วันนี้ เวลา 10:31 • การตลาด

รู้จักแหล่งรายได้ของกิจการตนเองให้ลึก ก่อนกู้

ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ต้นทุนธุรกิจยังเดินหน้าไม่หยุด การเข้าถึง สินเชื่อเงินกู้ สำหรับ SME ไทยยังถือเป็น “ด่านหิน” หลายรายมียอดขายจริง มีกำไร มีลูกค้าประจำ แต่เมื่อยื่นขอ สินเชื่อธุรกิจsmeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กลับถูกปฏิเสธหรือได้วงเงินต่ำกว่าที่คาดหวัง ทั้งที่ต้องการ เงินกู้sme ไปขยายกำลังการผลิต หรือต่อทุนในช่วงที่โอกาสทางธุรกิจกำลังมา
ข้อมูลจากต่างประเทศและรายงานเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับ SME ไทยสะท้อนภาพคล้ายกันว่า แม้ SME จะเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจ แต่การเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารยังจำกัด และมักติดอยู่ที่ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยงของสถาบันการเงิน
หนึ่งในคำถามสำคัญที่เจ้าหน้าที่สินเชื่อใช้เป็น “แว่นตา” มองธุรกิจของท่าน คือคำถามง่าย ๆ ว่า
“ใครกันแน่คือคนที่จ่ายเงินให้ธุรกิจของคุณ?”
คำถามนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับหัวข้อ “กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: ใครคือผู้จ่ายเงินให้ธุรกิจของท่าน” และเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ผู้พิจารณามั่นใจมากขึ้นในการปล่อย สินเชื่อsmeไม่มีหลักทรัพย์2568 หรือโครงการในกลุ่ม แหล่งเงินทุนไม่มีหลักทรัพย์ ที่เน้นดูศักยภาพรายได้แทนหลักทรัพย์ค้ำประกัน
1. ทำไม “ใครจ่ายเงินให้คุณ” จึงสำคัญต่อการอนุมัติสินเชื่อhttps://www.easycashflows.com/knowledge/sme-business-loans
สำหรับ สินเชื่อเงินกู้ ที่ไม่ใช้บ้าน ที่ดิน หรือทรัพย์ถาวรเป็นหลักประกัน ผู้ให้กู้จำเป็นต้องหาหลักฐานอื่นมายืนยันว่า ธุรกิจสามารถสร้างกระแสเงินสดได้จริง และมีความต่อเนื่องพอจะชำระหนี้ระยะยาวได้
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจึงไม่ใช่แค่ “คำอธิบายการตลาด” แต่เป็นปัจจัยด้านเครดิตโดยตรง เพราะสะท้อนว่า
รายได้ของธุรกิจพึ่งพาลูกค้ากลุ่มใดมากที่สุด
กลุ่มลูกค้านั้นมีความมั่นคงเพียงใด (เช่น เป็นองค์กรใหญ่ บริษัทจดทะเบียน หรือกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป)
พฤติกรรมการจ่ายเงินของลูกค้ากลุ่มหลักเป็นอย่างไร (จ่ายตรงเวลา จ่ายช้า หรือต้องตามหนี้บ่อย)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยผลักดันแนวทางใช้ “ข้อมูลเชิงพฤติกรรม” และข้อมูลดิจิทัลอื่น ๆ มาช่วยประเมินความสามารถชำระหนี้ แทนการพึ่งแต่หลักทรัพย์และงบการเงินแบบเดิมเพียงอย่างเดียว
นั่นหมายความว่า รายละเอียดเรื่องลูกค้าและยอดขายที่พิสูจน์ได้ด้วยข้อมูลจริง กลายเป็น “ทรัพย์สินข้อมูล” ที่ช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสเข้าถึง สินเชื่อธุรกิจsmeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มากขึ้น
2. จัดกลุ่มลูกค้าอย่างไรให้ธนาคาร “เห็นภาพธุรกิจชัดใน 1 หน้า”
การอธิบายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ผู้พิจารณาเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องใช้ศัพท์ซับซ้อน แต่ควรมีโครงชัดเจน ดังนี้
2.1 แบ่งตามประเภทลูกค้าและช่องทางรายได้
B2C (ขายปลีกให้ผู้บริโภคทั่วไป)
เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าออนไลน์ ร้านเสริมสวย
จุดแข็ง: ยอดขายกระจายตัว ลูกค้าหลากหลาย ไม่พึ่งรายใหญ่เพียงเจ้าเดียว
สิ่งที่ควรแสดง: ยอดขายเฉลี่ยต่อวัน/เดือน, สัดส่วนลูกค้าประจำ, ข้อมูลจากระบบ POS หรือแพลตฟอร์มออนไลน์
B2B (ขายให้ธุรกิจ/องค์กร)
เช่น โรงงานรับจ้างผลิต ธุรกิจบริการดูแลอาคาร ซัพพลายเออร์สินค้าส่งให้ร้านค้า
จุดแข็ง: มูลค่างานต่อดีลสูง มีสัญญาและ PO รองรับ
สิ่งที่ควรแสดง: รายชื่อคู่ค้าใหญ่, ระยะเวลาสัญญา, รอบวางบิล–รับชำระ, ประวัติการจ่ายเงินตรงเวลา
ช่องทางออนไลน์–แพลตฟอร์มดิจิทัล
เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop, แพลตฟอร์มเดลิเวอรี
จุดแข็ง: มีรายงานยอดขายอย่างเป็นระบบ สามารถดึงข้อมูลย้อนหลังได้
สิ่งที่ควรแสดง: ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน, อัตราเติบโต, สัดส่วนยอดขายแต่ละแพลตฟอร์ม
การจัดข้อมูลในลักษณะนี้ทำให้ผู้ให้กู้เห็นโครงสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว และใช้พิจารณาควบคู่กับคำขอ เงินกู้sme, เงินกู้ด่วน หรือวงเงินในกลุ่ม สินเชื่ออนุมัติง่ายไม่เช็คภาระหนี้ ที่อิงพฤติกรรมรายได้จริงเป็นหลัก (แม้ในทางกฎหมายจะยังต้องตรวจสอบภาระหนี้และเครดิตบูโรอยู่ก็ตาม)
3. กลุ่มลูกค้าแบบไหน “ถูกใจ” ผู้ให้กู้ในมุมสินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์
เมื่อมองผ่านเลนส์ของสถาบันการเงิน กลุ่มลูกค้าบางลักษณะมีน้ำหนักเชิงบวกต่อการตัดสินใจปล่อย สินเชื่อเงินกู้ ให้ SME มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่เป็น แหล่งเงินทุนไม่มีหลักทรัพย์ หรือมี บสย. ช่วยค้ำประกันบางส่วน
(1) ฐานลูกค้าประจำที่ซื้อซ้ำต่อเนื่อง
ธุรกิจที่มีสัดส่วนลูกค้าประจำชัดเจน เช่น ร้านอาหารที่ลูกค้าแวะทุกสัปดาห์ ร้านขายส่งวัสดุก่อสร้างให้ผู้รับเหมาชุดเดิม หรือบริการดูแลอาคารแบบสัญญารายปี จะเป็นสัญญาณว่า รายได้ในอนาคตมีความคาดการณ์ได้สูง
ยิ่งมียอดขายจากลูกค้าประจำสัดส่วนสูงเท่าไร ความเสี่ยงรายได้เหวี่ยงก็ยิ่งต่ำลงเท่านั้น
(2) ลูกค้ารายใหญ่ที่มีเครดิตดีในตลาด
หากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นบริษัทขนาดใหญ่ องค์กรรัฐ หรือผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรม การแนบชื่อคู่ค้า PO หรือสัญญาจ้าง (โดยปิดบังข้อมูลอ่อนไหวที่ไม่จำเป็น) จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้คำขอ กู้sme อย่างมาก เพราะผู้ให้กู้เชื่อว่า ลูกค้าเหล่านี้มีความสามารถชำระเงินตามกำหนดสูง
(3) โครงสร้างลูกค้าที่หลากหลาย ไม่พึ่งรายเดียวเกินไป
ในทางกลับกัน หากรายได้ส่วนใหญ่พึ่งลูกค้ารายเดียว (เช่น 60–80% ของยอดขาย) ผู้ให้กู้จะมองว่า ความเสี่ยงสูงกว่ากรณีที่รายได้กระจายตัว แม้คู่ค้ารายนั้นจะเป็นบริษัทใหญ่ก็ตาม
การแสดงตาราง “Top 10 ลูกค้าหลัก” พร้อมสัดส่วนยอดขายและประวัติการจ่ายเงิน จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ผู้พิจารณามองเห็นภาพรวมความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของรายได้ และช่วยให้คำขอ สินเชื่อธุรกิจsmeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดูมีน้ำหนักมากขึ้น
ในภาพรวม แนวโน้มด้านนโยบายการเงินและการค้ำประกันสินเชื่อของรัฐในช่วง 2567–2568 เช่น โครงการ PGS ระยะที่ 11 และโครงการเสริมสภาพคล่องผ่านธนาคารของรัฐ ยิ่งสะท้อนว่า กลุ่ม SME ที่สามารถแสดงข้อมูลลูกค้าและรายได้อย่างโปร่งใส มีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากภาคการเงินมากขึ้นกว่าที่เคย
4. เปลี่ยน “ข้อมูลลูกค้า” ให้เป็นแต้มต่อในการกู้ SME
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการยื่นขอ สินเชื่อsmeไม่มีหลักทรัพย์2568 หรือกำลังมองหา แหล่งเงินทุนไม่มีหลักทรัพย์ เพื่อขยายกิจการ การเตรียมข้อมูลเรื่องกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างเป็นระบบ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำได้ทันที โดยอาจเริ่มจาก
ทำสรุปกลุ่มลูกค้าหลัก 1 หน้า แยกตามประเภท (B2B/B2C/ออนไลน์)
ทำตาราง Top 10 ลูกค้ารายสำคัญ พร้อมสัดส่วนยอดขายและรอบรับชำระ
แนบตัวอย่างสัญญา/PO/Invoice ของดีลสำคัญ
ดึงรายงานยอดขายจาก POS หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ มาแสดงแนวโน้มรายได้ 6–12 เดือน
ข้อมูลเหล่านี้เมื่อนำไปประกอบคำขอ สินเชื่อเงินกู้, เงินกู้sme หรือ เงินกู้ด่วน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อเข้าใจภาพรวมธุรกิจได้เร็วขึ้น ลดความไม่แน่นอนในการประเมิน และเพิ่มโอกาสให้คำขอของท่านเข้าใกล้กรอบ สินเชื่ออนุมัติง่ายไม่เช็คภาระหนี้ ในเชิงความรู้สึกต่อความเสี่ยงของผู้ให้กู้ แม้ข้อกำหนดจริงจะยังต้องตรวจสอบข้อมูลเครดิตตามปกติอยู่เสมอ
5. อ่านต่อ: ทำอย่างไรให้ “ธุรกิจทั้งภาพ” น่าเชื่อถือในสายตาผู้ให้กู้
การอธิบายว่า “ใครจ่ายเงินให้ธุรกิจของท่าน” เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการขอ
สินเชื่อธุรกิจsmeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้ผ่านในปี 2568 ยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง เช่น
รายได้และกระแสเงินสดที่พิสูจน์ได้
วินัยการเงินและเครดิตของผู้กู้
เอกสารและข้อมูลที่จัดระบบอย่างมืออาชีพ
หากต้องการเห็นภาพรวมทั้งหมดว่าสถาบันการเงินใช้เกณฑ์ใดบ้างในการพิจารณา สินเชื่อสําหรับ SME ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และธุรกิจแบบใด “เหมาะ” กับสินเชื่อประเภทนี้ สามารถอ่านต่อในบทความหลักบน EasyCashFlows เรื่อง
“สินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันคืออะไร และเหมาะกับใคร”
เพื่อใช้เป็นคู่มือวางแผนเตรียมตัวก่อนยื่นขอสินเชื่อรอบต่อไป ให้ธุรกิจของท่านพร้อมทั้งในมุมยอดขาย กระแสเงินสด และความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ให้กู้.
โฆษณา