวะเรื้อรังมากขึ้น
ยุคแรกของ GLP-1 เช่น Semaglutide (ชื่อการค้า “Wegovy”) ได้ผลลดน้ำหนักชัดเจน (ตัวอย่างเช่น ~15 % ของน้ำหนักตัวในบางผู้ทดลอง)
ยารุ่นถัดไป (“second helping”) กำลังพัฒนาให้ได้มากกว่า เช่น มีกลุ่มที่เป็น dual/triple-agonists (GLP-1 + GIP + Glucagon) ซึ่งมีข่าวลือว่า “อาจแตะ 20 %-30 %” ได้เลยทีเดียว
แต่เพื่อนๆ อย่าเพิ่งรีบดีใจไป ผลการทดลองยัง “ในห้องทดลอง/คลินิก” มากกว่ายาที่ใช้จริงทั่วภาพใหญ่ และ “การลดน้ำหนัก” กับ “การได้ผลระยะยาว +ปลอดภัย” ยังเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบชัดๆ
ซึ่งยาที่กำลังอยู่ในระหว่างการวิจัยและทดลองได้แก่
1. Retatrutide (เรทาทรูไทด์) โดย Eli Lilly
• ตัวนี้เสียงดังที่สุดในรอบใหม่ และมีลุ้นจะได้ออกมาขายเร็วๆ นี้
• เป็น “triple agonist”: GLP-1 + GIP + Glucagon
• งานวิจัยบางชุดบอกว่ามันสามารถทำให้น้ำหนักลดได้มากกว่า 24–26% ในการทดลอง
• คนในวงการเดาว่าจะเป็นตัวที่ทำให้ตลาดสั่นสะเทือนอีกครั้ง
2. Oral GLP-1 รุ่นใหม่ (ยาแบบเม็ด)
บริษัทหลายเจ้าเร่งทำ:
• Orforglipron (Eli Lilly)
• Amycretin (Novo Nordisk แบบฉีดและกำลังพัฒนาแบบเม็ด) ข่าวเพิ่งออกวันนี้เลยว่า ยาได้ผลดีมากๆ ลดน้ำหนักได้ถึง 22% ภายใน 36 สัปดาห์
• จุดเด่นคือ “ไม่ต้องฉีด” ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงง่ายขึ้น
3. CagriSema โดย Novo Nordisk
• ผสม Cagrilintide (amylin analogue) + Semaglutide
• ได้ผลลดน้ำหนักสูงกว่า semaglutide เดี่ยวๆ
4. Mazdutide โดย Innovent (จีน)
• คู่แข่งจากเอเชีย
• เป็น GLP-1/GIP agonist แบบเดียวกับ tirzepatide
• ราคาอาจถูกกว่า ทำให้ตลาดเปลี่ยนแรง
5. BI 456906 Survodutide โดย Boehringer Ingelheim + Zealand Pharma
• dual agonist GLP-1/Glucagon
• ผลลัพธ์ระยะต้นน่าสนใจ แต่ยัง early มากๆ
ถ้าพวกนี้ออกมาจริง โรคอ้วนคงกลายเป็นอดีตกันไปเลยล่ะ
สำหรับคนที่งงกันว่า ยาพวกนี้ทำงานยังไง ก่อนอื่นมาเข้าใจกันง่ายๆ ถึงการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย
ลองคิดว่าร่างกายคุณเป็นบ้านหนึ่งหลัง
น้ำตาลในเลือดคือ “เงินสดในกระเป๋า”
อินซูลินเป็นคุณแม่สายประหยัด เก็บเงินเข้าธนาคารทุกครั้งที่ได้เงินมา ส่วนกลูคากอนคือคุณพ่อที่ชอบบอกว่า
“เอ้า…เงินสดไม่พอเหรอ? เดี๋ยวพ่อถอนมาให้!”
เวลาคุณไม่ได้กินอะไรมานาน คุณพ่อกลูคากอนก็เดินไปที่ตู้เซฟ (ตับ) แล้วเปิดออกเอาน้ำตาลออกมาปล่อยเข้ากระแสเลือดให้ร่างกายเอาไปใช้เป็นพลังงาน
ส่วนเจ้า GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) เป็นฮอร์โมนตามธรรมชาติในร่างกายที่สร้างจากลำไส้หลังเรากินอาหารเข้าไป หน้าที่ของมันค่อนข้างสำคัญกว่าที่หลายคนคิด:
• ช่วยตับอ่อนหลั่งอินซูลิน แบบมีเหตุผล คือหลั่งเมื่อระดับน้ำตาลขึ้น
• ชะลอการลำเลียงอาหารออกจากกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มนาน
• ส่งสัญญาณไปสมองว่า “พอแล้ว กินพอแล้ว”
• ลดการหลั่งกลูคากอน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
ทีนี้ยาพวกนี้เป็นพวกที่เรียกว่า GLP-1 agonist คือแทนที่จะฉีด GLP-1 เข้าไปตรงๆ ยาแบบนี้เป็นเหมือนตัวกระตุ้นที่ไปกดสวิตช์ GLP-1 receptor ให้ทำงานแบบเดียวกับฮอร์โมน GLP-1 จริงๆ แต่ GLP-1 จริงๆ มันมีอายุสั้นมาก และให้ผลน้อยมาก
แต่ GLP-1 agonist มันเป็นเหมือน GLP-1 ตัวปลอมแต่ทำงานได้ดีกว่า ไม่ลางาน ไม่บ่น ไม่หมดอายุเร็ว
โฆษณา