Blockdit Logo (Mobile)
Light Lab แล็บแห่งแสง
•
4 ธ.ค. เวลา 09:59 • การศึกษา

โคมไฟไฮเบย์คืออะไร? แล้วต่างจากไฟโรงงานทั่วไปยังไงกันแน่

เวลาเดินเข้าโรงงาน คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า เรามักจะเห็นไฟติดอยู่บนเพดานสูงๆ ซึ่งหลายคนอาจยังสงสัยว่า
“ไฟที่ติดอยู่ด้านบนสุดของโกดังเรียกว่าอะไร?”
หรือบางคนก็ถามว่า
“โคมไฟไฮเบย์จำเป็นต้องใช้เฉพาะในโรงงานไหม?”
คำตอบคือ โคมไฟไฮเบย์ (High Bay LED) คือโคมไฟที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับ พื้นที่เพดานสูงเกิน 6 เมตร และมีการกระจายแสงแบบพุ่งลึก เพื่อให้พื้นด้านล่างสว่างทั่วถึง ไม่เกิดเงามืดในพื้นที่ทำงาน
แต่ถ้าอย่างนั้น “ไฟโรงงานทั่วไป” ที่ติดกันเกลื่อนในอาคารเพดานต่ำล่ะ? ใช้แทนกันได้ไหม? บทความนี้จะพาไปแยกความแตกต่างแบบเข้าใจง่ายที่สุด พร้อมแชร์วิธีเลือกโคมไฟไฮเบย์ให้เหมาะกับโรงงานยุคใหม่ปี 2026
โคมไฟไฮเบย์ vs ไฟโรงงาน: เหมือนกันแค่ชื่อ แต่การใช้งานต่างกันเยอะมาก
หลายคนมองว่าไฟโรงงานกับโคมไฟไฮเบย์ก็ไฟโรงงานเหมือนกัน ใช้อะไรก็ได้ แต่ในความจริง การออกแบบไม่เหมือนกัน ซึ่งส่งผลให้คุณภาพแสงแตกต่างมาก
1) จุดประสงค์การใช้งาน
  • ●
    โคมไฟไฮเบย์: ใช้กับพื้นที่เพดานสูง เช่น โรงงานผลิต คลังสินค้า ศูนย์โลจิสติกส์ สนามกีฬาในร่ม ลักษณะห้องโปร่ง โล่ง และต้องการแสงลงลึก
  • ●
    โคมไฟโรงงานทั่วไป: ใช้ในพื้นที่ความสูงปกติ 3–5 เมตร เช่น ห้องประกอบสินค้า ห้องผลิตเบา โรงอาหาร
แค่รู้ตรงนี้ก็เห็นชัดแล้วว่าทั้งสองแบบไม่ได้ออกแบบมาแทนกัน
2) การกระจายแสง
โคมไฟไฮเบย์มีมุมกระจายแสงแบบ พุ่งตรงลงล่าง (Narrow Beam)
เพื่อให้แสงส่องถึงพื้นแม้จะสูงหลายเมตร
ส่วนไฟโรงงานทั่วไปให้แสงกระจายกว้างเพื่อสว่างสม่ำเสมอในพื้นที่เพดานต่ำ
3) วัสดุและความทนทาน
  • ●
    โคมไฟไฮเบย์ใช้ฮีทซิงค์อลูมิเนียมระบายความร้อนคุณภาพสูง
  • ●
    รองรับ IP65 หรือ IP66 สำหรับกันฝุ่นกันน้ำ
  • ●
    มี IK Rating ป้องกันแรงกระแทก
ส่วนโคมไฟทั่วไปจะไม่ได้เน้นคุณสมบัติด้านความทนทานเท่ากับ เพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอย่างคลังสินค้าหรือโรงงานหนัก
ทำไมโคมไฟไฮเบย์ถึงกลายเป็นตัวเลือกหลักของโรงงานยุคใหม่?
ปี 2026 หลายโรงงานกำลังเปลี่ยนระบบไฟทั้งอาคารมาเป็น LED High Bay เพราะให้ความคุ้มค่าทั้งด้านการประหยัดไฟ ความสว่าง และความปลอดภัยต่อพนักงาน
1) เลือกกำลังวัตต์ตามความสูงเพดาน
  • ●
    6–8 เมตร → 100–150W
  • ●
    9–12 เมตร → 150–200W
  • ●
    12 เมตรขึ้นไป → 200–300W
ถ้ากำลังวัตต์น้อยเกินไป พื้นจะไม่สว่างตามมาตรฐานความปลอดภัย (มาตรฐาน Lux)
2) เลือกค่า CRI ให้เหมาะกับงาน
ถ้าโรงงานมีขั้นตอนตรวจคุณภาพสินค้า (QC) ค่า CRI สูงกว่า 80 จำเป็นมาก เพราะช่วยให้มองเห็นสีได้ถูกต้องและไม่ผิดเพี้ยน
3) ดูมาตรฐานความทนทาน
  • ●
    IP65 ขึ้นไปสำหรับโรงงานทั่วไป
  • ●
    IP66 สำหรับพื้นที่เปียกหรือพื้นที่ล้างทำความสะอาด
  • ●
    IK08 ขึ้นไปสำหรับพื้นที่ที่มีแรงกระแทก เช่น โฟล์คลิฟต์วิ่งใกล้ๆ
4) วัสดุฮีทซิงค์ต้องมีประสิทธิภาพ
ฮีทซิงค์อลูมิเนียมแบบซี่ถี่ๆ จะช่วยระบายความร้อน ลดการเสื่อมของชิป LED ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
5) บริการหลังการขาย
สิ่งที่หลายโรงงานมองข้าม คือ
โคมไฟไฮเบย์ติดอยู่บนความสูงเกิน 10 เมตร ถ้าต้องซ่อมคือเรื่องใหญ่!
ควรเลือกแบรนด์ที่มีรับประกัน 3–5 ปีและมีทีมบริการหลังการขายชัดเจน
สรุปง่ายๆ: โคมไฟไฮเบย์ = ไฟสำหรับเพดานสูงจริงๆ ไม่ใช่ทุกพื้นที่ใช้แทนกันได้
โคมไฟไฮเบย์เป็นโคมไฟที่ถูกคิดค้นมาเพื่อพื้นที่เพดานสูงโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน คลังสินค้า สนามกีฬา หรือฮอลล์จัดงาน จุดเด่นคือให้แสงสว่างลึก พุ่งตรง ไม่ฟุ้ง และให้ความประหยัดพลังงานสูงกว่าไฟแบบเดิมหลายเท่า
ในขณะที่ไฟโรงงานทั่วไปเหมาะกับพื้นที่เพดานต่ำและไม่ต้องการลำแสงพุ่งลึกมากนัก
ดังนั้น ก่อนติดตั้งไฟโรงงานครั้งต่อไป ลองถามตัวเองว่า
“พื้นที่สูงเท่าไหร่ และต้องการแสงแบบไหน?”
แค่นี้ก็จะเลือกโคมไฟได้เหมาะสม คุ้มค่า และปลอดภัยที่สุดสำหรับพนักงานและกระบวนการผลิต
โฆษณา