9 ธ.ค. เวลา 00:58 • หุ้น & เศรษฐกิจ

📌 ฐานภาษี 20% ควรยื่นเครดิตภาษีเงินปันผลหรือไม่?

หลายคนคิดว่า “ฐานภาษีเราเท่ากับภาษีนิติบุคคล 20% → ไม่ต้องยื่นก็ได้มั้ง?”
แต่ในทางปฏิบัติ ส่วนใหญ่ควรยื่น เพราะทำให้ไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน และอาจได้เงินคืน 💸
💡 เครดิตภาษีเงินปันผลคืออะไร?
เป็นสิทธิที่ช่วยแก้ปัญหา “ภาษีซ้ำซ้อน”
บริษัทถูกหักภาษีกำไรก่อนจ่ายปันผล 1 รอบ
ผู้ถือหุ้นถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากปันผลอีกรอบ
➡️ ดังนั้นเราจึงมีสิทธิขอคืนภาษีบางส่วนได้
📍 สูตรคำนวณ “เครดิตภาษีเงินปันผล”
เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย คนทั่วไปนำไปใช้ได้ 👇
❤️ สูตรจำง่าย
เครดิตภาษีเงินปันผล = (เงินปันผล × อัตราภาษีนิติบุคคล) ÷ (100 − อัตราภาษีนิติบุคคล)
🧮 ตัวอย่างคำนวณแบบจับมือทำ
มานีได้ปันผล 20,000 บาท
บริษัทที่จ่ายปันผลเสียภาษีนิติบุคคล 20%
นำเข้าสูตร 👇
(20,000 × 20) ÷ (100 − 20)
= 400,000 ÷ 80
= 5,000 บาท ← เครดิตภาษีเงินปันผล
จุดสำคัญ ✨
เงิน 5,000 นี้เคยถูกหักไปตอน “บริษัท” เสียภาษี
🔍 แล้วต้องทำอย่างไรกับเครดิตนี้?
ต้องนำมารวมเป็นรายได้ก่อนคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา
รายได้สำหรับคำนวณภาษี
= เงินปันผล 20,000 + เครดิต 5,000
= 25,000 บาท
ถ้าอยู่ฐานภาษี 20%
ภาษีที่จะต้องเสียจากเงินก้อนนี้
= 25,000 × 20%
= 5,000 บาท
✨ แล้วแตกต่างยังไงถ้า “ไม่ยื่นเครดิต”?
จะเสียภาษีซ้ำซ้อนรวม 7,000 บาท
เท่ากับได้รับปันผลสุทธิแค่ 18,000 บาท
แต่ถ้ายื่น ✨
เสียจริงเพียง 5,000 บาท
ได้คืน 2,000 บาท
ได้ปันผลกลับมาเป็น 20,000 บาท
📌 สรุป → ยื่นเครดิตภาษี = จ่ายน้อยลง ได้เงินจริงคืนมาเพิ่มบางส่วน
📝 ข้อแนะนำ
ในเอกสารรับปันผลจาก TSD มีระบุชัดว่า บริษัทเสียภาษีกี่ %
ระบบยื่นภาษีออนไลน์คำนวณให้อัตโนมัติ ไม่ต้องกรอกหรือคิดเองทุกตัวเลข โดยโหลดข้อมูลจาก TSD investor portal
ให้ลองเทียบ “ยื่น vs ไม่ยื่น” แล้วเลือกแบบที่เสียภาษีน้อยที่สุด 🎯
🟣 บทสรุปสุดท้าย
หากฐานภาษีของคุณ 20%
ควรยื่นเครดิตภาษีเงินปันผล เพื่อไม่ให้ถูกเก็บภาษีเกินไป
#หมอยุ่งอยากมีเวลา #เครดิตภาษีเงินปันผล #เงินปันผลหุ้น #ภาษี
โฆษณา