ปล่อยคลิปลับบนโลกออนไลน์ มีความผิดทางกฎหมายแค่ไหน ?
คลิปลับและรูปอนาจาร เป็นเนื้อหาสุ่มเสี่ยงที่อาจมีผู้ไม่หวังดีนำไปเผยแพร่ได้ทุกเมื่อ ส่วนคนที่นำสื่อเหล่านี้ไปแชร์บนโลกออนไลน์ ก็ย่อมต้องได้รับโทษทางกฎหมายตามลักษณะการกระทำผิด
ไทยพีบีเอส รวบรวมโทษทางกฎหมายในความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลอนาจารตามพฤติการณ์ต่าง ๆ พร้อมวิธีการรับมือหากตกเป็นเหยื่อของการปล่อยคลิปลับบนโลกออนไลน์
🔗 อ่านบทความต่อที่เว็บไซต์ไทยพีบีเอส: www.thaipbs.or.th/now/content/3439
โพสต์คลิปลับ เสี่ยงคุกสูงสุด 5 ปี – คลิปแบล็กเมล/อนาจารเด็ก โทษยิ่งหนัก
หากใครเผยแพร่คลิปลับหรือสื่อลามกใด ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) ฐาน “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคนที่แชร์คลิปลับหรือรูปลามกนั้นต่อ ก็ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเหมือนกันตามมาตรา 14(5)
การเผยแพร่ ครอบครอง หรือส่งต่อคลิปลับ มีความผิดทางกฎหมาย
ขณะที่การเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เช่น มีการเก็บเงินค่าเข้ากลุ่ม เก็บเงินค่าสมาชิก หรือค้าสื่อนั้น ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287(1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากใครจงใจถ่ายคลิปลับไว้เพื่อบังคับขู่เข็ญผู้อื่น ก็ถือว่าเข้าข่ายความผิดฐาน “รีดเอาทรัพย์” อีกกระทงหนึ่ง ตามมาตรา 338 โดยมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับ 20,000-200,000 บาท
ทั้งนี้ หากใครครอบครองคลิปลับหรือสื่อลามกอนาจารของเด็กหรือกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษตามมาตรา 287/1 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ถ้าส่งต่อซึ่งคลิปลับเด็กนั้นให้แก่ผู้อื่น ก็จะมีโทษเพิ่มเป็นจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากใครค้าขายหรือโฆษณาสื่อลามกเด็ก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท ทั้งนี้ ในปัจจุบัน คดีที่เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็กถือเป็น ‘คดีพิเศษ’ แล้ว
หากตกเป็นเหยื่อโพสต์คลิปลับ ต้องทำอย่างไร ?
ไม่มีใครอยากตกเป็นเหยื่อคลิปหลุดคลิปลับใด ๆ แต่บางครั้ง ผู้เสียหายก็อาจถูกคนรัก (เก่า) หรือคนใกล้ตัว แอบถ่ายคลิปลับเก็บไว้โดยไม่รู้ตัวเพื่อใช้แบล็กเมลทางเพศ (sextortion) หากเห็นคลิปหลุดของตัวเองบนโลกออนไลน์ สิ่งที่ต้องทำโดยด่วนนั้น ได้แก่
- ตั้งสติให้ดี แล้วรวบรวมหลักฐานและลิงก์คลิปลับที่เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งโพสต์ต้นทางและคนแชร์
- รีบดำเนินการแจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่ ตำรวจไซเบอร์ หรือแจ้งความออนไลน์ที่: www.thaipoliceonline.go.th
- ในกรณีที่ถูกข่มขู่หรือรีดทรัพย์ และผู้ไม่หวังดีใช้คลิปลับเป็นเครื่องมือ อย่าเพิ่งทำตามข้อเรียกร้องใด ๆ
- ใช้แพลตฟอร์มจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อยับยั้งการเผยแพร่คลิปลับหลุด อาทิ stopncii.org (สำหรับผู้ใช้งานอายุ 18 ปีขึ้นไป) และ takeitdown.ncmec.org (สำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี)
การปล่อยคลิปลับ เข้าข่าย 'sextortion' หรือการแบล็กเมลทางเพศ
ทั้งนี้ Thai PBS Verify มีคำแนะนำในการป้องกันคลิปหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ หลุดบนโลกออนไลน์ไว้ ดังนี้
- ไม่ถ่ายภาพที่ไม่อยากให้หลุด ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะเมื่อไม่มีอยู่ในเครื่อง ก็ไม่มีอะไรให้หลุดไปได้
- หลีกเลี่ยงการซิงก์ข้อมูลกับบริการ Cloud หากไม่จำเป็น หรือปิดการซิงก์อัตโนมัติ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่สามารถเข้าถึงบัญชี Cloud ส่วนตัวได้
- ใช้การเข้ารหัส หากต้องส่งภาพหรือข้อมูลสำคัญ ควรเข้ารหัสก่อนส่ง และให้ปลายทางใช้คีย์ถอดรหัส เช่น การใช้แอปพลิเคชันเข้ารหัสหรือส่งผ่านช่องทางปลอดภัย
- อย่าให้ใครเข้าถึงเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยง่าย และระมัดระวังก่อนจะส่งภาพหรือข้อมูลส่วนตัวให้ใครก็ตามบนโลกออนไลน์
นอกจากการจัดการเรื่องกฎหมายและคดีความแล้ว ผู้เสียหายเองก็ควรได้รับการเยียวยาจิตใจและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่ง ‘รัฐ’ และเจ้าหน้าที่รัฐต้องช่วยสนับสนุนให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นคดีคลิปลับหรือคดีร้ายแรงใด ๆ ก็ตาม
ติดตามบทความและเรื่องราวทันทุกกระแสที่ Thai PBS NOW: www.thaipbs.or.th/now
การดูแลจิตใจเหยื่อคลิปลับก็สำคัญ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
