17 ธ.ค. เวลา 05:01 • บันเทิง
โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ

#อ่านคอนเสิร์ตวันพุธ Wednesday Song Vol. 12 Playlist แทน ลิปตา Artist: อิงค์ วรันธร

คอนเสิร์ตอะไรมีแต่คำว่า
🥰🥰 “น่ารัก” 🥰🥰
ลอยตะมุตะมิเต็มไปหมด
เข้าใจคนที่หลงรักคูมอิ้งค์แระ
คูมอิ้งค์ควรค่าและเหมาะกับคำนี้จริง ๆ
แล้วเหมือนกับว่าน่ารักคนเดียวไม่พอ
เรื่องราวเพลย์ลิสต์ของพี่แทน ลิปตา
ก็นุ้บนิ้บกริบกรุบตะเล้กตะน้อยไปอีก
ฟังแล้วรู้สึกว่ามันแสนจะคาวาอี้แคร์แบร์ 😙
เรียกว่าเลเวลความคาวาอี้คาวาใจนั้น
เกินหน้าเกินตาคนเล่าไปมากกก..
อยากรู้ว่าตะมุตะมิ ’เวลไหน
อยากรู้ว่าคาวาอี้เบอร์ใด
ตามมาค่ะ
.
.
.
ตามมาอ่านคอนเสิร์ต
แล้วพร้อมใจตกหลุมรัก
ศิลปินแสนน่ารักทั้งคู่นี้
ไปด้วยกัน 💖💖
==================
#อ่านคอนเสิร์ต วันพุธ
Wednesday Song Vol.12
Playlist พี่แทน ลิปตา
Concert อิ้งค์ วรันธร
==================
*ขอบคุณภาพสวย ๆ
จากเพจ Wednesday Song ค่ะ
วันก่อนค่ะ เบ็นหลงไปในดินแดนประหลาดค่ะทุกคน ดินแดนอะไรไม่รู้ทำให้ใจฟูตลอดเลย 🥰 ตลอดเวลา 3 ชั่วโมงของ Wednesday Song
คอนเสิร์ตเริ่มด้วย “พี่แทน ลิปตา” มาเปลี่ยนเวทีให้เป็นเครื่องกำเนิด “อมยิ้ม” และ “เสียงหัวเราะเล็ก ๆ” จากเรื่องราวของ Songs of the Turning Points ความอารมณ์ดี ขี้เล่น และความสนิทสนมกันของพี่แทน พี่ตุ้ม (หนุ่มเมืองจันท์) และพี่เอก (สยามพิฆเนศ) ทำให้เกิดช่วงเวลาที่น่าประทับใจ และมอบพลังบวกให้กับหัวใจเราได้ไม่ยากเลย
จากนั้นน้องอิ้งค์ วรันธรก็เปลี่ยนทั้งโรงละครให้กลายเป็นจักรวาลสีหวานสดใส จาก ...
💖 Ink beautiful appearance … ไม่ต้องทำอะไร แค่ปรากฏตัว เราก็รู้สึกเหมือนอิ้งค์พาเราเข้าชมรมคนรักมวลเมฆ ... แบบอยู่ ๆ เราก็วาร์ปไปนั่งอยู่บนปุยเมฆนุ่ม ๆ แล้วได้เจอนางฟ้า ... อิ้งค์สวยจัง ดูแล้วเพลินตาเพลินใจ แค่ได้เห็นก็มีความสุขแล้ว
💖 Ink sweet and touching performance การแสดงของอิ้งค์ก็กำลังน่ารัก ดูแล้วพอดีไปหมดเลย ไม่เยอะไปไม่น้อยไป และทุก ๆ movement ... น่ารัก 🥰 การทักทาย พูดคุยกับแฟน ๆ ก็น่ารัก ดูเบา ดูสบาย ดูเหมือนเราไปอยู่ในที่สบายใจของอิ้งค์ด้วยกัน แบบว่า ...
ขอต้อนรับเข้าสู่ ... จักรวาลบ้านอิ้งค์
สบาย ๆ สดใส อบอุ่น แบบนั้นเลย
💖 Ink heart-robbing smile “รอยยิ้ม” ที่เกินต้าน เบ็นเพิ่งรู้ว่ารอยยิ้มของอิ้งค์ดาเมจรุนแรงมาก ... แบบมากจริง ๆ พอเห็นกับตาแล้วก็เลยรู้ว่าอ๋อ ... ที่หนุ่ม ๆ รอบ ๆ ตัวเขาเพ้อกันมาก มันเป็นแบบนี้นี่เอง เรียกว่าใครได้เห็นคูมอิ้งค์ยิ้มแล้วใจไม่ละลาย ไม่เผลอยิ้มไปด้วยนี่ … งืมมม ก็ไม่น่ามีนะ 555 ถ้ามี... ก็นะ ต้องจิตแข็งมาก ๆ ทีเดียวเชียว
💖 Ink Voice (มาดูคอนฯ เนาะ และนองเป็นนักร้อง เราต้องพูดถึงเสียงกันบ้าง ทั้ง ๆ ที่แค่ข้อข้างบนก็เพียงพอให้เราสุขใจแล้ว 😙) เสียงร้องของอิ้งค์น่ารักกกก ... มาก ๆ เป็นเสียงที่เรียกว่า touching and uplifting our hearts and souls ค่ะะทุกคน ... ความใส ความกังวาน ความสุขจากการร้องของอิ้งค์ มันโบยบินผ่านหูเข้ามาแวะพัก และแตะที่ข้างในหัวใจเรา 🥰
อิ้งค์บอกเราในช่วงต้นคอนเสิร์ตว่าขอบคุณที่มามีชั่วโมงดี ๆ ด้วยกัน เพลงทุกเพลงของอิ้งค์ตั้งใจจะให้เป็นเพลงอยู่ข้าง ๆ ทุกคนเวลาเหงา เศร้า หรือแม้แต่เวลาที่ไม่มีใคร :) อยากจะขอบคุณอิ้งค์สำหรับโมงยามและชั่วเวลาเหล่านั้นที่อิ้งค์คิดถึงแฟนเพลงทุกคนเช่นกันนะคะ
สรุปว่าคอนคูมอิ้งค์เป็นโมงยามแห่งความสุขค่ะ ทั้งชื่นตาและชูใจให้วันกลางสัปดาห์ของพวกเราสดใสมาก ๆ เลย และเราก็อดยิ้มตามไปไม่ได้เลย ... สักวินาที ☺️
โอ๊ย ... ช่วยด้วย ทางนี้มีคนโดนคูมอิ้งตก 1 อัตรา ... “พบรัก” เป็นแบบนี้ ขอ “ฝากใจ” ไว้หน่อยนะ นะ นะ 💖💖
ในส่วนของ Playlist พี่แทน ลิปตานั้น ... เอามาเล่าทีหลัง เพราะพี่แทนมีเรื่องเล่า 5 เรื่อง ถึงคนในใจ 5 คนที่แต่ละคนก็มีความน่ารักน่าใจต่าง ๆ กันไปหมดเลย (มีเรื่องของคูมอิ้งค์ด้วยนะ) ป่ะ ไปฟังเรื่องราวที่จากใจพี่แทนด้วยกันค่ะ
==================
Playlist พี่แทน ลิปตา
==================
“เพลงบางเพลงเปลี่ยนชีวิตคนบางคน
และอีกหลาย ๆ คนในเวลาต่อ ๆ มา”
พี่ตุ้มเปิดช่วงนี้ด้วยการป้ายก่อนเลยว่า 5 เพลงที่พี่แทนเลือกมาพี่ตุ้มฟังแล้ว “เพราะมาก เรื่ิองดีมาก” พี่แทนได้ฟังดังนั้นก็บอกว่า ... เมื่อกี้ดี ๆ อยู่ ตอนนี้กดดันเลย 555 อ่ะไม่ต้องกดดันฮะ เพราะเพลงที่พี่แทนเลือกมาความหมายดี และเรื่องเล่าก็ดีต่อใจมากมายจริง ๆ
พี่แทนเป็นโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงที่มีผลงานหลากหลาย การจะเลือกแค่ 5 เพลงมันยากจริงทุกคน (playlister ทุกคนพูดแบบเดียวกันหมดเลย 555 ถ้าเบ็นได้เป็น playlister เบ็นก็คงเครียดเหมือนกันนะคะ เอาแค่ในฐานะคนอ่านหนังสือ ให้เลือก “ในดวงใจ” 5 เล่มก็ยังยาก)
แต่เมื่อต้องเลือก การมี theme ช่วยได้ค่ะ พี่แทนเลือก 5 เพลงที่มีความหมายถึงใครบางคน และเป็น turning point ของทั้งพี่แทนและใครคนนั้นด้วยค่ะ (แค่ฟัง theme หัวใจก็อุ่นเลย มันดูแคร์แบร์มาก ๆ เลยเนอะ)
Turning Point 1
Cared-for No. 1
บอยด์ โกสิยพงษ์
คน ๆ แรกที่พี่แทนคิดถึงคือ บอยด์ โกสิยพงษ์ พี่แทนรู้สึกว่าพี่บอยคือครู คือพี่ชาย เป็น role model เป็น “โยดา” ที่ฟูมฟักพี่แทนมา สำหรับพี่แทน พี่บอยด์เปลี่ยนแปลงวงการเพลงไทยเยอะมาก …
พี่ยกให้เป็น Rol Model เพราะพี่บอยด์และพี่แทนมีชีวิตตล้ายกัน แต่งเพลง ร้องเพลง เป็นเจ้าของค่าย มีอัลบั้มของตัวเอง ที่พี่แทนทึ่งมากคือพี่บอยด์สามารถมีอัลบั้มเพลงแบบตัวเองไม่ได้เป็นคนร้องซ้ากกกกก...เพลงได้ด้วย (อัลบั้ม Rhythm and Boyd)
พี่แทนโตมากับเพลงของค่าย Bakery Music ความเลอค่าของค่ายนี้คือทุกเพลงยังทรงคุณค่าจนถึงทุกวันนี้ ทีนี้พอจะเลือกเพลงพี่บอยด์ก็ยากละ จะเอาเพลงชาติ Bakery หรือเพลงทรงคุณค่าแบบไหนดี รักพี่เสียดายน้อง น้อง น้อง 😁
บังเอิญมีช่วงนึงก่อนหน้านี้ พี่แทนไปงานศพแล้วเจอพี่บอยด์ค่ะ กำลังจะชวนคุย พี่บอยด์บอกหยุดก่อน ต้อง on MV ก่อน … on MV คืออะไรนะ...? พี่บอยบอกเนี่ย ๆ นัดแฟน ๆ ไว้จะปล่อย MV วันนี้เวลานี้ นี่มีแฟนมารอ release ... มันทำยังไงนะ 🤣🤣🤣
คือพี่บอยไม่ได้ปล่อยเพลงมานานมากแล้วค่ะทุกคน 15 ปีแล้ว พอกลับมาทำ พี่บอยด์ทำเองทุกสิ่งเลยทุกคน ไม่มีทีมงานใด ๆ ที่ว่าจะกดปุ่มนี่คือพี่บอยด์รอจะกดปุ่มปล่อยเพลง (พูดถึงคำนี้ นึกไปถึงภาพกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายไปโน้นนน 555 ใครคิดภาพนี้ออก แปลว่า ... นะ อายุไม่น้อยกว่าพี่บอยด์เท่าไหร่หรอกนะเราน่ะ 🤭)
และพอปล่อยปั๊บวันรุ่งขึ้นเพลงนั้นก็กลายเป็น viral เลย
เพลงดังเว่อร์ปังเว่อร์ทั้ง ๆ ที่ช่วงก่อนวันปล่อยยังเรียกให้พี่แทนไปสอนอยู่เลยว่าจะเล่น TikTok ต้องทำไง เดี๋ยวนี้ปล่อยเพลงเค้ายังต้องเดินสายวิทยุไหม (พี่ตุ้มพี่เอกแซวว่าดีนะไม่ย้อนไปถึง “เยี่ยมแท่นพิมพ์” 555)
คือพี่บอยด์เตาะแตะมาก จนพอถามพี่แทนว่าจะเล่น TikTok เริ่มแรกต้องทำไงนะ พี่แทนบอกว่าเริ่มแรกให้หาทีมก่อน 55 (แต่พี่บอยด์ไม่มีทีมนะคะ สรุปว่าทำเอง งมเองทุกสิ่งติงกันไปเลย)
ที่พี่แทนประทับใจเหตุการณ์นี้และเพลงนี้มากก็เพราะพี่บอยด์ไม่ได้ปล่อยเพลงมา 15 ปีแล้ว คนวัย 50 ยังทำสิ่งนี้ได้ และที่สำคัญยังทัชคน gen z ได้ด้วย
พี่แทนบอกว่าพี่บอยด์เป็น role model ในทุกมิติจริง ๆ
- ในมิติเจ้าของค่าย ลิปตาอยู่ค่ายพี่บอยด์มา 9 ปี วันนึงพี่แทนก็อยากทำค่ายแบบนี้ >> ทำโดยไม่รู้ ... พี่บอยด์เคยให้สัมภาษณ์ว่า “เพราะไม่รู้เลยสำเร็จ” ถ้ารู้คงไม่ทำ แต่พอไม่รู้ อยากทำอะไรก็ทำ ๆ มันไป ใช้ใจนำ ...
ที่ว่าไม่รู้นี่คือไม่รู้ขนาดไหน? ขนาดที่พี่สุกี้เคยเล่าว่าทำคอนเสิร์ต Modern Dog ที่ MBK Hall อยู่ ๆ ก็ประกาศว่า “ใครโกนหัวให้เข้าฟรี” ... ถามว่ามันเป็นกลยุทธ์การตลาดแบบใด๋ ก็ไม่รู้ แค่อยากทำ มันเท่ดี ... เออ ดิบ ๆ ดื้อ ๆ แบบนี้แหละ ทัช! ปังไปเลยค่า
ก็คือทำเพราะเป็นวัยรุ่นอยากทำ การจัดการอะไรก็ไม่รู้เรื่องทั้งนั้น ขายบัตรหน้างานก็ไม่มีบัญชี ไม่มีเซฟ กล่องเก็บเงินใด ๆ ขายได้เยอะก็หาถุงขยะดำมาใส่เงิน ... ไม่มากค่ะ 10 ล้านเท่านั้นเอ๊งงงง 😅
เนี่ยพี่แทนอยากทำค่ายด้วยหัวใจแบบนี้ และตอนนี้พี่แทนอายุ 39 … ในวัย 50 พี่แทนก็อยากกด release ได้เหมือนพี่บอยบ้าง release เพลงที่ยัง “คุย” กับผู้คนแบบเพลงนี้
[เพลง I’m OK // Not OK]
BOYdPOD (feat. Billkin)
🎶Music…
“...เหงามากหรือเปล่าที่อยู่ตรงนั้น
// ฉันคิดถึงเธอมาก
เศร้ามากหรือเปล่าที่อยู่ลำพัง
// อยากให้เธอรู้คิดถึงมาก ๆ
โปรดระบาย ฉันพร้อมรับฟัง
เรื่องทุก ๆ อย่างที่อยู่ข้างใน
// อยากระบาย อยากให้รับฟัง
เรื่องทุก ๆ อย่างที่อยู่ข้างใน
แสนจะเป็นห่วงจากใจดวงนี้
ไม่รู้จะมีวันที่ได้พบอีกไหม
// ฉันคิดถึงเธอมาก
แต่ไม่อยากทำให้เธอหวั่นไหว
ได้แต่กลั้นหายใจ
เก็บคำถามไว้ทั้งที่ไม่โอเคเลย
// ได้แต่กลั้นหายใจ
และตอบเธอไป
ทางนี้ฉันโอเคเลย...”
วันนี้ “ตุ๊กตา The Voice” และ “ปาล์ม Slojoe” ร้องเพลงนี้ให้เราฟังค่ะ เป็นนักร้องที่พี่แทนเลือกเองว่าในคอนเสิร์ตนี้ถ้าเป็น playlist นี้พี่แทนอยากได้ 2 คนนี้มาร้อง ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้ยากมาก
พอตุ๊กตาและปาลม์ร้องจบ พี่ตุ้มถามว่า “สาแก่ใจไหม” 555 พี่แทนบอกว่า ... “มากกก” คือเพลงมันยากค่ะทุกคน พี่แทนบอกว่าตอนฟังก็เพราะดี เออพี่บอยด์เจ๋งดี เขียนเก่ง แต่พอต้องมาซ้อมดนตรีขึ้นคอนฯ ... พี่แทนก็อยู๋ในใจเป็นหมื่อล้านคำ ...พี่บอยด์จะทำให้ยากไปไหนวะ 555
มันมีเหตุผลที่ทำให้ยากแหละค่ะทุกคน (ใครไม่เคยฟังกดฟังได้ที่คอมเมนต์นะคะ) คือมันจะมีช่วงที่นักร้อง 2 คนร้องแทรกกันคนละวรรค ให้ความหมายว่า 2 คนนี้อยู่คนละฝั่ง คิดคนละแบบ ที่เธอคิดว่าและที่ฉันแสดงออกว่า I’m OK … ที่จริง ... ฉันไม่โอเคเลย
เวลาฟังมันจะเหมือนเราได้ยินเสียงพูดและเสียงในหัวก้องสะท้อนกันไปมา ซึ่งการร้องสลับท่อนกันไปเลยจะไม่ได้ effect นี้ พี่บอยด์ออกแบบเพลงไดทพเจ้ามาก ๆ ค่ะ
และนั่นคือเพลงแรกที่พี่แทนเลือกมาเป็นเพลง “The Turning Point” จากคนที่มีความหมายกับชีวิตคนที่ 1 ค่ะ 🥰
Turning Point 2
Cared-for No. 2
อิ้งค์ วรันธร
พี่แทน produce เพลงให้อิ้งค์มา 8 ปี …3 อัลบั้ม มีเพลงของอิ้งค์ในลิสต์เยอะเลย มางานอิ้งค์ก็อยากเลือกเพลงอิ้งค์เป็น 1 ใน playlist 😊 แต่ใด ๆ คือต้องเช็คอิ้งค์ก่อนเนาะ พี่แทนให้คูมอิ้งค์เลือกเพลงที่จะไม่ร้องมาให้ 555 มีแต่เค้าให้เลือกเพลงที่จะร้องเนาะ
อ่ะ เพลงไหนอิ้งค์ไม่ร้องในคอนช่วงถัดไป เลือกมาให้พี่แทนเป็น playlist 1 เพลง
เพลงที่พี่แทนเลือกจาก list เพลงที่อิ้งค์จะไม่ร้อง เป็น Turning point ของทั้งคู่ค่ะ … เพราะเป็นเพลงแรกที่เริ่ม mass (ก่อนหน้านี้พี่แทนทำให้อิ้งค์มาแล้ว 2-3 เพลง แต่ยังไม่ปัง) และเพลงนั้นก็คือ ...
“ดีใจด้วยนะ”
พี่ตุ้มถามว่า “ที่มาของเพลงนี้เป็นอย่างไร?”
ตอนนั้น 5 ทุ่มครึ่ง พี่แทนขับรถอยู่ ถ.บรมราชชนนี (เดี๋ยวนะ เราต้องรู้ละเอียดขนาดนี้เลย? 555 อ่ะเล่ามาเรายังไหว 555) ขับ ๆ รถอยู่ อิ้งค์โทรมาหา ... หมี่เหลืองค่าพี่แทน (อันนี้เบ็นเอง นางฟ้าคูมอิ้งค์คงไม่พูดจาแบบนี้ ฮรี่...) อิ้งค์มีเรื่องกระทบใจ ขอโทรมาเล่าเรื่องให้ฟัง คือแบบ ... มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ โทรไประบายให้เพื่อนฟังมันเสียเปล่า โทรมาเล่าให้โปรดิวซ์ดีกว่า เสียน้ำตาต้องได้งาน 555
อ่ะ เล่ามา ...
อิ้งค์ไปเจอแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกัน มากับคนใหม่ ถึงจะดีใจที่เค้า move on ได้ ดีใจกับเขาจริง ๆ ที่เห็นเค้า happy แล้ว (เห็นไหมว่าอิ้งค์น่ะนางฟ้าจริง ๆ) แต่มันก็เศร้าที่เรายังไม่ไปไหน อย่างเดียวที่ทำได้คือดีใจด้วย >> อิ้งค์เล่าไปชั่วโมงนึง (พี่แทนขับรถไปไหนนะ เอาดี ๆ ก่อน 55)
ฟังเสร็จพี่แทนไปตามน้องข้าว Fellow-Fellow (ปณิธิ เลิศอุดมธนา) คู่หูแต่งเพลงของพี่แทนมาแต่งเพลงด้วยกัน อ่ะ ก็เล่าเรื่องให้ข้าวฟัง (ไม่ต้องไปเล่าในรถที่ถนนบรมราชชนนีเนาะ 555) คุยกันไปคุยกันมา พี่แทนเติมความเพิ่มให้ประโยคนึงว่า ...
“ถ้าฉันมูฟได้ในวันข้างหน้า
ก็ช่วยดีใจกะฉันด้วยนะ”
(พี่แทน... เป็นผู้ชายน้ำตาล มีความเทวดาแสนดี มีความโรแมนติกมากอยู่นะทุกคน)
ทำเพลงเสร็จตอนส่งให้อิ้งค์ฟัง … พี่แทนบอก “เสียงสูงหน่อยนะ” อิ้งค์บอก “สบ๊ายยย ...”
แต่ ... พอร้องจริง “ไปหาครูสอนร้องเพลงแพ้บ...” 555
อิ้งค์บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ต้องหาครูมาสอน คือให้ครูสอนให้ร้องแล้วสบายอ่ะค่ะ ไม่เค้น ไม่ร็สึกว่าต้องพยายามขึ้นเสียง (เพลงของคูมอิ้งค์ทุกเพลงเป็นแบบนี้ ร้องยากใช้เสียงสู้งงงง แต่คูมอิ้งค์ร้องแล้วดูสบาย ๆ ลอย ๆ นางฟ้าตลอด ๆ 🥰)
ทำเสร็จแระ เอ้า ค่ายยังไม่ปล่อย (ของดีต้องผ่านด่านหินมาเยอะนิดนึงค่ะ) ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ค่ายกำลังหาเพลงที่จะอยู่ในอัลบั้มของอิ้งค์อยู่ ทีมทั้งหมดก็ไปประชุมกันที่ Box Music คุยกันว่าจะปล่อยเพลงไหนดี คุยกนไปคุยกันมามี 3 เพลงนี้เป็น short list ค่ะ
- ความลับมีในโลก (Secret)
- ดีใจด้วยนะ (Glad)
- รอหรือพอ (Stay)
ตอนโหวตไม่มีใครเลือก “ดีใจด้วยนะ” เลย มีแต่อิ้งค์กะพี่แทน แต่เพลงอื่นก็เสียงไม่ขาด ตกลงกันไม่ได้ สรุปว่าปล่อยหมดนี่แหละ (อ่ะ กำไรคนดูและแฟน ๆ คูมอิ้งค์ไป 55) แต่ก็ไม่ได้ปล่อยพร้อมกันนะคะทุกคน ค่อย ๆ ทยอยปล่อยตามลำดับที่พี่แทนไล่ข้างบนเลย
ที่ “ดีใจด้วยนะ” ปล่อยเป็นเพลงที่ 2 เพราะเป็นเพลงช้าค่ะ (ตามธรรมเนียมนิยมในการปล่อยเพลง ต้องปล่อยเพลงมีจังหวะก่อน ให้คนเอาไปโยก ๆ ได้ เต้นตามในติ๊กต่อกได้ มันจะได้ snow ball ง่ายค่ะ)
และวันนี้คนร้องก็คือคอรัสตัวจริงในเพลง original ด้วย
พี่ตุ้มแซวว่า ... “วันนี้อิ้งค์ไม่ต้องร้องเพลงนี้แล้ว แม่แค่พวกเรานี่แหละที่ยังต้องร้องอยู่” 555 ... อันนี้ก็เห็นด้วยกะพี่ตุ้มค่า ก็ตอนนี้คูมอิ้งค์มีคุณ “หนังสือ” เป็นของตัวเองแล้วอ่าน้า 🥰 มีแต่เรานี่แหละ ที่ร้องแล้ว ร้องอยู่ ร้องอีก ... และร้องตลอดไป 555 (ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่ ทามมายพี่ตุ้มเอาเรื่องจริงมาพูดเล่นนน)
[เพลงดีใจด้วยนะ]
Ink Waruntorn
🎶Music…
“...ดีใจด้วยนะ
ที่เธอเริ่มต้นใหม่สักที
ดีใจด้วยนะ
ที่พบเจอความสุขสักที
ต่างกันกับฉันที่ยังคงจมอยู่
เหมือนว่ายังมีเธออยู่
ฉันต้องการจะลืมมัน
เหมือนที่เธอลืมฉัน
แต่ถ้าวันไหนที่ฉันนั้นได้เริ่มต้นใหม่
อยากให้เธอยินดีกับฉันเมื่อได้เจอ
แต่แค่วันนี้มันยังไม่ถึงวันของฉัน...”
Turning Point 3
Cared-for No. 3
คุณแฟน & No One Else
Turning point toward a new genre
พี่แทนบอกว่าพี่แทนเขียนเพลงรักไม่เป็น (รักสมหวัง เพลงจียบ) รู้สึกว่ามิติมันน้อย ไม่เหมือนเพลงคิดถึง ง้อแฟน อกหัก ก็เลยไม่เคยเขียนเพลงรักมาก่อนเลย
จนมีเพื่ิอนวงนึงชื่อ No One Else ซึ่งแต่ก่อนไม่ดัง (พี่ ๆ เค้าชอบแซวกันแบบนี้ 555 คือที่จริงก็ดังแหละ แต่ดังเฉพาะกลุ่ม มีแฟนเพลงแนวตัวเอง) เมมเบอร์วงนี้พี่แน็ตตี้กะพี่กุ๊กเล่นเป็น back up ให้ลิปตาด้วย พี่แทนก็สงสัยมาตลอดว่าทำไมไม่เคยชวนเราแต่งเพลงให้เลยวะ งอลลล ... เออ ไม่ขอ ก็ไม่ง้อ ๆ (555 เอ็นดูววว)
โอกาสมาช่วง covid ค่ะ คือว่างงานกันแหละ เลยนัด zoom กันและหาอะไรทำด้วยกัน พอจะได้ทำเพลงให้ พี่แทนก็นึกภาพวงนี้ ภาพในหัวพี่แทนเห็นวงนี้เล่นในงานแต่ง เป็นวงที่เหมาะกับบรรยากาศความสุขในงานแต่งงาน ก็เสนอ concept ไปตามนั้น แต่ ...
แต่พี่แทนลืใความจริงข้อนึงไปค่ะ ... คือลืมว่าตัวเองแต่งเพลงรักไม่เก่ง 555 งานเข้า!
พอคุยกันปั๊บ No One Else ก็ส่งทำนองมาให้ ... 6 เดือนผ่านไป พี่แทนก็ไม่แต่งสักที คือเพลงเพื่อนน่ะทุกคน ไม่มี deadline เลยปล่อยไหลไปเรื่อย เอาเวลาไปทำงานอื่นก่อน มีเวลาก็ ... ขี้เกียจ (เอ้า! 55)
จนวันนึงพี่แน็ตตี้บุกมาหาถึงบ้านไปเลยค่ะ หิ้วเครื่องดื่มมาด้วย 6 ขวด เอามาบรรณาการ แลกเพลง วิงวอนผ่านแก้วน้ำชาว่า ... เขียนเห๊อะ (กุขอร้องงงงง 555 เอ๊ะ หรือนี่จะเป็นการแก้แค้น พี่แน็ตตี้ตองมาง้อละนะ 🤣)
ในใจพี่แทนพูดแว่ ... เอางัยดีวะ ... ไม่เคยแต่งเพลงรักว่ะ (แต่คือขายเพลงงานแต่งไปแล้วไงทุกคน 55) … เอาวะ งั้นเขียนเรื่องตัวเองนี่แหละ เราก็ไม่ดัง วงก็ยังไม่ดังด้วย (เน้นตลอด 555) เพราะฉะนั้นเพลงไม่ดังก็ไม่เป็นไร (ดังนั้นใช้เรื่องตัวเองเขียนก็โอเค คนไม่ได้ฟังกันเยอะหรอก ว่าซั่น ... เดี๋ยวนะ มันได้เหรออออ)
และข้อสำคัญคือ “มันเป็นเพื่อน มันต้องไม่แก้เนื้อเราแน่ ๆ” (เอาอะไรมามั่นใจนะ ... 55)
อ่ะ ลงมือเขียนกันค่า … พี่แทนเขียนถึงแฟนตัวเองนี่แหละ (รักที่สุดดแล้ว 😊) เรียกว่าเป็นเพลงที่เขียนให้คุณแฟนนั่นเอง แฟนชอบอะไร ช้อปปิ้ง ไม่สิ ... เรื่องนี้ไม่ควรเขียน 55
🌸 คุณแฟนชอบดอกไม้ เทียบกะอะไรได้มั่ง รอยยิ้ม
🌟 ดวงตาคุณแฟนสวย เทียบกับ ดวงดาว
อ่ะ ... ได้ hook เพลงนี้ท่อนฮุกมาก่อนค่ะ ทุกคน (เพราะเนอะ ๆ)
จากนั้นท่อน Verse ใช้เล่าเรื่ิอง … ทุกอย่างดีเทลส่วนตัวมาก ๆ ปกติเพลงมันจะกลาง ๆ หน่อยให้เข้าได้ทุกคนเนาะ แต่เพลงนี้ไม่กะดังไง เขียนฉากตัวเองไปเลย ตอนเจอกัน แฟนคนอื่นจะใส่ขุดขาวไหม ช่างมัน 555
ท่อน bridge … นักแต่งเพลงต้องมีรัยเก๋ ๆ ใส่ในเพลง >> พี่แทนไปได้ยินคำพูดประมาณนี้ของชาวฝรั่งมาค่ะ >> And from now on all the love songs gonna be yours. >> ต่อจากนี้เพลงรักทุกเพลงจะเป็นของเธอ ... ฮิ้วววว พี่แทนพูดพราวด์ ๆ ใส่เราทุกคนในโรงละครว่า “น่าหมั่นไส้เนอะ” 555 ... ค่า เหม็นความรักที่สุดดดดดค่า 🤣
พี่แทนบอกว่าที่เราหมั่นไส้ เพราะเพลงมันดังไง (แหมมมมมมมม อยากจะแหมไปให้ไกลถึงดาวอังคาร แต่ก็ดังจริง และเพราะจริง ๆ นั่นแหละ ยอมมม...)
ตอนแรกส่งไป ค่ายไม่ปล่อย ไปลองหาเพลงอื่น ๆ อยู่แต่ไม่ได้สักที จนวนกลับมาเพลงนี้คะ พอจะปล่อยก็มาคิดเรื่องชื่อเพลงกัน
ตอนแรกพี่แทนตั้งไว้โนะ ๆ ไปก่อนชื่อ “ตั้งแต่วันที่ได้พบเธอ” ง่า… ตั้งเองรู้สึกเองว่าเชยระเบิดเรยง่ะ อยากเปลี่ยน เลยไปปรึกษาพี่แน้ตตี้ “ชื่ออะไรดีวะ” คุย ๆ กันก็บอกให้พี่แน๊ตตี้ไปลองหาประโยคมา เลียนแบบชื่อ playlist ที่คนเค้าชอบตั้งกันช่วง covid (ช่วงนั้นคนจะชอบตั้งชื่อยาว ๆ แสดงถึงสถานะชีวิตเศร้า เกงา และรัก ณ จุด ๆ นั้นค่ะ ย้าววววว...มาก....)
พี่แน็ตตี้กลับมาพร้อมชื่อนี้ค่ะ
“ต่อไปนี้เพลงรักทุกเพลงจะเป็นของเธอเท่านั้น”
โอ้โหวววว ... ยาวถึงโลกพระจันทร์โน่นน่ะ แต่มัน hit ทุกคนกลายเป็นว่าคนชอบกันมาก และมันกลายเป็น signature ของชื่อเพลง No One Else ...
- เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ คือการได้พบกับเธอ
- กี่เพลงรักที่ผ่านไป ก็ยังไม่เคยได้ใช้กับใครสักที
- แล้วคดีฆาตกรรมในห้องปิดตาย ก็ถูกคลี่คลายด้วยรอยยิ้มของเธอ
พี่ตุ่มถามว่า “แล้วแฟนว่าไง? ชอบไหม?”
พี่แทนยิ้มแล้สเล่าให้ฟังขำ ๆ ว่าเปิด mix แรกให้คุณแฟนฟังในรถ (เค้าว่าไง ๆ) แฟนบอก...
.
.
.
เปลี่ยนเพลงเหอะ 555
ช้อตฟีลมาก คือพี่แทนบอกว่าตอนนั้นคุณแฟนไม่รู้ว่าเขียนให้ แล้วที่เปิดให้ฟังเป็น mix แรกที่เครื่องดนตรียังเยอะไป รก ฟังไม่สบาย พอเปิดในรถเลยถูกตัดตอน 555
(แล้วเค้าร็ตอนไหน) คุณแฟนรู้ว่าเขียนให้ตอนเริ่มดัง ซึ่งเป็นเพื่ิอนแฟนมาบอก มากิ๊วก๊าวเพราะได้ฟังพี่แทนให้สัมภาษณ์ด้วยนะคะ (ตอนนี้?) เพราะสุด ๆ 🥰🥰
ทุกวันนี้เพลงนี้กลายเป็นเพลงงานแต่งในยุคนี้ ต่อจากเพลง “ลมหายใจของกันและกัน” ของพี่จิก ประภาส (อาจเป็นเพราะเรา คู่กัน มาแต่ชาติไหน) และเพลง “หยุด” ของพี่บุรินทร์ (หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีซักแค่ไหน หยุด หยุดความรัก ทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว)
[เพลงต่อไปนี้เพลงรักทุกเพลง
จะเป็นของเธอเท่านั้น]
No One Else
🎶Music…
“ตั้งแต่วันที่ได้พบเธอ
ก็ไม่มีดอกไม้ใดที่เจอ
ที่จะสวยงาม ที่จะงดงาม
เท่ารอยยิ้มของเธอ
ตั้งแต่วันที่ได้พบเธอ
ก็ไม่เคยมีคืนไหน
ที่ฉันจะแหงนมองดาวบนฟ้า
เพราะดวงตาของเธอนั้นสวยกว่า
ยังจำได้ดีวันแรกที่เราได้เจอกัน
เธอใส่ชุดขาวรีบเดินมาเพราะกลัวไม่ทัน
และก็ไม่รู้ตอนไหนหรือเกิดขึ้นเมื่อไร
รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รักทั้งหมดใจ...”
Turning Point 4
Cared-for No. 4
Fellow-Fellow
Turing point … ของเจ้าของค่ายเพลง
ช่วง covid ทำค่าย Kicks Records (พี่เอกทักว่า เอ๊ะ ช่วงโอวิดที่ก่อเกิดอะไรหลายอย่างเลยนะ) พี่แทนเล่าว่าตอนนั้นคิดว่ามันต่ำสุดแล้ว ไม่มีต่ำกว่านี้แระ คุนกับพี่คัต (คัตโตะ ลิปตา) ทำแหละ ว่าแล้วพี่แทนก็ปล่อยมุก ... ปรากฏไม่จริง new low มีอยู่ มีได้อีก มีต่อไป 🥲
พี่คัตโตะจบ Econ มาก็จริงแหละ แต่ก็ไม่ใช่สายธุรกิจทั้งคู่ ทำกันแค่ 2 คน คุยกันว่าลองทำ 3-5 ปี คิดซะว่าแทนที่จะเอาเงินไปซื้อรถสปอร์ต เอามาทำค่าย ถ้าไม่รุ่ง เงินหมดคือเลิก ดังนั้นในแผนคือ 3-5 ปีต้อง turn back (คืนทุน)
ปรากฏ 2.5 ปีผ่านไป ตัวแดงงงงง ยิ่งกว่า ...
จนมาเจอ 2 คู่หู ข้าว-ที Fellow-Fellow ซึ่งตอนนั้นอยู่ค่ายเดิม status แอบไม่ค่อยดี มีงานปีละงานสองงาน พี่แทนเคยไป produce ให้เพราะชอบเพลงของวงนี้
ตอนนี้มาคุยกันคือ Fellow-Fellow ทำมา 5 ปีแล้วยังไม่ดังสักที มีคนฟังเฉพาะกลุ่ม ไม่มีงานจ้าง ข้าวกับทีเลยคิดว่าแยกย้ายเถอะ กลับไปมำธูรกิจที่บ้านกันได้แล้ว พี่แทนรู้ข่าวก็บอกว่าอย่าเพิ่ง ๆ ทุ่มเทไปตั้งเยอะ ยังไม่รีเทิร์นเลย มาอยู่ด้วยกันก่อน เสียดาย
พี่แทนคุยแบบ sincere มากค่ะ บอกข้าวกะทีว่า...
“ค่ายกูไม่ดังแต่ตั้งใจ
มึงก็ไม่ดัง มาทำด้วยกัน
แย่ที่สุดก็ไม่ดัง
ขอ 1 ปี ถ้าไม่ไปไหนค่อยแยก...”
ได้ฟังดังนั้น เอาวะ ... Fellow-Fellow บอก ... เครลุ้ยยยย
ข้าวส่ง demo มาให้ Kicks 2 เพลงค่ะ
1. ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า (Was I Your Good Days?)
2. ดาวหางฮัลเลย์ (Halley's Comet)
พี่แทนผู้ซึ่งไม่ใช่ชาวท้องฟ้าจำลองร้อง What? 555 พี่แทนไม่รู้จักดาวหางฮัลเลย์ค่ะ คือไรวะ เปิดดูในเนื้อเพลงก็ไม่มีพูดถึง ข้าวต้องมานั่งอธิบายให้ฟัง งี้นะพี่ มันคือดาวหางที่จะโคจรมาถึงโลกแค่ทุก ๆ 75-79 ปี คือแบบมันนาน ๆ มาไง เลยแต่งเปรียบเทียบบอกให้แฟน ว่าให้อยู่กันนาน ๆ นะ รอดูดาวหางกัน :) ... เนี่ยดูความนุ้นนิบของผู้ชายพวกนี้สิคะ งู้ยยย ต า ย สงบ ศ พ สีชมพูวววว...ม้ากกกก
เพลงดีมาก ๆ พูดถึงอนาคต พูดถึงความฝันที่จะสร้างครอบครัว มีลูก ใช้คำมั่นคงแบบ “พันธะสัญญา” (จังหวะนี้พี่ตุ้มก็ชวนเข้า “The Power Game” ด้วยการถามว่า พันธสัญญา ... อ๋อที่เค้าทำ MOA กันอ่ะนะ ... เดี๋ยวววว พี่ตู้มมมมม นี่มันเพลงรัก 555 เดี๋ยวเราก็ได้ Turning Point กันทั้งโรงละครนี่แหละ 🤣)
เพลงเพราะ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าจะดัง ในที่ประชุม (พี่แทนแซวตัวเองว่าพูดแล้วดูยิ่งใหญ่ ทั้งที่ประชุมมี 4 คนนี่แหละ พี่แทน พี่คัต ข้าว ที 555) อ่ะ ก็ถามกัน 4 คนว่าใครชอบเพลงไหน ปรากฏเสียงออกมา ครึ่ง ๆ >> งั้นปล่อยคู่แม่ม แต่เพลงช้าก็จะแอบเล่น TikTok ยาก (ทำไมซีนมันคุ้น ๆ ดู Ground Hog Day จังคะ เนี่ยยยย ... เพลงอิ้งค์เมื่อ 300 บรรทัดที่แล้วก็เป็นแบบนี้นะ 555 แซว ๆ ค่า)
Scarcity is father of creativity … จน ๆ นี่แหละทำให้ปัง
- เริ่มจาก “ข้าว...เราไม่มีตังค์ MV มีงบแค่เพลงละ 50,000 นะ” (ปกติเพลงละ 3-4 แสน)
- แอมมาทำให้ Brief ว่าเป็น visualizer ไม่เรียก MV งบมันต่ำ 555 บอกว่ามีวบรวมแสนนึง ออกกองแล้วต้องได้ Visualizer มา 2 ตัวเลยนะ >> ข้าวและแอมทำได้ 😁
ปล่อยปั๊บ วันแรกได้หมื่ินวิว ยังไม่ตื่นเต้น วันที่ 2 เพิ่มเป็น 2 หมื่นวิว จากนั้นก็ขึ้นเท่านึงทุกวัน >> 4 วัน แสนหก จนข้าวต้องถามว่า No One Else ขึ้นแบบนี้ป่ะ 🤣
เพลงนี้จึงเป็น Turning Point ของทั้ง Fellow-Fellow และ Kicks Records ค่ะ เป็นร้อยล้านวิวแรกของวงและของค่าย เพลงที่ทำให้ตัวแดงเริ่มหายไป เพลงที่ทำให้จาก 1 show ต่อปีกลายเป็น 30 show ต่อเดือน ... 🎉🎉🎉
เองนี้ทำให้พี่แทนได้ข้อคิดว่า ...
“ถ้าหยุดทำจะไม่เจอ “เพลงนี้”
ทั้งอิ้งค์และ Fellow-Follow
เราไม่รู้ว่าจะเจอเมื่อไหร่
แต่เมื่อไหร่ที่หยุดคือ 0”
– พี่แทน ลิปตา –
พี่ตุ้มเสริมว่า ...
“แต่ละคนมีจังหวะของตัวเอง
ทำไปเรื่อย ๆ เราจะเจอเอง”
– พี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ –
“อย่าหยุด มันอาจจะนาน
แต่เมื่อมันมา you will shine”
– พี่แทน ลิปตา –
[ดาวหางฮัลเลย์
(Halley's Comet)]
Fellow-Fellow
🎶Music…
“...ปฏิทินจากนี้มีไว้เพื่อนับวัน
นาฬิกามีไว้เฝ้าคอยนับนาที
ของชีวิตฉันนับต่อจากนี้
ที่จะมีไว้เพื่อเธอเท่านั้น
ขออยู่ในชีวิตที่เหลือ
ของเธอได้ไหม
อยากลืมตาแล้วได้พบเธอ
จนวันสุดท้าย
อยากเป็นคนที่ได้นอนดูดาว
ข้างเธออีกหมื่นวัน
และเอนไปจุมพิตเธอซักล้านครั้ง
อยู่กับฉันไปนาน ๆ นะเธอ...”
Turning Point 5
Cared-for No. 5
ตัวเอง – แทน ลิปตา
เพลงสุดท้ายเป็นเพลงของลิปตา ออกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งพี่แทนเขียนจากชีวิตจริงของตัวเอง >> เป็นบทเรียนของชีวิตที่พี่แทนอยาก express ออกมา เลยขอพี่คัตว่าขอทำเพลงไม่หนุกเพลงนึงนะ มีเรื่องอยากเล่า
ที่จริงเรื่องมันผ่านไปแล้ว พี่แทนไม่อยากพูดถึงบ่อย แต่ถ้าให้เลือก 5 เพลง 1 ใน 5 ต้องมีเพลงนี้ (พี่แทนเลยต้องเล่าเรื่องราวหลังเพลงด้วยค่ะ)
พี่แทนพบว่าเวลาเจอเรื่ิองร้าย ๆ มันต้องใช้เวลา move on … ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเด็กกว่านี้ ก็จะเขียนแบบนี้ไม่ได้ มันจะไม่ตกตะกอน >> เนื้อหาของเพลงนี้ก็คือ อยากลืม ... แต่คนเราลืมไม่ได้จริง ๆ หรอก ที่เรา move on ได้มันก็แค่เรามองกลับไปได้แล้ว มันทำอะไรเราไม่ได้อีกแล้ว
พี่แทนชวนข้าวมาฟังเรื่ิองนี้ (พี่เอกแซวว่าข้าวไม่ได้อยู่บนรถใช่ไหม 55) ข้าวถามว่าถ้าพี่แทนต้องอธิบายเรื่องนี้ด้วยประโยค 1 ประโยค ... ประโยคเดียว พี่แทนจะพูดว่าอะไร
พี่แทนตอบว่า ... “อยู่ได้แล้ว”
เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่มันทำร้ายเราไม่ได้แล้ว เรา “อยู่ได้แล้ว” นั่นคือชื่อเพลงนี้ค่ะ
[เพลงอยู่ได้แล้ว]
ลิปตา
🎶Music…
“...ฉันอยู่ได้แล้ว
อยู่โดยที่ฉันไม่มีเธอได้แล้ว
วันนี้ฉันไม่ได้เจ็บปวด
กับความเสียใจ แข็งแรงมากพอ
แม้ว่าฉันจะยังไม่เคยลืมเธอสักวินาที ...”
วันนี้ผ่าน turning point มาหลายเลี้ยว พบเจอผู้คนที่พี่แทนแคร์แบร์ และปลอมประโลมด้วยบทเพลงมามากมาย เพลงนี้ทำให้พี่แทนภูมิใจว่าวงอายุ 20 ปียังเข้าถึง gen z ได้ connect กับเด็กได้
พี่ตุ้มปิดช่วง playlist อย่างงดงามว่า ... เพลงแต่ละเพลงล้วนมีความหมาย แต่จะมีความหมายกับคนแต่ละคน แต่ละ gen ต่างกัน เพราะคนเราต่างตีความตามประสบการณ์ตัวเอง
---------------------
สำหรับเบ็น
ขอให้บทเพลงทุกเพลง
เป็นดั่งที่พักพิง...อิงใจ
ขอให้ทุกคนพบเพลง
ที่เป็น “เพลงนั้น”
ในทุก ๆ ช่วงเวลาของเรา
ขอบคุณพี่แทนลิปตาและคูมอิ้งค์สำหรับช่วงเวลาน่ารัก ๆ ตลอดคอนเสิร์ต Wednesday Song นะคะ นดีต่อใจมาก ๆ ค่ะ
----------------------------
ขอบคุณพี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ พี่เอก สยามพิฆเนศ พี่แพน อิศรา ที่สร้างสรรค์งานดี ๆ ค่ะ แล้วพบกันใหม่ใน Vol.13 ศิลปินวง KLEAR และเพลย์ลิสต์พี่กอล์ป F. Hero ค่า
ขอบคุณภาพสวย ๆ จากเพจ Wednesday Song ค่า
💖💖🥰🥰💖💖
#BennOte #bp_ben
#WednesdaySong
#InkWaruntorn #Lipta
#benji_went_there
#benji_is_learning
#inspiration

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา