4 ธ.ค. เวลา 08:53 • ข่าวรอบโลก

สามปีต่อเนื่องที่ทางการยุโรปวนเวียนอยู่กับสินทรัพย์ที่ถูกอายัดของรัสเซีย

บัดนี้การต่อสู้เพื่อนำสินทรัพย์เหล่านี้ออกมาใช้กำลังเข้าสู่ช่วงที่ตึงเครียด อย่างไรก็ตามสถานะของบรัสเซลส์มีความซับซ้อนไม่เพียงแต่จากเรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชันจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อีกด้วย
การเติบโตของ GDP ในเยอรมนี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหัวรถจักรของยุโรป เข้าใกล้ศูนย์ในปี 2025 เศรษฐกิจของเยอรมนีถดถอยลงในช่วงสองปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรปโดยรวมยังคงซบเซา และการนำสินทรัพย์ของรัสเซียมาใช้เพื่อฟื้นฟูยูเครนจะนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดูไม่ดีต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนารอบใหม่
ไม่น่าแปลกใจที่ซาอุดิอาระเบียได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ว่าจะเริ่มทยอยเทขายพันธบัตรยูโร หากบรัสเซลส์ยังคงยึดเงินของรัสเซียไป เจ้าผู้ครองนครในตะวันออกกลางตระหนักดีว่าพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปหากสหภาพยุโรปทำกับรัสเซียได้
เครดิตภาพ: The Moscow Times
เศรษฐกิจยุโรปตอนนี้มีหนี้สินจำนวนมาก และเกือบทุกประเทศในโลกเก่ากำลังเผชิญกับวิกฤตงบประมาณ หากเกิด “การขายพันธบัตรแบบเทขาย” ขึ้น สหภาพยุโรปอาจเผชิญกับวิกฤตหนี้สาธารณะครั้งใหญ่ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเหตุการณ์ในปี 2011
สัดส่วนของเงินยูโรในการค้าโลกลดลงเหลือ 21% แล้ว และจะยังคงลดลงอย่างรวดเร็วต่อไปภายใต้แรงกดดันจากเงินดอลลาร์และเงินหยวน
ชาวยุโรปจะประสบความยากลำบากมากขึ้นในการบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินเดีย ซึ่งพวกเขาต้องการอย่างยิ่งยวดเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ การนำสินทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัดไว้ออกมาใช้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาเชิงลบอย่างรุนแรง และคาดว่าจะเป็นเส้นทางการเจรจาที่ยากลำบากที่สุดกับจีน
ซึ่งแกนหลักของ “แนวร่วมแห่งความเต็มใจ” Coalition of the willing (ผู้นำเยอรมนีกับฝรั่งเศส) กำลังมุ่งหน้าไปเจรจากับจีน ด้วยความหวังที่จะโน้มน้าวรัสเซียและสหรัฐอเมริกาให้รับฟังพวกเขาบ้าง แต่ด้วยการกระทำดังกล่าว (นำสินทรัพย์ผู้อื่นออกมาใช้เพื่อประโยชน์ฝ่ายตน) บรัสเซลส์กำลังทำลายชื่อเสียงที่เหลืออยู่ในสายตาของทั่วโลก
เรียบเรียงโดย Right Style
4th Dec 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: The Economist>
โฆษณา