27 พ.ย. เวลา 06:52 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เมื่อเรานำกายนี้ มากระทำ ฝึกหัด ..พระพุทธเจ้า พระปฏิมากรรม..ท่านนั่งกายนิ่ง เรามองดูพระปฏิมากรรม น้อมระลึกไปถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอานนท์ ท่านเล่าให้ฟังว่า พระพุทธเจ้า ท่านนั่งนิ่งเฉย ในท่ามกลางดินฟ้าอากาศ เป็นวันเป็นคืน นิ่งเฉย เหมือนพระปฏิมากรรม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาอีก ..นั่งกายนิ่ง จิตก็นิ่งมีความสุข . เราก็นำกายนี้ มานั่งพับเพียบ ฝึกหัด ทำตามท่านบ้าง ..นั้งพับเพียบ ทำกายให้นิ่ง สิ่งที่มามทำให้กายนิ่งไม่ได้ ก็คืออารมณ์ ความเจ็บป่วยก็เป็นมาอารมณ์ ที่จิตอาศัยในกายก็รับรู้
เมื่อกายนั่งนิ่ง เราก็เอาจิตมาอยู่ปลายจมูก ดูลมที่เข้าออกมัน ทุกข์หรือสุข เมื่อเรานำจิตมาอยู่ที่ปลายจมูก เราก็ดูลมเข้าลมออก มันเข้าออกเป็นทุหรือสุข เราก็เพียรพยายาม ให้มีสติอยู่ที่ปลายจมูก อย่าให้เคลื่อนที่ไปไหน จิตดูลมเข้าออก มันยาวหรือสั้น เป็นทุกข์หรือสุข มันจะทุกหรือสุข เราก็อยู่เฉยๆ การที่จิตอยู่เได้ อยู่ที่ปลายจมูกได้ เราดูมันเฉย ดูไปเรื่อย เยู่ที่ปลายจมูก ไม่มีอะไรปรุงแต่ง .ตรงนั้นแหละ ที่จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ปัญญาธรรม รู้จักเหตุผลของโลภ นำพาจิตไป สู้งสิ่งที่เรียกว่า กรรม กรรมแปลว่าทุกข์
เมื่อเรานำจิตมาอยู่ที่ลมเข้าออกที่ปลายจมูก ไม่เคลื่อนที่ไปไหน เราก็ดูลมเข้าลมออก อยู่ที่ปลายจมูก มีอะไรเกิดขึ้นที่ปลายจมูก ทนไหวมั้ย .จิตอยู่นิ่ง.กายนิ่ง จิตนิ่ง..จิตมีความสุข ในลมที่เข้าออก หายใจออกพุท หายในเข้าโธ จิตอยู่กับพระ มีแสงรัตนะประคองจิต กายก็นิ่ง กายมีบุญ กายนิ่ง จิตนิ่ง สุขทั้งกาย ไม่มีภาระอะไร ไม่เคลื่อนไหว .กายก็นิ่ง จิตก็นิ่ง พร้อมด้วยจิตที่มีสติสัมปชัญญะ ..กายเป็นบุญ ลมหายใจเข้าออกก็มีบุญ เรืองราวด้วยสีเหลืองรัตนะ. สุขทั่งกายทั้งจิต..ที่มาฝึกหัดในรอยของพระ ผู้หมดกิเลส ไม่มีทุกข์
โฆษณา