13 ธ.ค. เวลา 04:04 • การศึกษา

AI-Enhanced Collaboration: ใช้ AI เพื่อเสริมพลังความร่วมมือระหว่างครูการศึกษาพิเศษและผู้ปกครอง

ในฐานะที่เป็นครูการศึกษาพิเศษ ความร่วมมือระหว่างครูฯ และผู้ปกครองสำคัญมาก เรียกได้ว่า "เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดเส้นทางพัฒนาการของเด็กเป็นรายบุคคล" งานวิจัยระดับนานาชาติ เช่น Journal of Special Education และ Exceptional Children ต่างพบว่า ความก้าวหน้าของเด็กพิเศษไม่เพียงขึ้นอยู่กับโปรแกรมการสอนเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับ คุณภาพความสัมพันธ์บ้าน–โรงเรียน อย่างลึกซึ้ง
แต่ความร่วมมือดังกล่าว ไม่ง่ายเสมอไป มันมีกำแพงที่มองไม่เห็น เพราะต่างคนต่างก็เป็นมนุษย์ที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะครูที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ กับผู้ปกครองที่มีความเชื่อมั่นในตนเองค่อนข้างสูง กำแพงกั้นยิ่งหนาเข้าไปใหญ่
ด้วยความยากลำบากนี้ เราสามารถหาตัวช่วยมาแทรกแซงเสริมพลังได้ โชคดีที่ในปัจจุบันเรากำลังอยู่ในยุคของการประยุกต์ใช้ AI ในหลายภาคส่วน การศึกษาก็เช่นเดียวกัน ผมอยากจะนำเสนอ AI-Enhanced Collaboration คือ การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยเสริมพลังความร่วมมือระหว่างคนกับคน
เพราะในโลกจริง ครูการศึกษาพิเศษต้องเผชิญกับข้อจำกัดจำนวนมาก ทั้งภาระงานที่สูง การเก็บข้อมูลพฤติกรรมรายวัน การสื่อสารกับผู้ปกครองที่หลากหลายอารมณ์ และแรงกดดันจากผลลัพธ์ของผู้เรียน ความร่วมมือกลายเป็นเรื่องท้าทายกว่าที่คิด
โดยเราสามารถนำมาใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นครูกับผู้ปกครอง ครูกับนักเรียน หรือทีมงานกับองค์กร ผมไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการนำเอา AI มาแทนที่มนุษย์ แต่ช่วยทำให้การสื่อสาร การตัดสินใจ และการทำงานร่วมกัน ง่ายขึ้น แม่นยำขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในบริบทการศึกษาพิเศษ หมายถึงการใช้ AI เพื่อ
1) เก็บข้อมูลพฤติกรรม
2) วิเคราะห์แนวโน้ม
3) ร่างข้อความถึงผู้ปกครอง
4) สร้างสคริปต์การสื่อสารที่มีความ Empathy
5) ลดภาระงาน ทำให้ครูเพื่อนำเวลามาทุ่มเทกับส่วนอื่นที่สำคัญมากขึ้น
ทุกท่านจะเห็นว่า AI ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์ แต่ช่วยให้ครูลดภาระที่กินเวลา และเปิดพื้นที่ให้ครูใช้พลังกับสิ่งที่มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ดีที่สุด คือเข้าใจนักเรียนและผู้ปกครอง
แม้ในปัจจุบันการใช้ AI ประกอบการเรียนจะค่อนข้างเป็นข้อถกเถียง มีข้อดี และข้อเสีย แต่การนำ AI มาช่วยในการทำงาน เป็นประโยชน์อย่างมาก ผมเชื่อว่าครูการศึกษาพิเศษไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะถูกแทนที่ เพราะครูไม่ได้สอนแค่ทักษะ แต่สอนด้วย “หัวใจ” และทำงานกับ “มนุษย์ที่มีความซับซ้อน”
AI เพียงเข้ามาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ครู ทำงานได้ดีขึ้น ชัดเจนขึ้น และมีพลังมากขึ้นกว่าเดิม
อ้างอิง
Hayes, S. A., & Watson, S. L. (2013). The impact of parenting stress: A meta-analysis of studies comparing the experience of parenting stress in parents of children with and without autism spectrum disorder. Journal of Autism and Developmental Disorders, 43(3), 629–642. https://doi.org/10.1007/s10803-012-1604-y
Gage, N. A., Grasley-Boy, N., Peshak George, M., Childs, K., & Kavanaugh, B. C. (2020). Universal behavior screening in schools: A systematic review. School Psychology Review, 49(1), 121–135. https://doi.org/10.1080/2372966X.2020.1717307
โฆษณา