Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
14 ธ.ค. เวลา 11:10 • การเมือง
อุบลในยามสงคราม ฮีโร่ไม่ได้มีแค่ในจอ
"ถ้าบุคคลใดฉลาดก็ตาม
รู้มากตามตำรับ
แก่สังคมก็ตาม
แต่หากขาดความพากเพียร
อย่างเดียว
ไม่มีหวังที่จะให้สำเร็จลุล่วง
ไปในจุดหมายของตน''
โอวาทธรรมพระอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดป่าคลองกุ้ง (31 มกราคมพ.ศ.2449-26 เมษายนพ.ศ.2504)
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน จริงอย่างที่พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร กล่าวไว้ข้างต้นหากรู้เเต่ตำรับตำราแล้วไม่เพียรพยายาม ก็ไม่มีหนทางใดเลยที่เราจะไปถึงจุดมุ่งหมายของเราได้ พระอาจารย์ลีได้ให้โอวาทธรรมนี้สำหรับเตือนใจบุคคลทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าท่านจะอยู่ในอาชีพใดขอให้ท่านพากเพียรในกิจที่ท่านพึงกระทำ เมื่อไม่ลดละแล้วถอยหลัง ท่านจะไปถึงความสำเร็จได้ง่ายขึ้นจากจิตใจที่ฝึกมาดีแล้ว
อย่าว่าแต่พระอาจารย์ลี ธมฺมธโรแห่งวัดป่าคลองกุ้ง ยังมีพระอาจารย์หลายองค์ที่ยังต้องฝึกฝนตนเองให้กล้าแกร่งเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ในหนังที่ทุกท่านเคยดูกัน ท่านไม่ได้มีแต่อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ แต่ท่านยังมีคำสอนมากมายที่ได้มาจากการฝ่าฟันความลำบากรวมทั้งผ่านการฝึกอบรมจิตใจมาแล้วจนได้นำความรู้นั้นมาสั่งสอนแก่พระหรือประชาชนรุ่นลูกรุ่นหลานนับไม่ถ้วน
พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร เป็นผู้ตั้งชื่อวัดอโศการาม เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระเจ้าอโศกมหาราช
หากไม่มีพระอาจารย์ทุกรูปก็คงไม่มีคำสอนในการต่อสู้กับอุปสรรคที่มาเป็นมารผจญทางกายและทางใจจนถึงทุกวันนี้ เปรียบได้กับหากขาดฮีโร่โลกก็ขาดคนดีปราบเหล่านั้น ฉะนั้นการมีหลักธรรมคำสาย การเจริญ ศีล สมาธิ ปัญญา หรืออะไรต่ออะไรที่เป็นธรรมะล้วนคือการเพิ่มพลังใจเพื่อต่อสู้กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาดังเรื่องราวต่อไปนี้
พ.ศ.2568 จังหวัดอุบลราชธานีได้กลายเป็นสมรภูมิแนวหน้าอีกครั้งในสงครามครั้งล่าสุดนี้ โดยเฉพาะพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์อย่าง ช่องอานม้า และ ช่องบก ซึ่งเป็นฉากหลังของความขัดแย้งที่ดุเดือดและเป็นที่ที่เหล่าวีรบุรุษผู้กล้าหาญทั้งในและนอกเครื่องแบบได้แสดงความเสียสละเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ
สมรภูมิเดือดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณจังหวัดอุบลราชธานีมีความตึงเครียดสูงและถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่องอานม้าที่มีภูเขาเป็นจุดสูงข่มหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยึดได้ แน่นอนว่าในสงครามนี้ภูเขาบริเวณช่องอานม้าเป็นพื้นที่ที่การปะทะมีความดุเดือด
โดยเฉพาะการต่อสู้เพื่อแย่งชิง เนิน 677 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของช่องอานม้า มีความสูง 677 เมตรจากระดับน้ำทะเลและมีความสำคัญทางทหารอย่างยิ่ง และแล้วหลังจากที่ได้ดำเนินกลยุทธ์มาเกือบ 1 สัปดาห์ทหารไทยประสบความสำเร็จในการเข้าควบคุมพื้นที่เนิน 677 ได้อย่างสมบูรณ์ 100% รวมถึงสามารถยึด เนิน 500 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์สำคัญไว้ได้ทั้งหมด 100% ด้วยเช่นกัน
เจดีย์สีขาว วัดป่าคลองกุ้ง จังหวัดจันทบุรี
แต่ทว่าภัยคุกคามจากฝั่งกัมพูชาในพื้นที่นี้มีการใช้ยุทธวิธีที่รุนแรงและทันสมัย แน่นอนว่าการโจมตีด้วยอาวุธหนัก ทางทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 (บีเอ็มยี่สิบเอ็ด) โจมตีใส่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง
มีรายงานว่าทหารกัมพูชาใช้ คาสิโนขนาดใหญ่ ใกล้ช่องอานม้าเป็นแหล่งสะสมกำลังพลและเป็นจุดปล่อยโดรน นอกจากนี้ยังมีการทำลายบ้านหลังคาสีแดง 3 ชั้น ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่รับรองแขกชั้นผู้ใหญ่และการประชุมกับทางการกัมพูชา
การปะทะในสงครามนี้มีการโดรนพลีชีพสมรรถนะสูงต่อกรกับฝั่งไทยที่ช่องอานม้า
โดยจะเห็นได้จากมีหลายสื่อรายงานว่ามีการตรวจพบการใช้โดรนชนิด FPV (First Person View) ที่ติดตั้งลูกกระสุนค.ขนาด 82 มม. และใช้สายไฟเบอร์ออปติกในการบังคับ โดยคาดว่าอาจมีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้าช่วยฝึกสอนและควบคุมการใช้โดรนในระบบขั้นสูงนี้
สถานการณ์ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ก็เป็นที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงกล่าวคือถอยห่างฝ่ายละ 200 เมตร โดยมีรายงานการตรึงกำลังพลประมาณ 800 นายในพื้นที่ช่องบก และก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีการวางกำลังเพิ่มเติมบริเวณเนิน 745 อีก 50-60 นาย
ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนที่ผ่านมามีรายงานว่าทหารกัมพูชาได้ตั้งฐานทหารบน เนิน 741 และเนิน 745 ซึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย เนิน 741 ถือเป็น "จุดสูงข่ม" ที่สามารถมองเห็นและยิงปืนใหญ่ข้ามไปยังเนิน 745 ได้
ไม่เพียงเท่านี้กัมพูชาได้สร้างถนนคอนกรีตขึ้นไปยังเนิน 745 และพยายามสร้างต่อไปยังพลาญศรีเสกใกล้ช่องบกเพื่อสนับสนุนการรุกล้ำ นอกจากนี้ยังมีการใช้ถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ "ถ้ำปืนเขมรแดง" ซึ่งลึกกว่า 50 เมตร เป็นคลังเก็บอาวุธและที่กำบังกำลังพลหลายร้อยนายจากปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายไทย โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศจากฝีมือของ F-16
พิกัดของเนิน 677
สำหรับเรื่องเล่า "ฮีโร่ไม่ได้มีแค่ในจอ" สะท้อนถึงความกล้าหาญและการพลีชีพของทหารไทยในการทวงคืนอธิปไตยในพื้นที่อุบลราชธานี โดยจะเห็นได้จากการเข้ายึดและควบคุมเนิน 677 ได้อย่างสมบูรณ์ถือเป็นความภาคภูมิใจ หลังจากยึดพื้นที่ได้ ทหารไทยได้มีการ ปักธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเนิน 677 พร้อมกับร่วมกันร้องเพลงชาติด้วยความฮึกเหิม
นอกจากชัยชนะแล้วการปฏิบัติการยังนำไปสู่การค้นพบหลักฐานสำคัญที่ตอกย้ำถึงภัยคุกคาม โดยทหารไทยตรวจยึดโทรศัพท์ 8 เครื่องและสมุดบันทึกการปฏิบัติงาน 1 เล่ม ที่เนิน 677 ซึ่งในสมุดดังกล่าวมีแผนผังการวางทุ่นระเบิด และกับระเบิดของทหารกัมพูชา
ในการเข้ายึดเนิน 677 ที่ช่องอานม้า ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียของเหล่าวีรชน รายชื่อทหารที่พลีชีพในสมรภูมิช่องอานม้า เนิน 677 มีดังนี้
▶️ จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง
▶️ พลทหาร มุสตะกีม เจ๊ะมะ
▶️ จ่าสิบเอก ทวีรัตน์ รัตนบุรี
▶️ พลทหาร กฤตฏิกร สร้อยระย้า
▶️ สิบเอก พชร แย้มแตงอ่อน (เสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิดเข้าที่ศีรษะ)
ร่างของสิบเอก พชร ได้ถูกนำไปบำเพ็ญกุศลที่พุทธสถาน มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะเคลื่อนกลับบ้านเกิดที่ลพบุรี นอกจากนี้ยังมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บอีกหลายนายจากการปะทะในพื้นที่นี้
จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง
ไม่มช่แค่ครอบครัวทำหารที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการสูญเสียลูกหลาน ความตึงเครียดที่ชายแดนยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง และมีการเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพ 100%
ในขณะที่สงครามกำลังเป็นไปอย่างดุเดือดผู้นำท้องถิ่นได้กำชับชาวบ้านในอำเภอน้ำยืนให้เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ทั้งข้าวเปลือกและมันสำปะหลัง ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่ได้ไปอยู่ศูนย์พักพิงต้องเสี่ยงตายฝ่าเสียงปืนออกมาหาปลาตามหนองน้ำและทุ่งนาเพื่อหาเสบียงสำหรับมื้อค่ำ เนื่องจากตลาดและร้านค้าปิดทำการ และเสบียงที่เตรียมไว้ก็เริ่มร่อยหรอ ชายคนหนึ่งที่เฝ้าบ้านอยู่ระบุกับทีมข่าวว่า เขาไม่สามารถทำงานรับจ้างขุดมันสำปะหลังได้ เพราะเจ้าของโรงงานไม่กล้าเปิดรับซื้อในสถานการณ์เช่นนี้
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่การปะทะมีความเข้าใจในสถานการณ์และไม่ไว้ใจการหยุดยิงชั่วคราวใด ๆ พวกเขาแสดงความต้องการให้ทหารไทยสู้รบให้ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ให้จบในรอบนี้ เพราะถ้าหยุดยิงแล้วกัมพูชาเข้ามารุกรานอีก ก็จะทำให้เกิดปัญหาซ้ำเดิม และลูกหลานในพื้นที่ชายแดนก็จะคิดว่าแผ่นดินนั้นเป็นของกัมพูชา ชาวบ้านเชื่อว่า พวกเขาในฐานะคนในพื้นที่ รู้ดีว่ากัมพูชามีนิสัยเป็นแบบไหน และไม่ต้องการให้ไปฟังคำแนะนำจากผู้นำต่างชาติ
พลทหาร มุสตะกีม เจ๊ะมะ
ในพื้นที่อุบลกำลังทหารภาคพื้นดินของไทยว่ารบเดือดเเล้ว แต่ยังไม่เดือดเท่าฮีโร่จากท้องฟ้า พวกเขาไม่ใช่ The Avengers พวกเขาคือนักบินแห่งกองทัพอากาศไทย ผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวในการบังคับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเครื่องบินขับไล่กริพเพนเข้าสนับสนุนภารกิจ โดยมีส่วนสำคัญในการตัดกำลังของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่อุบลราชธานี โดยการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่แฝงตัวเป็นอาคารพลเรือน
ซึ่งหลังจากที่ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวกรองว่าทหารกัมพูชาใช้กาสิโนขนาดใหญ่ บริเวณช่องอานม้าเป็นแหล่งสะสมกำลังพลและเป็นจุดปล่อยโดรนโจมตีทำให้ต้องวางแผนก่อนเปิดการปฏิบัติทางทหารทำลายสถานที่ดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการใช้บ้านหลังคาสีแดง 3 ชั้น ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่รับรองแขกชั้นผู้ใหญ่และการประชุมกับทางการกัมพูชา
เมื่อตรวจพบว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง กองทัพอากาศไทยจึงต้องส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 เข้าโจมตีทางอากาศ โดยมีการทิ้งระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 Paveway II (จีบียูทเวลฟ์เพฟเวย์ทู) เข้าใส่เป้าหมายอาคารบ่อนกาสิโนและบ้านหลังใหญ่ดังกล่าวอย่างจัง เพื่อทำลายภัยคุกคามให้สิ้นสภาพ
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของ F-16 และเครื่องบินรบสุดไฮเทคอย่าง Gripen ยังอาจเป็นบทเรียนที่ทำให้ทหารกัมพูชาต้องใช้ถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ช่องบกเป็นที่กำบังทางทหารเพื่อหลบการโจมตีทางอากาศของไทยไปจนกว่าสงครามจะจบ
ในสมรภูมิที่อุบลเครื่องบินขับไล่ F-16 ได้เป็นฮีโร่นอกจอเงินที่ปกป้องดินแดนไทย
สถานการณ์ที่อุบลราชธานีในช่วงสงครามนี้จึงเต็มไปด้วยความท้าทายที่ต้องเผชิญหน้ากับอาวุธหนักและยุทธวิธีอันแยบยลของฝ่ายตรงข้าม แต่ด้วยการสู้รบอย่างไม่ลดละของทหารหาญและการยืนหยัดอย่างกล้าหาญของประชาชน ทำให้ผืนแผ่นดินไทยยังคงได้รับการปกป้องไว้ได้ ด้วยความร่วมมือระหว่างกองทัพบกและกองทัพอากาศที่ใช้ศักยภาพทางทหารขั้นสูงในการตอบโต้ จึงทำให้ปฏิบัติการทวงคืนอธิปไตยในสมรภูมิช่องอานม้าและช่องบกมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
หากเปรียบสมรภูมินี้เป็นเหมือนกระดานหมากรุกที่ต้องใช้ไหวพริบและกำลังพลเข้าห้ำหั่นกัน ทหารไทยก็มิได้เพียงแต่นำกำลังเข้าสู่สนามรบเท่านั้น แต่ยังใช้ "ม้าศึกเหินเวหา" เช่น F-16 และ Gripen ที่ว่องไว เหนือกว่าและแม่นยำเพื่อโจมตีฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้ามจากฟ้าอย่างเด็ดขาด เป็นการตัดกำลังที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการรุกรานที่กำลังเกิดขึ้น
สงครามนี้จะชนะหรือไม่ยังตอบไม่ได้ เพราะฮีโร่นอกจอภาพยนตร์กำลังต่อสู้อย่างหนักกับเหล่าร้ายที่ไม่ใช่ตัวร้ายในหนังค่าย Marvel หรือ DC ที่ทุกท่านเคยรับชม นี่คือทหารกัมพูชาตัวร้ายนอกจอที่กำลังคุกคามสันติภาพประเทศไทย หากปราบเหล่าร้ายลงได้ ประเทศไทยจะกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง ขณะนี้ผู้เขียนขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
Thairath TV
The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก
Natee Sukcharoen
เชียงใหม่ที่คุณไม่เคยเห็น
ลูกศิษย์ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม
Liyu Wu
ArmC4
Sniper News
นักรบไม้กระดก
เรียบเรียงโดย : จ่าหวาน เกรียงไกร
สงคราม
ข่าว
ธรรมะ
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย