Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ด.ดล Blog
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
28 พ.ย. เวลา 11:09 • คริปโทเคอร์เรนซี
ทำไม GameFi ถึงตาย? Play to Earn นวัตกรรมเปลี่ยนโลก หรือแค่อีกหนึ่งแชร์ลูกโซ่
มีคำกล่าวที่ว่า ถ้าเราได้ทำงานในสิ่งที่เรารัก เราจะไม่ต้องทำงานเลยสักวันในชีวิต
ประโยคนี้ฟังดูเป็นอุดมคติที่หอมหวาน และสำหรับคนยุคใหม่ การเล่นเกมก็คือสิ่งที่รักอันดับต้นๆ
ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเราตื่นเช้ามา นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ หรือหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกม แล้วมีเงินโอนเข้าบัญชีมากพอที่จะเลี้ยงชีพได้
หรือเผลอๆ อาจจะทำให้เรารวยได้เลย มันจะดีแค่ไหน
แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่มันเคยเกิดขึ้นจริง และสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกการเงินมาแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ภายใต้ชื่อที่เรียกว่า “Play to Earn”
ปรากฏการณ์นี้ทำให้คนจำนวนมากตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อมาเป็นนักเล่นเกมเต็มตัว
เราได้เห็นราคาเหรียญของเกมอย่าง Axie Infinity พุ่งทะยานขึ้นไปแตะดวงจันทร์ สร้างเศรษฐีใหม่ขึ้นมามากมายในชั่วข้ามคืน
แต่ทำไมสวรรค์ของนักเล่นเกมที่ดูเหมือนจะยั่งยืนนี้ จู่ๆ ก็พังทลายลง ทำไมเกมดังๆ ที่เคยมีมูลค่ามหาศาล ถึงร่วงลงมาสู่พื้นดินจนแทบไม่เหลือมูลค่า
ความจริงแล้ว เบื้องหลังความล้มเหลวของอุตสาหกรรมเกมที่ดูเหมือนอนาคตสดใสนี้ ซ่อนอยู่ภายใต้เหตุผลหลักๆ 4 ประการ
และเหตุผลแรก เป็นเรื่องที่พื้นฐานที่สุด แต่กลับเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่มองข้ามมากที่สุด
นั่นคือคำถามที่ว่า “เงินต้องมาจากที่ไหนสักแห่ง”
ในโลกของธุรกิจปกติ ถ้าคุณเปิดร้านกาแฟ รายได้ของคุณมาจากลูกค้าที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินแลกกับกาแฟแก้วโปรด
แต่ในโลกของเกม Play to Earn ในยุคแรกเริ่มนั้น โครงสร้างมันต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ลองนึกภาพเกมที่มีผู้เล่นต่อวันหลายล้านคน แต่กติกาคือ ก่อนที่คุณจะเริ่มหาเงินจากเกมนี้ได้ คุณต้องจ่ายเงินก่อน
1
เงินก้อนนี้จะถูกนำไปซื้อตัวละคร หรือไอเทมเริ่มต้น เพื่อให้คุณมีสิทธิ์เข้าไปเล่นในระบบ
เมื่อผู้เล่นใหม่ก้าวเข้ามา และจ่ายเงินซื้อตัวละคร เงินก้อนนี้จะหมุนเวียนเข้าไปในระบบ
และบางส่วนก็จะกลายเป็นรางวัลให้กับผู้เล่นเก่า ที่เข้ามาเล่นก่อนหน้าและกำลังถอนเงินออกไป
ฟังดูคุ้นๆ ไหม…
ตราบใดที่ยังมีผู้เล่นใหม่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ระบบก็ดูเหมือนจะเฟื่องฟู
กราฟราคาเหรียญพุ่งสูงขึ้น ทุกคนมีความสุขกับการเห็นตัวเลขในพอร์ตเติบโต
แต่ในความเป็นจริง ทางคณิตศาสตร์มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนจะทำกำไร
เพราะเงินไม่ได้งอกเงยมาจากผลผลิตทางธุรกิจ หรือการขายบริการที่แท้จริง
แต่เป็นการหมุนเงินจากคนมาใหม่ ไปจ่ายคนเก่า…
หากวันหนึ่งไม่มีคนใหม่เข้ามา หรือคนใหม่เข้ามาน้อยกว่าคนที่ต้องการถอนเงินออก
ระบบนิเวศนี้ก็จะพังทลายลงทันที
นี่คือกับดักทางการเงินที่เกมอย่าง Axie Infinity หรือแม้แต่เกมเดินออกกำลังกายได้เงินอื่นๆ ต้องเผชิญ
เมื่อแรงจูงใจในการเก็งกำไรหายไป ผู้เล่นใหม่ก็ไม่เข้า ผู้เล่นเก่าก็เทขาย สภาพคล่องในระบบก็เหือดแห้ง
โมเดลแบบนี้ ต่างจากโมเดล “Membership Model” ที่เราคุ้นเคย
อย่างเช่นบริการสตรีมมิ่ง หรือฟิตเนสรายเดือน ที่ทุกคนจ่ายค่าธรรมเนียมเท่ากันเพื่อแลกกับการเข้าถึงบริการ
ซึ่งเป็นโมเดลที่ยุติธรรมและยั่งยืนกว่ามาก
แต่น่าเสียดายที่ผู้พัฒนาเกมส่วนใหญ่ในยุคแรกไม่เลือกใช้ เพราะมันดึงดูดนักเก็งกำไรไม่ได้เท่ากับคำว่า ผลตอบแทนมหาศาล
…
เรื่องต่อมา คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคำว่า เกม
นั่นคือ “ความสนุก”
ลองถามตัวเองดูเล่นๆ ว่า ถ้าวันนี้เกม Play to Earn ที่คุณรู้จัก ตัดระบบการให้เงินออกไปทั้งหมด
คุณจะยังยอมจ่ายเงินเพื่อเข้าไปเล่นมันอยู่ไหม
ถ้าคำตอบคือ “ไม่” นั่นแหละคือปัญหาใหญ่ที่ซ่อนอยู่
ลองเทียบกับเกมระดับตำนานที่ครองใจคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็น World of Warcraft หรือ League of Legends
รวมไปถึงเกมสร้างสรรค์อย่าง Minecraft และแฟรนไชส์อมตะอย่าง Pokemon
เกมเหล่านี้ผู้คนทั่วโลกยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินปีละมหาศาล
เพียงเพื่อแลกกับความบันเทิง โดยไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนเป็นตัวเงินกลับมาแม้แต่บาทเดียว
เพราะแก่นแท้ของมันคือ “ความสนุก” ที่จับต้องได้
แต่เกม Play to Earn ส่วนใหญ่ในตลาด กลับถูกสร้างขึ้นโดยมี การเงิน เป็นตัวตั้ง
แล้วค่อยเอาความเป็น เกม มาสวมทับทีหลัง
มันจึงขาดเสน่ห์ ขาดความลึกซึ้ง และขาดแรงดึงดูดใจที่แท้จริง
เกมเหล่านี้มักจะขาดฟังก์ชันการใช้งานที่ซับซ้อน และขาดจิตวิทยาในการดึงดูดผู้เล่น
เมื่อคุณเอาส่วนที่เรียกว่า การทำเงิน ออกไป เกมพวกนี้ก็แทบจะไม่เหลือค่าอะไรเลย
เราจะเห็นได้ว่า เกมดั้งเดิมที่ยั่งยืนนั้น ผู้เล่นคือลูกค้าที่จ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์
แต่ในเกม Play to Earn ผู้เล่นกลับกลายเป็นนักลงทุนที่เข้ามาเพื่อหวังกำไร
นี่คือความแตกต่างพื้นฐานที่ทำให้โมเดลนี้เปราะบาง
…
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือประเด็นทางจิตวิทยา
มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่อธิบายปรากฏการณ์ความล้มเหลวของเกมแนวนี้ได้ดีมาก
เรื่องของชายชรากับเด็กๆ ที่มุมถนน
มีชายชราคนหนึ่ง ชอบนั่งจิบกาแฟหน้าบ้านเงียบๆ ในยามเช้า
แต่ทุกเช้าจะมีเด็กกลุ่มหนึ่งมายืนรอรถโรงเรียน และเริ่มล้อเลียนแกที่หน้าบ้าน
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเด็กๆ สร้างความรำคาญใจให้กับชายชราเป็นอย่างมาก
แทนที่ชายชราจะดุด่า หรือไล่ตะเพิดเด็กๆ ไป แกกลับใช้วิธีที่เหนือชั้นกว่านั้น
วันหนึ่งแกเดินเข้าไปหาเด็กๆ แล้วบอกว่า ถ้าพวกเธอล้อเลียนฉัน ฉันจะให้เงินคนละ 1 ดอลลาร์
เด็กๆ ดีใจมาก พวกเขาคิดในใจว่าชายชราคนนี้ช่างโง่เขลา
ได้ล้อเลียนด้วย ได้เงินด้วย ใครจะไม่เอา
วันต่อมา เด็กๆ ก็มารวมตัวกันล้อเลียนอีก และรับเงินกันไปอย่างสนุกสนาน
ผ่านไปสักพัก ชายชราเริ่มลดเงินลง
แกบอกเด็กๆ ว่า ช่วงนี้ฉันมีรายจ่ายเยอะ วันนี้ฉันให้ได้แค่ 50 เซนต์นะ
เด็กๆ ก็เริ่มบ่นอุบอิบ แต่ก็ยังทำต่อ เพราะอย่างน้อยก็ได้เงิน
เวลาผ่านไป ชายชราก็ลดเงินรางวัลลงเรื่อยๆ เหลือ 25 เซนต์ เหลือ 10 เซนต์
จนกระทั่งวันหนึ่ง ชายชราบอกเด็กๆ ว่า วันนี้ฉันไม่มีเงินแล้ว ให้ได้แค่ 1 เซนต์
เด็กๆ โกรธมาก ตะโกนใส่ชายชราว่า ใครจะไปยอมทำให้ฟรีๆ หรือได้แค่เศษเงินแค่นี้
เราเคยได้ตั้ง 1 ดอลลาร์
แล้วพวกเขาก็เลิกมายุ่งกับชายชราอีกเลย
เห็นอะไรไหม
จากเดิมที่เด็กๆ ทำพฤติกรรมนั้นด้วย ความอยากทำเอง คือล้อเลียนเพื่อความสนุก
พอมีการเอา เงิน เข้ามาเกี่ยวข้อง แรงจูงใจภายใน ก็ถูกแทนที่ด้วย แรงจูงใจภายนอก ทันที
และเมื่อไหร่ที่ผลตอบแทนลดลง หรือหายไป แรงจูงใจที่จะทำสิ่งนั้นก็หายไปด้วย
ทั้งๆ ที่ตอนแรกทำฟรีๆ ก็ยังทำได้
ปรากฏการณ์นี้ทางจิตวิทยาเรียกว่า “Overjustification Effect”
รางวัลจากภายนอก จะไปลดทอนแรงจูงใจภายใน
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกม Play to Earn
เมื่อผู้เล่นเสพติดการได้เงิน ความสนุกของเกมจะถูกลดทอนคุณค่าลง กลายเป็น การทำงาน เพื่อแลกเงินแทน
และเมื่อไหร่ที่ผลตอบแทนลดลง ซึ่งต้องลดลงตามกลไกตลาดอยู่แล้ว
ผู้เล่นก็จะรู้สึกว่า ไม่คุ้มค่าเหนื่อย และเลิกเล่นไปในที่สุด
ต่างจากเกมปกติที่เราเล่นได้เป็นสิบปีโดยไม่ต้องได้เงินสักบาท
เพราะรางวัลของการเล่นเกมปกติ คือความสุขที่เกิดขึ้นในใจ ไม่ใช่ตัวเงินในกระเป๋า
…
และเหตุผลข้อสุดท้าย คือเรื่องของเทคโนโลยี
คำถามสำคัญที่หลายคนไม่กล้าถามคือ Blockchain จำเป็นจริงหรือ
ในโลกเทคโนโลยี เรามักจะเห็นการพยายามยัดเยียดสิ่งใหม่ๆ เข้าไปในสิ่งที่มันไม่ได้ต้องการ
เปรียบเหมือนเราพยายามจะติด ล้อ ให้กับ เรือดำน้ำ
ล้อรถยนต์นั้นมีประโยชน์มหาศาลเมื่ออยู่บนถนน มันช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น ประหยัดพลังงานขึ้น
แต่เมื่ออยู่ใต้น้ำ ล้อไม่ได้ช่วยให้เรือดำน้ำวิ่งเร็วขึ้นเลย เผลอๆ จะเป็นตัวถ่วง และสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาด้วยซ้ำ
Blockchain ก็เช่นกัน
มันเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มาก ในเรื่องความโปร่งใส การตรวจสอบธุรกรรม
หรือการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
แต่สำหรับการเล่นเกมที่ต้องการความลื่นไหล ความรวดเร็ว และประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง
การเอาทุกอย่างไปบันทึกบน Blockchain อาจจะไม่ใช่คำตอบเสมอไป
เกมที่ดีส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ทำงานได้สมบูรณ์แบบบนระบบเซิร์ฟเวอร์ปกติ
ผู้เล่นไม่ได้เรียกร้องว่าเกมต้องอยู่บนบล็อกเชน พวกเขาแค่ต้องการเกมที่สนุก และเล่นได้โดยไม่สะดุด
Blockchain อาจจะมีประโยชน์จริงๆ แค่บางจุด เช่น การซื้อขายแลกเปลี่ยนไอเทมหายาก หรือสกินตัวละคร
การสร้างตลาดรอง หรือ Secondary Market ให้ผู้เล่นซื้อขายของกันเองได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง และมีความปลอดภัยสูง
แต่นั่นควรเป็นเพียง ฟีเจอร์เสริม ที่โรยหน้าเค้ก ไม่ใช่การสร้างเค้กทั้งก้อนด้วยเทคโนโลยีที่ไม่จำเป็น
นี่ยังไม่นับรวมถึงอุปสรรคสำคัญจากยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Google ที่คุมช่องทางการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นเกือบทั้งโลก
พวกเขาไม่ยอมให้มีระบบการชำระเงินที่เลี่ยงค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งของพวกเขาได้ง่ายๆ
ซึ่งเป็นกำแพงใหญ่ที่เกมคริปโทต้องเผชิญ หากอยากจะเข้าถึงคนกลุ่มมาก
…
แล้วทางออกคืออะไร
หากเรามองไปที่โมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนที่สุด คำตอบอาจจะไม่ได้อยู่ที่การเก็บเงินจากผู้เล่น หรือการปั่นราคาเหรียญ
แต่มันอาจจะอยู่ที่สิ่งที่เราเห็นกันจนชินตาในโลกความเป็นจริงนั่นคือ “โฆษณา”
ลองจินตนาการดูว่า ถ้าในสนามประลองของเกม
มีป้ายโฆษณาของแบรนด์อุปกรณ์เกมมิ่งอย่าง Razer หรือ Logitech ติดอยู่
หรือมีการจัดทัวร์นาเมนต์ที่มีสปอนเซอร์รายใหญ่เข้ามาสนับสนุน
รายได้จากค่าโฆษณาเหล่านี้แหละ คือรายได้ที่แท้จริง เป็นเงินจากภายนอกที่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของเกม
สามารถนำมาแบ่งสรรปันส่วนให้กับผู้เล่นที่มีฝีมือ หรือนำไปพัฒนาเกมต่อได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินจากผู้เล่นใหม่แบบแชร์ลูกโซ่
นี่คือโมเดลเดียวกับที่วงการกีฬามืออาชีพทำอยู่
นักฟุตบอลไม่ได้เงินจากค่าตั๋วของคนดูเพียงอย่างเดียว แต่ได้จากสปอนเซอร์ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และโฆษณา
การเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจแบบปิด ไปสู่ระบบเปิดที่มีรายได้จากโลกความเป็นจริง
คือหนทางรอดที่สำคัญสำหรับเกมในยุคต่อไป
…
บทสรุปของเรื่องนี้บอกอะไรเรา
ยุคตื่นทองของ Play to Earn แบบเดิมที่แค่คลิกๆ แล้วรวย ได้จบลงไปแล้ว
และทิ้งบทเรียนราคาแพงไว้ให้เราเห็นว่า
อะไรที่ดูดีเกินจริง และไม่มีที่มาของรายได้ที่สมเหตุสมผล สุดท้ายย่อมไม่ยั่งยืน
อนาคตของวงการนี้จะไม่ได้อยู่ที่คำว่า Earn เป็นตัวนำอีกต่อไป
แต่อยู่ที่คำว่า Play และ Fun ที่ต้องกลับมาเป็นพระเอก
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเกมที่สนุกจนคนยอมเล่นฟรี สร้างสังคมที่แข็งแกร่ง
และใช้ Blockchain มาช่วยเสริมสิทธิในการถือครองไอเทมอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เก็งกำไร
เมื่อนั้นเราถึงจะเห็นการปฏิวัติวงการเกมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
โลกของการลงทุนและการทำธุรกิจ ไม่มีทางลัดที่โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอดไป
การเข้าใจกลไกเบื้องหลังอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อของกระแสและมองเห็นโอกาสที่แท้จริงในวันที่ฝุ่นจางหายไป
เพราะสุดท้ายแล้ว ของจริง เท่านั้นที่จะอยู่รอด
และเกมที่แท้จริง ต้องเล่นแล้ว สนุก
ไม่ใช่เล่นแล้ว เครียด กับราคาเหรียญที่ผันผวนในกระดานเทรด…
References : [activeplayer, coingecko, psychologytoday, naavik, whiteboardcrypto]
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here
https://www.tharadhol.com/why-gamefi-is-dying/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย -->
https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
คลิกเลย -->
https://www.blockdit.com/articles/5cda56f1e5eac0101e278c73
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
Website :
www.tharadhol.com
Blockdit :
www.blockdit.com/tharadhol.blog
Fanpage :
www.facebook.com/tharadhol.blog
Twitter :
www.twitter.com/tharadhol
Instragram :
instragram.com/tharadhol
TikTok :
tiktok.com/@geek.forever
Youtube :
www.youtube.com/c/mrtharadhol
Linkedin :
www.linkedin.com/in/tharadhol
cryptocurrency
การลงทุน
เทคโนโลยี
บันทึก
6
1
6
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย