สรุปสูตร 5 กระปุก วางแผนการเงิน ให้พร้อมเกษียณ สำหรับครีเอเตอร์ จากงาน iCreator 2025
- ล่าสุดในงาน iCreator Conference 2025 Presented by Sony มี Session หนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า “Money Blueprint for Creators วางแผนการเงินพร้อมเกษียณในฐานะครีเอเตอร์”
โดย Session นี้มีคุณต้า-ธนิน คุณความดี จาก The MONEY GAME by Tanin Kunkamedee, คุณแน็ค-ศิวกร ปล้องใหม จาก ช่อง Nack Siwakorn และคุณโดนัท-พชร โกศลชื่นวิจิตร จาก AIA มาให้ความรู้เรื่องการเงินในงาน
- เข้าใจโลกความจริงของอาชีพครีเอเตอร์
อาชีพครีเอเตอร์ (Creator) เป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะมีโอกาสสร้างรายได้ได้สูงและเติบโตอย่างรวดเร็ว
แต่ธรรมชาติของรายได้ในสายงานนี้คือ มีความไม่สม่ำเสมอและผันผวนสูง เช่นเดียวกับอาชีพฟรีแลนซ์อื่น ๆ
หลายคนหาเงินได้เก่งมาก ๆ แต่สิ่งที่ต้องตระหนักคือ เวลาในการเป็นครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จมีจำกัด ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ววงจรความรุ่งเรืองของครีเอเตอร์จะอยู่ที่ประมาณ 6-7 ปีเท่านั้น
คุณแน็คซึ่งอยู่ในตลาด YouTube มา 14 ปี ให้ข้อสังเกตว่า ครีเอเตอร์ที่เคยดังล้มหายไปจากวงการจำนวนมาก สาเหตุมาจาก
1. ความเสี่ยงด้านรายได้
รายได้ส่วนใหญ่ของครีเอเตอร์มักมาจากสปอนเซอร์ หากมีคนเก่งกว่า หล่อกว่า สวยกว่า หรือตลกกว่าเข้ามาในตลาด คุณจะหายไปทันที
2. พฤติกรรมเสี่ยงจาก Lifestyle Inflation
คือ การดันไลฟ์สไตล์ชีวิตให้ดีขึ้น หรูขึ้น ตามรายได้ที่มากขึ้น เป็นความเสี่ยงสำคัญที่หลายคนอาจไม่รู้ตัว
3. การขาดแผนรองรับ
เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อัลกอริทึม พฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่ครีเอเตอร์ไม่สามารถปรับตัวได้ทันและขาดแผนอนาคตรองรับ และยังพึ่งพารายได้จากสปอนเซอร์อย่างเดียว
ซึ่งแผนการรองรับ เช่น กระจายฐานผู้ติดตาม และรายได้จากสปอนเซอร์ไปในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม
รวมถึงหารายได้เพิ่มจากช่องทางอื่น ๆ เช่น ออกงานอิเวนต์ เป็นวิทยากร เขียนหนังสือ ทำคลาสออนไลน์ ทำธุรกิจส่วนตัว หรือแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างครีเอเตอร์ที่มีแผนรองรับ เช่น เทพลีลา ที่นอกจากการพึ่งพารายได้จากสปอนเซอร์แล้ว ก็ได้มีการแตกไลน์ธุรกิจอิเวนต์ออกมา กลายเป็นงาน FU ME FEST เพื่อเพิ่มรายได้ เพิ่มฐาน Community และเพิ่ม Loyalty ให้กับแบรนด์เทพลีลา
___________________
- วางฐานรากทางการเงิน
1. รู้รายจ่ายของตัวเอง และหารายได้เพิ่ม
สิ่งสำคัญคือ การเข้าใจตัวเองและสถานะทางการเงิน โดยต้องเริ่มจดรายรับรายจ่ายเป็นเวลา 1 ถึง 2 เดือน เพื่อให้รู้ว่าเรามีค่าใช้จ่ายที่แท้จริงต่อเดือนเป็นเท่าไร
เมื่อรู้ค่าใช้จ่ายที่แน่นอนแล้ว ก็กำหนดไลฟ์สไตล์การใช้เงินของตัวเองว่าจะใช้ต่อเดือนเท่าไร แล้วใช้เงินไปโดยไม่ให้เกินเพดานที่เรากำหนดไว้ จากนั้นก็นำพลังสมองไปหาเงินให้ได้เยอะที่สุด
โดยคุณแน็คบอกว่า “เราไม่ต้องเสียเวลาไปกับการหาเทคนิคบริหารเงินที่ซับซ้อน แค่รู้รายจ่ายต่อเดือนของตัวเอง แล้ว Maintain ไม่ให้ค่าใช้จ่ายเพิ่ม ที่เหลือเอาเวลาไปหาเงินให้ได้เยอะที่สุด แค่นี้ก็พอ”
2. จัดการความเสี่ยง
เริ่มจากมีเงินสำรองฉุกเฉิน เป้าหมาย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน พร้อมกับทำประกันสุขภาพเอาไว้ เพื่อไม่ให้ปัญหาสุขภาพ ที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นกับเราหรือไม่ มากระทบกับแผนเกษียณของเรา
3. รู้จักสูตรแบ่งเงิน 5 กระปุก
คุณต้าได้ยกตัวอย่างการแบ่งเงินรายได้ของตัวเองออกเป็น 5 กระปุก ซึ่งจะทำให้เราบริหารเงินต่อเดือนได้ดีมากขึ้น เพราะเรารู้แล้วว่าเงินแต่ละก้อนจะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไรนั่นเอง
ตัวอย่างการแบ่งเงินออกเป็น 5 กระปุกของคุณต้า
- 20% ภาษี
- 52.5% ลงทุน (ก่อนแบ่งเงินใส่กระปุกนี้ต้องมั่นใจว่า มีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เดือนแล้ว)
- 5% ลงทุนในตัวเองและธุรกิจ (Reinvestment)
- 15% ค่าใช้จ่ายรายเดือน
- 7.5% ส่วนเหลือ/รางวัลให้ตัวเอง
***ซึ่งต้องหมายเหตุว่า การแบ่งเงินนี้เป็นตัวอย่างเฉพาะบุคคล แต่ละคนสามารถนำไปประยุกต์ให้เหมาะสมกับตัวเองได้ เช่น เพิ่ม-ลดกระปุกเก็บเงิน หรือเพิ่ม-ลดเปอร์เซ็นต์เงินเก็บแต่ละกระปุก
- 1.Panel Discussion หัวข้อ “Money Blueprint for Creators วางแผนการเงินพร้อมเกษียณในฐานะครีเอเตอร์” ในงาน iCreator Conference 2025 Presented by Sony
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
