เมื่อวาน เวลา 19:07 • การเมือง

ย้อนกลับไปดูุผลของการประท้วงที่ฮ่องกง

ผลกระทบจากการประท้วงที่ฮ่องกงเมื่อปี พ.ศ. 2563 ทำให้ฮ่องกงแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง ถนนหนทางเงียบเหงาห้างร้านปิดไม่มีนักท่องเที่ยว ฮ่องกงได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และการชุมนุมประท้วงและความรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ฮ่องกงเคยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับสูงของเอเชีย เคยเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการเงิน มีความคึกคักของธุรกิจ มีคนทำธุรกิจและทำงานในฮ่องกงจำนวนมาก
แต่ต่อไปฮ่องกงจะมีอนาคตอย่างไรเมื่อเกิดการประท้วงมายาวนาน และกำลังจะถูกรัฐบาลจีนเข้ามาจัดระเบียบและลดบทบาทความสำคัญทางเศรษฐกิจลง โดยจีนมีแผนผนวกฮ่องกงและมาเก๊าเข้าไปอยู่กับมลฑลกวางตุ้งเพื่อปิดโอกาสในความเป็นอิสระทางการเมืองของฮ่องกงในอนาคต
ความเป็นมาของฮ่องกง
แต่เดิมฮ่องกงเป็นเกาะหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ ภายหลังสงครามฝิ่นฮ่องกงตกอยู่ในปกครองของอังกฤษ ต่อมาอังกฤษได้ทำสัญญาเช่าเกาะฮ่องกงจากจีนเป็นเวลา 99 ปี ตั้งแต่ปี 1898 โดยฮ่องกงจะมีการบริหารแบบทุนนิยมประชาธิปไตยและเป็นส่วนหนึ่งของเครือจักรภพอังกฤษ
ในช่วงเวลาที่อยู่ภายใต้การบริหารของเครือจักรภพอังกฤษนี้เอง เศรษฐกิจของฮ่องกงเติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการเงินอันดับต้นๆของโลก ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีความเจริญและสมัยมีอาคารสูงเกิดขึ้นมากมายและระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมพื้นที่ ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดในโลก แต่ฮ่องกงก็มีปัญหาในเรื่องราคาที่อยู่อาศัยที่สูงมากจนเกินกำลังที่คนส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของได้
เมื่อครบสัญญาเช่าปี 1997อังกฤษมอบฮ่องกงคืนให้กับจีน โดยอังกฤษขอให้จีนยอมให้ฮ่องกงปกครองตนเองแบบเดิมต่อไปอีก 50 ปี ปัจจุบันฮ่องกงเปลี่ยนเป็นเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ Hong Kong Special Administrative Region of the People's Republic of China (HKSAR)
ฮ่องกงปกครองโดยผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมีคณะรัฐบาลบริหารภายใต้การควบคุมของจีน ปัจจุบันผู้ว่าการฮ่องกงคือนางแครี่ แลม ฮ่องกงมีพื้นที่ประมาณ 1,100 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน ต่อมารัฐบาลจีนกระชับอำนาจเพื่อเข้ามามีบทบาทในการควบคุมฮ่องกงมากขึ้น
การประท้วงเริ่มจากร่างกฎหมาย
ชาวฮ่องกงมีลักษณะเฉพาะของตัวเองซึ่งต่างจากจีนมาก แม้แต่ภาษาที่ใช้ชาวฮ่องกงใช้ภาษาจีนกวางตุ้ง ส่วนจีนใช้ภาษาจีนกลางเป็นภาษาทางการ รัฐบาลจีนพยายามจะให้ฮ่องกงเปลี่ยนมาใช้ภาษาจีนกลางเหมือนจีน ชาวฮ่องกงจำนวนมากเริ่มไม่พอใจที่รัฐบาลจีนเริ่มรุกเข้ามากำหนดวิถีชีวิตและอนาคตของฮ่องกงมากขึ้นโดยเฉพาะการเข้ามาควบคุมทางกฏหมาย
สาเหตุของการประท้วงเกิดจากการต่อต้านร่างกฏหมายที่เสนอโดยรัฐบาลฮ่องกงเกี่ยวกับการส่งผู้กระทำความผิดกลับไปพิจารณาคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ผู้ประท้วงต่อต้านการที่จีนจะเข้ามาครอบงำทางกฎหมายในฮ่องกง เรื่มมีการประท้วงมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2019 แล้ว การประท้วงเกิดขึ้นหลายครั้งและเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทางการของฮ่องกงเริ่มปราบปรามการประท้วงด้วยความรุนแรง จนมีผู้ประท้วงเสียชีวิตจากการถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ผู้ประท้วงบางคนก็ฆ่าตัวตาย ทำให้ผู้ประท้วงเพิ่มข้อเรียกร้องขึ้นโดยขอให้ผู้ว่าการคนปัจจุบันลาออกและให้รัฐบาลฮ่องกงจัดให้มีการเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติและคณะผู้บริหารโดยชาวฮ่องกงเองและให้พิจารณาความผิดของเจ้าหน้าที่ที่ทำรุนแรงต่อผู้ประท้วง
แม้ว่าผู้ว่าการฮ่องกงจะถอนร่างกฏหมายดังกล่าวออกไปแล้ว แต่มันก็สายเกินไปที่จะระงับการประท้วงที่ยังคงดำเนินต่อไป การประท้วงจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิคแล้ว 8 คน มีผู้บาดเจ็บกว่า 2,600 คน ถูกจับกุม 9,000 คน ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนเฝ้าดูการประท้วงครั้งนี้อย่างไม่กระพริบตา รัฐบาลจีนถึงกับสั่งเคลื่อนไหวกำลังพลไปที่เสินเจิ้นที่อยู่ห่างฮ่องกงเพียง 10 กิโลเมตรเป็นการคุมเชิงอยู่ใก้ลๆ
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การประท้วงหยุดชะงักไป ผู้คนจำนวนล้านต้องกักตัวอยู่กับบ้านและหลีกเลี่ยงฝูงชน รัฐบาลปักกิ่งอาศัยโอกาสนี้ผลักดันกฏหมายความมั่นคงของชาติ ผู้นำการประท้วงและผู้เคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยถูกจับกุม บางคนกำลังหลบหนีและขอลี้ภัย มีแนวโน้มว่าการเคลื่อนไหวจะถูกผลักลงใต้ดิน
กฏหมายความมั่นคงของชาติน่าจะสร้างความไม่สบายใจให้ชาวฮ่องกง ประชาคมระหว่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาแสดงความเป็นห่วงหากกฎหมายฉบับนี้ถูกนำออกมาใช้ ภายใต้กฎหมายความมั่นคงของชาติ รัฐบาลจีนจะมีอำนาจในการเข้ามาควบคุมเรื่องความมั่นคงและสามารถดำเนินการใดๆ ในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกทางประชาธิปไตยในฮ่องกง การประท้วงทางการเมืองถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย การแสดงความเห็นคัดค้านรัฐบาลอาจเสี่ยงต่อการถูกจำคุก หากจีนเห็นว่าการแสดงออกนั้นส่งผลกระทบต่อจีนแผ่นดินใหญ่
การปรับตัวทางเศรษฐกิจของจีน
ปัญหาการประท้วงที่ยืดเยื้อมากกว่าหนึ่งปีที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ทำให้รัฐบาลจีนเริ่มมีนโยบายลดบทบาททางเศรษฐกิจของฮ่องกงลง โดยกำหนดนโยบายเชื่อมโยงเศรษฐกิจ กวางตุ้ง ฮ่องกง มาเก๊า เพื่อประสานจุดแข็งของแต่ละพื้นที่เข้าด้วยกัน มีเมืองสำคัญในแผนนี้อยู่ 4 เมืองคือ กวางเจา เสินเจิ้น ฮ่องกง และมาเก๊า นโยบายการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจนี้มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองรวมอยู่ด้วยคือการผนวกฮ่องกงเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับจีนทางเศรษฐกิจ ฮ่องกงจะไม่อาจยืนอยู่ได้อย่างเป็นอิสระอีกต่อไป
นโยบายเชื่อมโยงเศรษฐกิจนี้กลับสร้างความไม่พอใจต่อผู้ประท้วงโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว เพราะนโยบายนี้จะทำให้ฮ่องกงถูกลดบทบาทของความโดดเด่นทางเศรษฐกิจและจะต้องพื่งจีนในทุกเรื่อง อนาคตคนหนุ่มสาวเหล่านี้อาจถูกแย่งงานจากคนหนุ่มสาวที่มาหาโอกาสทางการงานจากเสินเจิ้น เพราะต่อไปธุรกิจของฮ่องกงน่าจะต้องการคนทำงานที่สามารถเชื่อมโยงทางธุรกิจกับจีนแผ่นดินใหญ่ได้ ในอนาคตคนหนุ่มสาวของฮ่องกงคงจะหางานทำได้ยากขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะไปหางานทำในจีนเพราะมีความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรม
อนาคตของฮ่องกงใต้เงาจีน
รัฐบาลจีนคงจะเข้ามาควบคุมฮ่องกงมากขี้นทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ขณะที่การประท้วงหยุดลงชั่วคราวเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ในอนาคตการประท้วงคงจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งหากสถานการณ์การระบาดของไวรัสเบาลง
นายโจวชัว หว่องหนึ่งในนักเคลื่อนไหวและผู้นำในการประท้วงที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคนหนึ่งแสดงเจตนาว่าจะสู้ต่อไป แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปเคลื่อนไหวทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการรณรงค์คว่ำบาตรผู้ประกอบการที่สนับสนุนปักกิ่งและรณรงค์ให้มีการปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง 12 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่
มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตฮ่องกงอาจต้องยกเลิกระบบการเงินและตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง โดยเปลี่ยนไปใช้เงินหยวนของจีนและจีนอาจให้ตลาดหลักทรัพย์เสินเจิ้นมาเทคโอเวอร์ตลาดหลักทรัพย์จีน อนาคตของฮ่องกงดูจะมืดมนจริงๆ
โฆษณา