29 พ.ย. เวลา 12:30 • การ์ตูน

เมื่อเส้นแบ่งระหว่าง ‘ขยะ’ กับ ‘สมบัติ’ ไม่ได้วัดกันที่ราคา แต่ขีดแบ่งด้วย ‘ความทรงจำ’

“คุณเคยสงสัยไหมว่า เส้นแบ่งระหว่างคำว่า ‘ขยะ’ และ ‘สมบัติ’ มันถูกขีดคั่นเอาไว้ตรงไหน”
ในฐานะสายตาคนนอก มองตุ๊กตาหมีที่มีนุ่นทะลัก มองรองเท้าผ้าใบเก่าๆ ที่พื้นสึกจนแทบเดินไม่ได้ หรือเห็นเสื้อยืดคอย้วยที่สีซีดจาง สิ่งเหล่านี้คงเป็นได้แค่ ‘ขยะ’ หน้าตาโง่ๆชิ้นหนึ่ง ที่สมควรถูกกำจัดทิ้ง ลงถุงดำเพื่อไปให้พ้นหู พ้นตาก็เท่านั้น
แต่ทำไม ของชิ้นเดียวกันนี้ เมื่อไปอยู่ในมือเจ้าของที่แท้จริง มันกลับถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีราวกับเป็น ‘สมบัติ’ ล้ำสุดในชีวิตของเขา
คำตอบมันอาจไม่ได้อยู่ที่สภาพภายนอก แต่มันอยู่ที่ว่าของชิ้นนั้นมัน ‘บรรจุ’ เรื่องราวอะไรเอาไว้ข้างใน เพราะสำหรับใครบางคน สิ่งของมันไม่ได้เป็นแค่วัตถุ แต่มันคือบันทึกความทรงจำสุดแสนล้ำค่า ที่รับรู้ทุกช่วงเวลาของชีวิต
ช่องว่างระหว่างสายตาคนนอก ที่มองเห็นเป็นเพียง ‘ขยะ’ กับหัวใจของเจ้าของ ที่มองเห็นถึง ‘สมบัติ’ คือแก่นของเรื่องราว ที่ถูกนำมาขยายต่อและเล่าได้อย่างน่าสนใจใน “Gachiakuta” อนิเมะแนวแอกชัน ที่ไม่ได้ต่อสู้ด้วยอาวุธสุดแสนไฮเทค แต่สู้กันด้วยสิ่งของหน้าตาบ้านๆ ที่ถูกปลุกพลังให้ตื่นขึ้นด้วยความใส่ใจ เพื่อพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า พลังที่แท้จริงอาจซ่อนอยู่ในสิ่งที่คุณเพิ่งโยนทิ้ง
The sphere เขต Upper Class (บน) และ The Ground หรือ The abyss (ล่าง)
กฎของโลกสองใบ เมื่อ ‘ใจ’ คือสิ่งที่แยกนรกออกจากสวรรค์
แนวคิดเรื่อง ‘เส้นแบ่ง’ ที่กั้นขวางระหว่างขยะกับสมบัตินั้น ไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบนามธรรมใน Gachiakuta แต่มันถูกทำให้เป็นรูปธรรมสุดโหดร้าย ผ่านโครงสร้างของโลกในอนิเมะ โลกที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน คือ ‘เมืองลอยฟ้า’ (The Sphere) ที่ภายนอกเหมือนสรวงสวรรค์ และ ‘พื้นโลก’ (The Ground) ที่ผู้คนชั้นบนต่างหวาดกลัวและรู้จักกันในอีกชื่อว่า ‘นรก’ (Abyss)
ชาวเกาะลอยฟ้าใช้ชีวิตอยู่บนความเชื่อว่า อะไรก็ตามที่เก่า ชำรุดและแปดเปื้อน คือสิ่งปฏิกูลที่ต้องกำจัดทิ้งลงไปสู่โลกเบื้องล่าง เส้นแบ่งนี้เองไม่ได้ขีดแค่สิ่งของ แต่มันได้ลากยาวไปถึงชีวิตของมนุษย์ ‘รูโด้’ เด็กหนุ่มจากสลัมชายขอบของเกาะลอยฟ้า คือผู้รับเคราะห์จากชุดความคิดนี้อย่างไม่ยุติธรรม
แม้รูโด้จะเป็นคนประเภทที่มองเห็น ‘สมบัติ’ ในกองขยะ เขามีนิสัยชอบเก็บของที่คนอื่นทิ้ง มาซ่อมแซมและดูแลด้วยความรัก แต่ในสายตาของสังคมชนชั้นสูง รูโด้กลับเป็นฝ่ายถูกมองว่าเป็น ‘ขยะ’ เสียเอง เพียงเพราะเขาเป็นลูกหลานของอาชญากร เขาถูกเหยียดหยามว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่รกหูรกตา และท้ายที่สุด ความอยุติธรรมจากสังคมเบื้องบน ก็ถีบส่งเขาให้ร่วงหล่นสู่นรก ที่เป็นจุดหมายปลายทางของทุกสิ่งที่โลกเบื้องบนไม่ต้องการ
แต่ทันทีที่เท้าของรูโด้แตะพื้นโลกเบื้องล่าง เขากลับพบความจริงที่ตลกร้ายและอาจสั่นคลอนสามัญสำนึกของชาวเกาะลอยฟ้า เพราะในดินแดนที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็นจากเบื้องบนสุดลูกหูลูกตานั้น ‘ความทรงจำ’ คือกฎธรรมชาติเดียวที่ควบคุมทุกสิ่ง สิ่งของที่ถูกทิ้งขว้างลงเยี่ยงขยะ จะกลายสภาพเป็นปีศาจร้ายโดยไล่ทำร้ายผู้คนไม่เลือกหน้า แต่สิ่งของที่เคยถูกใครสักคนดูแลรักษาไว้ด้วยความผูกพันดั่งสมบัติ มันจะตอบแทนความทรงจำล้ำค่าอันนั้น และกลายเป็นพลังปกป้องเจ้าของสุดชีวิต
“เฉกเช่นตุ๊กตาหมีนุ่นทะลัก ที่คอยปกป้องเด็กน้อยยามวิกาลจากเหล่าภูตผีในจินตนาการ”
Trash Beast ปีศาจที่มีต้นกำเนิดมาจากกองขยะที่ถูกทิ้ง
ภาชนะบรรจุชีวิต ถุงมือเปื้อนฝุ่นที่เป็นมากกว่าแค่อาวุธ
ภาพที่สะท้อนสัจธรรมข้อนี้ได้ชัดเจนที่สุด คงหนีไม่พ้น ‘ถุงมือคู่เก่า’ ที่รูโด้สวมติดตัวอยู่ตลอดเวลา
หากใช้มาตรฐานของชาวเกาะลอยฟ้าตัดสิน ถุงมือหนังคู่นี้คงเป็นได้แค่ขยะสภาพยับเยิน ที่เต็มไปด้วยรอยขยะและรอยถลอก ที่สกปรกเกินกว่าจะหยิบจับและไร้ค่าเกินกว่าจะเก็บรักษา แต่สำหรับรูโด้ มันคือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ ‘เรกโตะ’ พ่อบุญธรรมผู้เก็บเขามาเลี้ยงได้ทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป
ถุงมือของรูโด้
เรกโตะเป็นคนสอนให้รูโด้รู้จักถนอมสิ่งของและมองเห็นคุณค่าในวัตถุชิ้นนั้นๆ ถุงมือคู่นี้จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่มอบความอบอุ่น แต่มันเปรียบเสมือน ‘ภาชนะบรรจุชีวิต’ ที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำ ทุกรอยถลอกบนหนังคือร่องรอยการทำงานเพื่อเลี้ยงดู ทุกรอยเปื้อนคือหลักฐานของการปกป้อง และกลิ่นบนหนังที่เหลืออยู่ คือตัวแทนของความรักที่พ่อมอบให้เด็กกำพร้าโดยไม่มีเงื่อนไข
ถุงมือของรูโด้ที่เปลี่ยนเป็นพลังจิงกิ
ทันทีที่รูโด้ร่วงสู่พื้นเบื้องล่าง ความผูกพันอันแน่นแฟ้นนี่เองที่ปลุกให้พลังในถุงมือตื่นขึ้นในฐานะ ‘จิงกิ’ (Jinki)
ในโลกของ Gachiakuta พลังทำลายล้างไม่ได้วัดกันที่ความคมของใบมีดหรือความไฮเทคของกระบอกปืน แต่วัดกันที่ ‘ความใส่ใจ’ ที่เจ้าของมีต่อของชิ้นนั้น ยิ่งรูโด้ผูกพันกับถุงมือมากเท่าไหร่ ถุงมือขยะคู่นี้ก็จะยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น
มันคือกระจกใบใหญ่ที่สะท้อนเรื่องราวได้ดีที่สุด เมื่อเด็กหนุ่มผู้ถูกตราหน้าว่าขยะ ลุกขึ้นมาต่อกรกับสัตว์ประหลาดและผู้มีอำนาจ ด้วยอาวุธข้างกายที่เป็นถุงมือเน่าๆ หน้าตาบ้านๆคู่หนึ่ง แต่มันกลับกลายเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะมันถูกหล่อหลอมขึ้นจากสิ่งเดียวที่ไม่มีใครในโลกขโมยไปจากเขาได้ นั่นคือ ‘ความทรงจำ’
ภาพตุ๊กตาหมีที่ถูกทิ้งเป็นขยะของชนชั้นสูงในเมืองลอยฟ้า
จดหมายรักถึงความทรงจำ เมื่อมูลค่าทางใจ ไม่อาจประเมินได้ด้วยราคา
บทเรียนสุดท้ายที่ Gachiakuta ทิ้งไว้ให้กับเรา จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวการต่อสู้แฟนตาซี หรือนิทานสอนใจให้เห็นค่าของขยะเพียงอย่างเดียว แต่มันคือจดหมายรักที่ส่งถึง ‘ความทรงจำ’
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ‘สมบัติ’ ที่ล้ำค่าที่สุด อาจไม่ได้วางขายอยู่ในห้างสุดหรูหรา อาจไม่ได้หรูหราถึงขั้นเป็นเพชร สมบัติของเราอาจดูไร้ราคาต่อสายตาคนทั้งโลก แต่มันคือของสิ่งเดียวที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านรอยยิ้มหรือแม้กระทั่งคราบน้ำตามาพร้อมกับเรา มันจึงมีเราเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ดีสุดว่า “หัวใจของมันนั้นมันเต้นแรงขนาดไหน”
โฆษณา