17 ธ.ค. เวลา 06:22 • บันเทิง
โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ

#อ่านคอนเสิร์ตวันพุธ Wednesday Song Vol. 11 Playlist ครูสลา Artist: พี่ปู พงษ์สิทธิ์

“คนไม่เก่งต้องใช้ความง่ายเป็นอาวุธ”
ครูสลาว่าไว้ในคอนเสิร์ต
เพลงคู่ชีวิตปะทะเพลงเพื่อชีวิต
เมื่อพี่ปูพบครูสลา ... อีกครั้ง
==================
#อ่านคอนเสิร์ต วันพุธ
Wednesday Song Vol.11
Playlist เพลงคู่ชีวิต ครูสลา
Concert เพลงเพื่อชีวิต พี่ปู พงษ์สิทธิ์
==================
*ขอบคุณภาพสวย ๆ บางส่วน
จากเพจ Wednesday Song ค่ะ
วันพุธที่ผ่านมาเบ็นไปเข้าห้องเรียนวิชาเขียนเพลงมาค่ะทุกคน ไม่ช่ายยยยสิ 555 ... ไปดูคอนเสิร์ตนี่แหละค่ะ 🥰 แต่เป็นคอนเสิร์ตที่เลอค่ามาก ๆ เพราะเจ้าของช่วง playlist คือครูสลา คุณาวุฒิ สำหรับเบ็นที่โตมากับเพลงลูกทุ่ง ครูสลาคือที่สุด เขียนเพลงปังสร้างนักร้องดังมามากมาย การที่จะได้มาฟังว่าครูสลาเลือกเพลงไหนเป็นเพลงที่ครูชอบ 5 เพลง แถมครูยังจะมาเล่าให้เราฟังด้วยว่าเพราะอะไรจึงเลือกเพลงนั้น มันชวนติดตามมาก ๆ ใช่ไหมละคะทุกคน
(ถ้าครูสลาผ่านมาเจอเบ็นโน้ตฉบับนี้ โปรดให้อภัยที่เบ็นใช้ “คำว่างงาน” เต้มมมมม...ไปหมด 555 เป็นนิสัยที่แก้ยากจริง ๆ ค่ะครู แต่ได้ฟังครูแล้ว เบ็นขอสัญญาว่าเบ็นจะพยายามไล่ “คำว่างงาน” ออกจากเพจให้เก่งขึ้นค่ะ (และนี่คือความพยายามขั้นต้น ... สาบานว่าพยายามแล้ว...? 🤣)
ใครที่ยังไม่เข้าใจคำว่า “คำว่างงาน” โปรดติดตามต่อไปอีกสักครู่ค่ะ อีกไม่กี่อึดใจจะมี “ที่ครูสอน” ค่ะ
และถ้าช่วงของครูเหมือนเราได้เข้าห้องเรียนเขียนเพลง ช่วงพี่ปูนี่ก็คือไม่เหมือนคอนเสิร์ตปกติของพี่เค้าค่ะ ฟีลเหมือนเราไปนั่งฟังพี่ ๆ ชมรมดนตรีซ้อมเพลงกัน 555 แต่เป็นชมรมดนตรีที่รวมไว้แต่ตัวเก๋าตัวเทพน่ะนะคะ พี่ปูปล่อยมุกยับ แซวตั้งแต่นักดนตรี คนดู ยั๊น best boy (stage hand ของวงเคาเรียกแบบนี้ไหมไม่แน่ใจค่ะ ถ้าผิดขออภัยนะคะ)
คือมันเป็นคอนเพื่อชีวิตที่ดูจ๊อยจอยค่ะทุกคน ไม่มี song list อยากเล่นอะไรก็เล่น คิดไม่ออกก็ถามคนดูว่าอยากฟังเพลงอะไร คนดูตอบมาวงเล่นไม่ได้ไม่ได้ซ้อม อ่ะขอเพลงใหม่ 555 ถามคนดูแล้ว ถามสมาชิกวงแต่ละคนไล่ไป พี่ไวโอลินอยากเล่นเพลงอะไร พี่กีต้าร์ พี่เบส พี่มือกลอง ถามทู๊กกกกคน เหลือน้อง best boy (ถ้าถามแล้วน้องตอบ คือเข้าใจว่าน้องอาจจะต้องเล่นนะ 🤣)
เค้าว่ากันว่านี่เป็นคอนเสิร์ตที่พี่ปูพูดเยอะที่สุดในชีวิตเลยค่ะ เบ็นว่าแฟนคลับพี่ปูก็คงไม่คาดคิดว่าจะมาเจอฟีลนี้ 555 แต่เบ็นชอบมากนะคะ มันน่ารัก อบอุ่น เป็นกันเอง และเบ็นว่าพี่ปูก็คงสนุกไปอีกแบบค่ะ 😙
ดู “คอนเสิร์ตวันพุธ” นี่มันช่างคาดเดาไม่ได้ และมีอะไรเซอร์ไพรส์เราตลอดเลยจริง ๆ
ไปค่ะ เราไปเริ่มชั้นเรียนเขียนเพลง เอ้ย ไปฟังเพลย์ลิสต์ครูสลาด้วยกันก่อนเลยดีกว่า ว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรมาฝากเรากันบ้าง ลุ้ยยยยย ...
===================
Playlist ครูสลา คุณาวุฒิ
ง่ายแต่งามในนามครู
===================
เปิดเวทีมาครูบอกว่าตอนแรกที่พี่ตุ้มเชิญ ครูคิดว่าตัวครูจะอยู่ในคอนเสิร์ตของพี่ปู พงษ์สิทธิ์ ยังคิดว่าจะอยู่กันยังไง (หมายถึงครูจะไปอยู่ตรงไหนของคอนเสิร์ต) แล้วที่สำคัญจะซ้อมกันยังไงนะ เพราะต่างคนต่างก็คิวแน่นกันเชียว พอพี่ตุ้มเฉลย อ๋ออออ ... อยู่คนละช่วงกัน ค่อยยังชั่ว 555
5 เพลงที่ครูเลือกมาในวันนี้ ครูเลือกมาจากเพลงที่จะเป็นตัวแทนของเส้นทาง วิธีการ และเหตุผลที่ทำให้ครูเขียนเพลงได้เขียนเพลงดี >> 5 เหตุที่ทำให้เกิดผลเป็น “ครูสลา ... นักเขียนเพลง” ในวันนี้ค่ะ โดยครูใช้ชื่อ theme ว่า ...
“ง่ายแต่งามในนามครู”
โหวววว ... ภาษา (เตรียมจดคำคมให้มือหงิกได้เลยชุ้นนนนน) พี่ตุ้มบอกว่าแค่เริ่มต้นก็จบได้เลย 555 ยั้งงง ยังสิคะพี่ ท่านผู้ชมยังไม่ทันจะได้ฟังอะไรเรยยยย
และเพลงแรกหรือบทเรียนแรกของวิชาเขียนเพลงวันนี้เป็นบทเรียนที่ครูให้ชื่อว่า ... “ฉุดใจสู่วัยฝัน” ค่ะทุกคน
บทเรียนที่ 1
🎼 #ฉุดใจสู่วัยฝัน
การเขียนเพลงของครูคือการเล่าเรื่องค่ะ และเพลงนี้คือเหตุผลที่ทำให้ครูยังคงเล่าได้ ... เรื่อย ๆ ครูบอกว่าชีวิตมันมีความย้อนแย้ง คือตอนยังเด็ก ๆ อายุ 15-20 ปี ที่กำลังเป็นช่วงพลุ่งพล่าน มีเรื่องมีราวมีอารมณ์มีความรู้สึกที่อยากเล่าเต็มไปหมด ก็เล่าไม่เป็น
ตอนนั้นเวลามีอะไรมากระทบใจ ครูจะอยากแต่งเพลง ถึงขั้นมีชื่อเพลงแว้บเข้ามาในหัวเลย แต่เริ่มแต่งทีไร ประโยคนี้ลอยมาตลอด ... เอะอะก็ “แม่หน้ามน...” (เป็นคนโรแมนติกแหละ และปากหวาน 😊)
“แม่หน้ามน คนสวยเจ้าอยู่บ้านไหน”
“แม่หน้ามน ...”
“แม่หน้ามน ...”
พี่ตุ้มถามว่าแล้วแม่หน้ามนมาจากไหน ครูบอกก็ไม่รู้เหมือนกัน 555 ลักษณะจะเป็นคำติดปากอ่ะเนาะ
เวลาผ่านไป พอถึงวัยที่เล่าเป็น เอ้า ... ดั๊นหมดเรื่องจะเล่า ไอ้ที่จด ๆ ไว้ก็คุ้ยมาเขียนหมดแระ คลังสตอรี่หมดทำไงดี ครูบอกว่าครูได้เดินทางผ่านช่วงวันของวัยเพลงมาแล้ว (โหวววว ดูครูใช้คำ นี่ขนาดเล่าเฉย ๆ ... โอ้ย คนชอบคำอย่างเบ็นจะเครซี่)
วัยนั้นที่ครูพูดถึงก็คือวัยเกินหลัก 4 เข้าดอนเมืองไปแล้วน่ะค่ะ (ก็คือเป็นวัยที่อะไรก็ไม่ใหม่แล้วน่ะเนาะ) พ่อครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา (ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) เคยบอกครูสลาว่าในวัย 30 คิดอะไรได้ให้รีบเขียน ก่อนที่วัยจะเกินเพลง
แต่เมื่อมีอาชีพเขียนเพลง ... มันหยุดเขียนตามเวลาไม่ได้ไงทุกคน ครูก็มานั่งคิดว่ามันมีวิธีไหนไหมน้อ ที่จะกลับไปวัยนั้น? แล้วครูก็ค้นพบค่ะ
เมื่อสลาตัน (คือเมื่อครูสลา “ตัน” โอ้ยชอบ 555) ครูบอกว่าสลาตันเมื่อไหร่ จะนึกถึงเพลงเพื่อชีวิต 1 เพลง และเพลงลูกทุ่ง 1 เพลงค่ะ ทั้งสองเพลงเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาครูกลับไปสู่วัยฝัน
เพลงแรกที่ครูเลือกมาให้เราฟังกันในวันนี้ก็คือเพลงเพื่อชีวิตเพลงนั้น ของศิลปินที่ครูเคยมีโอกาสได้พบตั้งแต่ครูยังเป็นผู้บ่าว และศิลปินท่านนั้นยังเป็นเด็กน้อย
ครูเล่าว่าสมัยนั้นครูอยากเป็นนักกวี อยากเขียน ไอดอลของครูคือ “กลุ่มวรรณกรรมลำน้ำมูล” ซึ่งก่อตั้งโดยพ่อวีระ สุขสังข์ (นามปากกาฟอน ฝ้าฟาง) และมีสมาชิกเป็นนักกวีชั้นนำในสมัยนั้น ซึ่งในเวลาต่อมากลายเป็นนักเขียนซีไรต์มากมาย หนึ่งในนั้นคือคุณไพวรินทร์ ขาวงาม
ครูได้ข่าวว่ากลุ่มวรรณกรรมลุ่มน้ำมูลมาจัดงานที่โรงเรียนสตรีร้อยเอ็ด ครูเป็นเอฟซีอ่ะเนาะ (ครูบอกสมัยนั้นไม่มีคำนี้นะ ก็คือชอบพี่ ๆ เค้าแหละ) ครูก็ไปเที่ยวงาน แล้วไปเจอพี่บุญมา ภูเม็ง (ชาตรี เสงี่ยมวงศ์ - ศิลปินมรดกอีสาน)
พี่บุญมาบอกว่าจะพาไปเจอน้องคนนึงเก่งมาก ครูก็นึกว่าพี่บุญมาจะพาไปเจอศิลปิน พอเข้าไปหลังเวทีเจอแต่เด็กน้อยผอม ๆ พี่บุญมาแนะนำว่าน้องคนนี้มีวงชื่อ “รีไทร์” (พี่เอกแซวว่าที่เค้าให้เออร์ลี่ 45 อ่ะนะ 🤣)
เด็กน้อยคนนั้นคือพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ค่ะ วันนั้นวงเล่นเพลงน้าหงา คาราวานทั้ง playlist (น้าหงาเพิ่งออกอัลบั้ม “เสือร้องไห้” กำลังโคตรดังว่างั้นเถอะค่ะ) ครูบอกว่าพี่ปูร้องดีมากกกก เสียงเหมือนน้าหงาสุด ๆ นั่นคือประมาณปี 2529 ค่ะทุกคน ครูก็ติดตามงานของพี่ปูอยู่เรื่อย ๆ เอาใจช่วยว่าเมื่อไหร่จะดัง
เวลาผ่านไปพี่ปูก็ทำวงคำภีร์ และเริ่มเล่นเป็นวงเปิดพี่แอ็ด คาราบาว น้าหงา คาราวาน และวันหนึ่งครูก็ได้ยินเพลงนี้ ที่ครูเรียกว่าเป็น “เพลงคู่ชีวิต” ของครู
เพลง “สุดใจ” พงษ์สิทธิ์ คำภีร์
“...เพราะอยากมาหา
มาเพื่อจะถามไถ่
ว่าเป็นยังไงรู้สึกดีไหม
บอกกันบ้างสิเธอ...”
ครูบอกว่าพี่ปูเขียนเพลงเก่งมาก เพลงนี้ไม่ได้มีเรื่ิองราว แต่เล่าอารมณ์ได้ลึกซึ้ง แทนทุกความรู้สึก
สลาตันปุ๊บ กดสุดใจ :)
**คนที่ร้องเพลงนี้ในคอนเสิร์ตคือน้องเฟิร์น กัญญรัตน์ ซึ่งครูบอกว่าถ้าพี่ปูเป็นผู้หญิงก็คนนี้แหละค่ะ โอ้โห อยากให้ทุกคนมาอยู่ในโรงละครด้วยกัน น้องเฟิร์นร้องโคตรรรรร ... เพราะ เพราะมากจริง ๆ
ที่เบ็นประทับใจมากไม่ใช่แค่เสียงน้องค่ะ แต่เป็นประทับใจสิ่งที่ครูเล่าถึงน้องด้วย ครูภูมิใจนำเสนอมาก ๆ เล่ารายละเอียดชีวิตไปถึงว่าน้องเป็นเด็กหนองบัวลำภู ที่โตมากับกีต้าร์ เล่นกีต้าร์แต่งเพลงเอง จนเพลงได้ 50 ล้านวิว วันนี้น้องมาอยู่ Grammy Gold กับครูแล้ว
คูรบอกเกรงใจน้องมาก ปกติจะไม่ชวนคนดัง ๆ มา คือถ้าลูกศิษย์รอดแล้ว จะไม่ค่อยพามา ครูมักจะให้เวทีกับคนที่ยังไม่ถึงฝัน หรือคนที่กำลังล่าฝันของตัวเองมากกว่า ... ฟังแล้วเป็นก็รักครูจังค่ะ สัมผัสได้เลยว่าครูเป็นครูโดยจิตวิญญาณจริง ๆ เป็นผู้ให้โอกาสที่แท้ทรู
และนั่นคือแค่บทเรียนแรกค่ะทุกคน อย่าลืมหา “เพลงเพลงนั้น” ของตัวเองกันนะคะ เพลงที่จะทำหน้าที่เดียวกันกับเพลงนี้ของครู
 
“สุดใจ” ... ฉุดใจสู่วัยฝัน
บทเรียนที่ 2
🎼 #สื่อสารด้วยความง่าย
ง่าย ๆ แต่งามและเพราะมาก มันทำยากนะทุกคน!
ครูบอกว่าครูอยากเป็นนักแต่งเพลง ครูก็แต่งไปดุ่ย ๆ นี่แหละค่ะ เขียนแบบไม่มีใครสอน ไม่มีครู ใช้ลีลาสามัญประจำทุ่ง ก็คือวิธีการเขียนเพลงลูกทุ่งง่าย ๆ เป็นกลอนแปดธรรมดาเลยค่ะ มีสัมผัสนอกสัมผัสใน ซึ่งท่าปกติก็จะมี 4 ท่อน … ท่อน 1 ท่อน 2 ท่อนแยก (ยุคนี้ก็คือท่อนฮุคนั่นเอง) ท่อน 3
ครูบอกว่าแต่งแล้วมันก็ออกมาซื่อ ๆ เชย ๆ ง่ะ … มีคำว่างงาน ไม่มีประโยชน์ เต็มไปหมด แบบพวก ... หนอ เออ เอย ... ไรงี้ พวกคำที่ใส่มาถมให้เต็ม ๆ กลอน (แห่ะ ถ้าเบ็นแต่งน่าจะนับคำทำงานได้ครบเร็วกว่าคำว่างงานแน่ ๆ 🤣)
บุญพาวาสนาส่งให้ครูเจอครูพงษ์ศักดิ์ ผู้แต่งเพลง “มนต์รักแม่น้ำมูล” ท่านได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้และสายน้ำแห่งอีสานค่ะ คือเพลงของท่านทุกเพลงมีดอกไม้และสายน้ำ 😊 ครูสลาก็ไปขอพ่อครูค่ะ ว่าให้สอนหน่อย พ่อครูบอกว่าไม่มีใครสอนพ่อเหมือนกัน อยากเก่งก็ต้องใกล้ชิดครูบาอาจารย์ และถ้าเราไม่เก่ง ภาษาไม่วิจิตรก็ให้ “ง่าย” ค่ะ
#คนไม่เก่งให้ใช้ความง่ายเป็นอาวุธ
ง่ายแต่ต้องทำงาน ทุกคำต้องทำงาน อย่าเอาคำขี้เกียจมาไว้ในเพลง เพลงของพ่อครูพงษ์ศักดิ์ไม่มีคำไหนขี้เกียจเลยค่ะ
ครูไพบูลย์ บุตรขันเคยถามครูสลา ว่าเคยฟัง “สาวอุบลรอรัก” ไหม เพลงครูพงษ์ศักดิ์เพลงนี้คือตำราเขียนเพลงเลยนะ
- ท่อนหนึ่ง คำนำ
- ท่อนสอง ขยายความ
- ท่อนสาม อวดโวหาร
- ท่อนสี่ สรุปจบ
แถมเพลงนี้ยังมี 2 tempo เปลี่ยนจังหวะในเพลงอีก (ท่อนสามซึ่งเป็นท่อนแยกครูเปลี่ยนจังหวะค่ะ แล้วท่อนสี่กลับมาจังหวะเดิม)
อ่ะ มาดูกัน
🔵 ท่อนแรก ... ปูเรื่อง
“เสียงทวงสัญญา ที่ดังแว่วมาจากสาวอุบล
ถึงคนที่ลืมความหลังฝั่งลำน้ำมูล
ฮักบ่จริง ทิ้งสาวให้ว้าวุ่น น้ำใจช่างเปลี่ยนเวียนหมุน
บ่เหมือนสัญญาเมื่อคราก่อนนั้น...”
- บรรทัดแรก เปิดตัวรู้จักนางเอก อยู่บ้านไหน มีสถานการณ์อะไร ในบรรทัดเดียว (เทพเว่อร์)
- บรรทัดที่ 2 มีพระเอก มีที่เกิดเหตุ
- บรรทัด 3-4 ข้อหา
แค่ท่อนแรก เข้าใจเรื่องหมดละ
🔵 ท่อนสองขยี้เหตุการณ์ >> จ้าวแห่งดอกไม้สายน้ำปรากฎ
“...สัญญาฝั่งมูล ฤดูดอกคูนมันเหลืองตระการ
สายธารแม่มูลไหลหลั่งดั่งธารสวรรค์
ลอยล่องเรือ สุขเหลือสัญญาฮักมั่น
บ่นึกว่าจะแปรผัน สิ้นแล้วสวรรค์แห่งลำน้ำมูล...”
🔵 ท่อนสามอวดโอหาร
“... ฮักบ่จริงทอดทิ้งลืมง่าย
น้ำมูลใสแต่น้ำใจฮักขุ่น
นี่แหละหนอใจพ่อขุ่น
เปลี่ยนเวียนหมุนลวงหลอกสาว...”
>> มีความตัดพ้อ โชว์ลีลาการเขียน ลงรายละเอียด ขยายความ
>> ไม่พอค่ะ ความเทพคือเพลงนี้มีเปลี่ยนจังหวะที่ท่อนนี้ด้วย (ชอบท่อนนี้มาก ๆ ค่ะ)
🔵 ท่อนสี่จบด้วยทวงสัญญา
“... ลืมแล้วหรือยัง
เสียงเพลงแว่วดังสะกิดเตือนใจ
ร้างไกลพี่คงจำได้ ฝั่งมูลหน้าหนาว
สาวสู้ทนร้อนฝนรอคอยข่าว
ฝนลาเริ่มแล้วลมหนาว
พี่คงลืมสาวอุบลแล้วหนอ...”
จะเห็นได้ว่าสำบัดสำนวนสุด ๆ แต่ใช้คำง่าย และทุกคำทำงานหมดเลย ครูสลาสรุปว่าพ่อสอนให้ “อย่าเขียนพอแล้วแล้ว” (แต่ละคำของครูอ่ะเนาะ) ดูคัมภีร์พ่อสิ แค่ 1 ประโยคกินความไป 2 ฤดูเลยนะ >> ฝนลาเริ่มแล่วลมหนาว ... เป็นไงล่า (กราบบบ สิคะ รออะไร แฮร่...)
ครูเผยความในใจค่ะว่า เอาจริงตอนฟังเองครูก็รู้สึกว่ามันเป็นเพลงลูกทุ่งเชย ๆ แหละ แต่พ่อคุยกะพ่อคือ OMG! >> เจอวิธีการ เจอตำราเล่มใหญ่เขียนเพลงลูกทุ่ง
จากนั้นมา “แม่หน้ามน” หายไปละ 55
*น้องเฟิร์น กัญญารัตน์ทำหน้าที่ในเพลงนี้ได้สุดจริง ๆ รักเสียงน้อง คือแก้วเสียงกังวาน ใส ทรงพลังมาก ๆ ... เบ็นถ่ายคลิปมาแต่เสียงไม่เพราะเท่าในโรงละคร เสียดายยยย ใครผ่านมาเห็นแล้วมีคลิปที่เสียงเพราะ ๆ รบกวนแปะให้หน่อยน้าค้า 😊
บทเรียนที่ 3
🎼 #เขียนจากใจให้ดูจริง
พ่อครูพงษ์ศักดิ์ สอนบทเรียนนี้ให้ครูค่ะ ครูสลาเป็นครูเนอะ ราชการมีสมุดแจก ที่เขียนว่า “สมุดห้ามขาย” ครูเอามาเขียนเพลงจนวางซ้อนกันแล้วสูงท่วมหัวเลย ส่งเพลงไปให้ใครไม่มีสัญญาณตอบรับสักที ครูเจอพ่อเลยถามพ่อว่า ...
“พ่อครับ เขียนเพลงยังไงจะดัง”
.
.
.
“เขียนโดยไม่ยกปากกา”
พ่อครูพงษ์ศักดิ์ตอบแบบนั้นค่ะ พี่ตุ้มเป็นตัวแทนหมู่บ้านถามว่ามันคือยังไงนะ 555 ครูบอกว่าคือพอก้มลงเขียนแล้วเพลงต้องไหลไปจนจบ เช่น เพลงที่ครูเขียนแล้วกลายเป็นเพลงชาติอีสาน มีคนอีสานรวมตัวที่ไหน ต้องมีเพลงนี้ที่นั่น 😊
เพลง “อีสานบ้านเฮา”
โดย พ่อครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา
“...หอมดอกผักกะแยง
ยามฟ้าแดงค่ำลงมา
แอ๊บแอ๊บเขียดจานา
ร้องยามฟ้าฮ้องฮ่วนฮ่วน...”
นั่นละค่ะ เราต้องเคยได้ยิ๊นนนน เบ็นชอบเพลงนี้มาก ๆ อีกเช่นกันค่ะ เสียงมันสนุกมาก ๆ ซึ่งเพลงชาติอีสานนี้ครูใช้เวลาแต่งแค่แว๊บบบบบเดียว แค่ 1 ยกปากกาเท่านั้นทุกคน
เรื่องมีอยู่ว่าพ่อครูไปดูอาจารย์เทพพร เพชรอุบลอัดเพลงค่ะ ปกติอัลบั้มสมัยนั้นต้องมี 12 เพลง … แต่เพลงไม่พอ ขาดไป 1 นายห้างหันมาถามพ่อครูว่ามีเพลงอย๋บ้างไหม ขอให้ อ.เทพพรสักเพลง พ่อบอกมี แต่คือที่จริงยังไม่มีสักเพลงค่ะ เห้ยยยย...
พ่อครูบอกว่าความจนบอกให้ตอบแบบนั้น ตอบเสร็จพ่อครูก็บอกนายห้างว่า แต่ยังไม่ได้เขียนเนื้อ ขอเข้าห้องน้ำแพ้บ แล้วพ่อครูพงษ์ศักดิ์ก็ไปยืนเขียนในห้องน้ำค่ะทุกคน (จริงดิ่! … คิดเหมือนกันใช่ไหมคะ อะไรมันจะเทพเบอร์นี้) ครูสลาบอกว่าที่ง่ายเพราะเพลงนี้เป็นร่ายอีสานด้วยค่ะ พ่อครูท่านถนัดร่าย ต้องเร็วก็ใช้ท่าถนัด 😊
เขียนเสร็จก็ออกมาร้องให้ฟัง แล้วไกด์นักดนตรีเล่นเลย (สมัยนั้นเวลาอัดเสียง คือเค้ามากันทั้งวงค่ะ ต้องเล่นพร้อมกันทั้งหมดเหมือนแสดงสด) พ่อครูเล่าแบบแซวตัวเองขำ ๆ ให้ครูสลาฟังว่า จังหวะนั้นคือไม่ใช่เรียบเรียงเสียงประสาน แต่เป็นเรียบเรียงเสียงประแนะ 555 ... คือแนะนักดนตรีฉ่ำ ๆ แกเล่นแบบนี้ แกขึ้นตรงนั้น ว่าไป ... พีคมากกกก 😮
หัวใจของการเขียนแบบไม่ยกปากกาคือ ...
1. เขียนจากใจของเรา
2. เขียนจากความจริง
3. ไม่ต้องปรุงแต่งเยอะ
4. อย่าไปตามใคร (คือใครเค้าแต่งแบบไหนฮิต อย่าไปตามเค้า)
อ่า ... ที่เล่ามาทั้งหมด เราจะไม่ได้ฟังเพลงนี้ค่ะ 555 คือเพลงที่ 3 ไม่ใช่หอมดอกผักกระแยงค่าทุกโค้นนนน ไอ้เราก็เตรียมเซิ้งเต็มที่ เปล๊า ... นั่นคือ intro เข้าเรื่องราวของเพลงที่ 3 (ขุ่นพระ! ... อิชั้นอุทานในใจ ไม่ใช่ไม่ชอบนะคะ ชอบบบบ 555)
ครูสลาก็เลยเลือกเพลงนี้มาฝาก เพราะเป็นเรื่องที่เกิดจากชีวิตจริง ๆ ของครูค่ะ ... สมัยหนุ่ม ๆ ครูมีความรักเนาะ ก็จะคอยจดหมายรักจากสาวบ้านอื่นที่ไปมีใจกันไว้ ชะเง้อตลอดว่าพี่ไปรษณีย์จะข้ามสนามจากฝั่งกระโน้นมาบ้านฝั่งกระนี้ไหม เนี่ย ... การรอคอยมันมีคุณค่าทางใจ 😊
อยู่มาวันนึงพี่ไปรก็ข้ามมาจริง ๆ ทุกคน แต่เอ๊ะ... ลายมือไม่คุ้นเลย เปิดมาเป็นนัดหมายไปทำงานก่อสร้างซะงั้น จ่าหน้าซองถูกแต่ข้างในมันผิด อ่ะ ... เดาได้ยังคะเพลงอะไร มันดังมากนะทุกคน (หรือมันนานแล้วนะ 55)
ถั่วโต้มมม นั่นคือที่มาของเพลง “จดหมายผิดซอง” ค่ะ คือครูมาคิดว่าถ้าเป็นเรื่องความรักล่ะ ส่งจดหมายมาหาผิดตัวจะเป็นยังไง แต่ตอนนั้นครูยังอยู่ในยุคมืดนะคะ แบบว่าเขียนไปก่อน ไม่รู้ใครจะร้อง (จังหวะนี้พี่เอกแซวว่าดีนะครูได้จดหมายผิดซอง ไม่ใช่จดหมายลูกโซ่ หรือคอลเซ็นเตอร์ ไม่งั้นเพลงอาจจะไปอีกแนว 555)
ระหว่างนั้นครูยังทำอาชีพครูอยู่ เอาจริงคือครูจบวิทยาลัยครูสายวิทย์ แต่ได้สอนภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ (หืมมม อิหยังนิ) ครูเลยแต่งเพลงเอาไว้สอนภาษาไทยค่ะ ช่วงบ่ายอากาศร้อน อยู่ในอาคารเรียนไม่ได้ ครูจะพาเด็ก ๆ ออกมานั่งใต้ร่มไม้ เหมือนในหนัง “ครูบ้านนอก” มันเท่อ่ะเนาะ ดูเป็นครูเก๋ ๆ แต่งเพลงได้ ปรากฏว่าเด็กชอบเพลงนี้ เอาไปร้องเชียร์กีฬา (ห๊ะ! … เราห๊ะพร้อมกันค่ะพี่เอก 555)
อ.วิทยาที่เป็นครูกีฬาท่านได้ยินเข้าค่ะ ท่านบอกว่าท่านรู้จัก “ครูสุรินทร์ ภาคศิริ” ก็นำเพลงนี้ไปเสนอให้ครูขัดเกลา แล้วเอาไปให้ “รุ่งนคร พรอำนาจ” ร้อง ช่ายค่าทุกคนต้นฉบับเพลงนี้ไม่ใช่คุณมนต์สิทธิ์ คำสร้อยค่ะ แต่เป็นคุณรุ่งนคร พรอำนาจ
แต่คุณรุ่งนครร้องแล้วไม่ดัง ครูมารู้ทีหลังว่าเป็นเพราะแมนเกิ๊น ร้อง “ต๊ายตาย” ไม่คือ 🤣 ตอนแต่งครูไม่รู้ค่ะว่าคำนี้มันเป็นผู้หญิง 555 คิดดูว่าคุณรุ่งนครเอามาอยู่ในอัลบั้มชื่อ “นักเลงเหล้าขาว” ... ไม่คือหยั่งแรว๊งงงงส์ (พี่กริช ทอมมัส มาทักตอนหลังค่ะ ครูสลาเลยเพิ่งรู้ว่าเป็นคำผู้หญิง 55)
จนคุณมนต์สิทธิ์มาร้อง จริตมันได้ค่ะทุกคน ฮิตระเบิดระเบ้อไปเรยยยย
ก่อนจะได้ฟังเพลง ต๊ายตาย...จดหมายผิดซอง ช่วงนี้ไหน ๆ ก็พูดถึงพี่กริช ทอมมัส พี่ตุ้มเลยชวนครูเล่าเกร็ดการเลือกเพลงของพี่กริชกับครูค่ะ
ช่วงที่ “หยาดเหงื่อเพื่อแม่” ของคุณเอกพล มนต์ตระการดัง พี่ ๆ ก็ต้องหาเพลงใหม่ให้ร้อง ครูสลาเสนอเพลง “ยังคอยที่ซอยเดิม” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ “ศาลาคนเศร้า” (พี่ตุ้มบอกว่าเล่มนี้มันเป็นคลังไอเดียของนักแต่งเพลงเลยนะ พี่กบ Big Ass ก็เล่มนี้แหละ 😊) ครูอ่านแล้วมันจะมีซีนเหมือน ๆ กันในหลายเรื่องค่ะ คือหนุ่มสาวจากบ้านไกลมาพบกันในเมืองกรุง มีคนที่จากไปไม่กลับมาตามสัญญา แล้วจะมีอีกฝ่ายคอยอยู่ที่เดิม
พี่กริชบอก ... อ่ะเล่าไอเดียเพลงมาสิ
“ห้องเช่าน้อยน้อย
ปากซอยมีร้านเซเว่น
เลิกงานตอนเย็น
ก่อนเคยเป็นเหมือนดังวิมาน
สุขตามประสาคนบ้านทุ่งเข้ากรุงเจอกัน
แต่พอเจ้าลาเมือบ้าน
ช่วงสงกรานต์มีอันเงียบไป ...”
ครูบอกว่าห้องเช่านี้มีจริงนะ ครูเขียนจากเรื่องจริง ซอยรัชดา 32 ไปดูได้เลย (เอาซี้ ... ตามรอยเพลงครูสลากันไหมทุกคน อิอิ)
พี่กริช บอกให้เล่าไป เล่าไปเรื่อย ๆ จนถึงท่อนสาม
“...ผ่านร้านเซเว่น
เช้าเย็นเห็นภาพเก่า ๆ
ที่เคยแวะซื้อกับข้าว
ลวกผักนึ่งปลาแม่ค้ารถเข็น
ลูกชิ้นปากซอย
เดินเกี่ยวก้อยด้วยกันยามเย็น...”
พี่กริชบอกปากมันเลย กินทั้งเพลง 555 ครูบอกพี่กริชปากจัดมาก สรุปว่าไม่ผ่าน คุณเอกพลไม่ได้ร้องเพลงนี้ เอ๊ะ ... แล้วทำไมเราได้ยิน มันฮิตมากนะ เพราะตอนหลังคุณมนต์แคน แก่นคูณ ไม่มีเพลงจะร้อง ครูเลยให้เพลงนี้ไป ปรากฏว่าดังเม้กกกก
สรุปคือครูเลือกมัก mass เพราะมันเป็นวิถีชีวิตครู พี่กริชไม่อินฟีลนี้เท่านั่นเอง 😊
#ช่วงไทอิน - ให้พื้นที่ลูกศิษย์ฮะ
เพลงนี้ครูมอบหมายให้หนุ่มไร่อ้อยจากแดนอีสานมาร้อง ไร่อ้อยจริง ๆ นะทุกคน แล้วก็เคยเป็น bodyguard ที่ชลบุรีด้วย (ล่ำบึ้กมาก นึกถึงพี่บัวขาวที่เพิ่มส่วนสูงไปอีกอ่ะค่ะ) พี่เค้ามาประกวดร้องเพลงในรายการศึกวันดวลเพลงเพราะอยากเจอครูสลา
วันที่มาประกวดก็คือร้องเพลงไม่เป็นเลย ร้องไม่ตรงจังหวะด้วยซ้ำ แต่ครูชอบเพราะซื่อมาก บ้านนอกดี และเสียงมียี่ห้อ เนื่องจากเป็นคนปลอมเสียงไม่เป็น (ร้องเลียนแบบนักร้องคนไหนไม่ได้ทั้งนั้น) และเพราะเกิดยุคดามพ์ ดัสกร บวกกับความอยากตั้งชื่อตามผิวพรรณ ขอเชิญทุกท่านพบกับ ...
ดำ ดัสกร ในเพลง “จดหมายผิดซอง” 555555555
ได้อารมณ์คุณรุ่งนครร้องง่ะทุกคน แมนจั๊ดดดด พี่ดำน่ารักดี ซื่อ ๆ ใสๆ ยิ้มหวานให้พวกเราตลอดเวลา ชอบพี่นะค้า
บทเรียนที่ 4
🎼 #ร่วมรับรู้กับสังคม
ครูบอกว่าพี่น้องไทยอนุมัติให้เราเป็นนักแต่งเพลง ให้เราทำมาหากินในสังคมนี้ แผ่นดินนี้ ด้วยอาชีพนี้ มีเหตุการณ์อะไรในสังคมเราต้องร่วมรู้สึกไปด้วย เพลงของครูจึงบันทึก สะท้อน และเป็นเสียงให้สังคมในด้านต่าง ๆ อยู่เสมอ
“อย่าไม่รู้สึกรู้สากับสังคม”
ครูสลา คุณาวุฒิ
ช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ครูอัดรายการดวลเพลงชิงทุนอยู่ก็ได้ข่าวกัมพูชา ลูกสาวครูสลา น้องต้นข้าวที่ดูแลค่ายเพลงซองเดออยู่บอกว่าเราต้องส่งพลังใจ ต้องทำอะไรสักอย่าง เลยโทรมาขอเพลงจากครูสลา ถามว่ามีเพลงอะไรที่มีอยู่สามารถนำมาใช้ได้บ้าง
ครูคิด ๆ ดูก็รู้สึกว่าเพลงที่มีมันไม่ร่วมสมัยแล้ว เลยบอกให้น้องต้นข้าวรอหน่อย เดี๋ยวอัดรายการเสร็จแต่งให้เลย ครูแต่งเพลงเสร็จในวันเดียว แล้ววันรุ่งขึ้นก็เรียกดำ ดัสกร และ ตัส ชนะชัย ตีรถกันมาจากบ้านที่ต่างจังหวัดมาทำเพลงนี้ และทั้ง 2 คนก็มาร้องเพลงนี้ให้เราฟังกันสด ๆ ในวันนี้ค่ะ
เพลง “แชทใจจากชายแดน”
“...เจ้ารักษาใจเด้อ
อ้ายสิรักษาชาติ
ใครหน้าไหนบังอาจ
ล่วงเกินอำนาจอธิปไตย
แผ่นดินผืนนี้แค่เศษธุลี
บ่ยอมให้ใคร ...”
ขอบคุณครูสลาและพลังเสียงของทั้ง 2 คนนะคะ ขอบคุณกำลังใจที่ส่งให้พี่ ๆ ทหารชายแดนค่ะ เบ็นก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ ๆ ร่วมทั้งส่งใจไปให้ผู้คนในพื้นที่ทุกคน ขอให้เหตุการณ์ต่าง ๆ เรียบร้อยในเร็ววันค่ะ 💖💖
บทเรียนที่ 5
🎼 #คอยเติมสิ่งให้คนสู้
ครูบอกว่าอยู่ในวงการมานาน วันนึงก็มีความคิดที่อยากจะวางมือไปอยู่บ้านนอกสบาย ๆ ทำโคกหนองนา แต่พอคิดจะวางทีไร ก็จะมีลูกศิษย์มาหา มีคนใหม่มาให้ช่วยปั้นทางปั้นอนาคต ก็เลยทำต่อมาเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าเกิน 60 ควรเกษียณแล้ว
วันนั้นครูเดินออกมายืนชานบ้าน มองดูสิ่งที่มี แล้วก็คิด ... “เรามีทุกอย่างนี้เพราะอะไรนะ” คำตอบก็คือเพราะเขียนเพลง ตั้งแต่วันนั้นครูก็ตั้งใจจะเขียนเพลงต่อไปเพื่อขอบคุณอาชีพนี้ ที่ทำให้มีวันนี้ ที่พาครูจากครูบ้านนอก มาเป็นครูใหญ่ มาเป็นคนเขียนเพลง
คนเขียนเพลงที่มีนักร้องมาบอกว่า “ขอบคุณที่ครูพาเด็กน้อยคนหนึ่งลงจากหลังควายมานั่งรถเก๋ง” คนที่พูดประโยคนี้คือคนที่ร้องเพลง “ยาใจคนจน” พี่ไมค์ ภิรมย์พร
ครูบอกว่าเขียนเพลงนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้คนรากหญ้า >> เพลงแบบนี้คือเพลงที่ครูเรียกว่า “เพลงคู่ชีวิต” ในขณะที่พี่ปู พงษ์สิทธิ์เขียนเพลงเพื่อชีวิต ครูเขียนเพลงคู่ชีวิต
เพลงคู่ชีวิตคือยังไง? คือเพลงที่พี่กริช ทอมมัส ใช้คำว่า “เขียนให้เหมือนผัวเมียคุยกัน” ... เออ ก็เหมือนจริง แล้วเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่แทนใจคนรักกัน คนที่เดินเคียงข้าง ฝ่าความยากลำบากมาด้วยกันได้งดงามจริง ๆ ค่ะ
และคนที่จะมาร้องเพลงนี้ให้เราฟังก็คือ ... เซอร์ไพรสสสสสส์ ... ต้นฉบับกว่าต้นฉบับไปอีกค่า ครูสลาร้องเพลงนี้ให้เราฟังเองเลยทุกคน TT__TT ปลื้มง่ะ ขนลุกกกก
 
ครูสลาบอกว่าถ้าทำอะไรผิดก็เนี่ยแหละ “ผิดเป็นครู” ของแท้ 555 ความลับที่เราไม่เคยรู้ก็คือครูมีอัลบั้มของตัวเองนะทุกคน ไม่ใช่แค่อัลบั้มเดียวด้วย แต่ครูออกมาแล้วถึง 13 อัลบั้ม! ที่พี่กริชเรียกว่าเป็นอัลบั้มน้ำตานายห้าง 555 >> ดังแบบเงียบ ๆ ... ร้องเองไม่ดัง แต่เขียนให้คนอื่นปังมากกกก
เพลง “ยาใจคนจน”
“...เป็นแฟนคนจน
ต้องทนหน่อยน้อง
อย่าแคร์สายตาคนมอง
อย่าหมองเมื่อยามแพ้พ่าย
อย่าเพิ่งด่วนลา
เมื่อเจอปัญหาใดใด
ยืนเคียงเพื่อคอยยิ้มให้
เป็นยาชุบใจคนจน”
สรุป ...
คัมภีร์ง่ายแต่งามในนามครู
บทเรียนทั้ง 5 นี้คือหลักที่ครูสลาเอาไว้เตือนใจตัวเองในการทำงานค่ะ
1. ฉุดใจสู่วัยฝัน
2. สื่อสารด้วยความง่าย
3. เขียนจากใจให้ดูจริง
4. คอยเติมสิ่งให้คนสู้
5. ร่วมรับรู้กับสังคม
โดย 5 ข้้นตอนการเขียนเพลงของครูเป็นดังนี้
1. #ขึ้นต้นต้องโดนใจ
2. #เนื้อในต้องคมชัด เห็นภาพ ได้กลิ่น
3. #ประหยัดคำไม่วกวน ใช้คำเข้าใจง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย ต้องไม่มีคำที่ไม่ทำงาน
4. #ทำให้คนฟังนึกว่าเป็นเพลงของเขา เพลงต้องแทนตัวเขาได้
5. #จบเรื่องราวประทับใจ จะเป็นคำตอบหรือทิ้งคำถามก็ไม่รู้แหละ แต่ต้องทำให้คนจำติดใจ 😊
===================
Concert พี่ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์
===================
พี่ปูเริ่มคอนเสิร์ตแบบไม่ปกติของพี่ปูด้วยเพลง “คิดถึง” ค่ะ เสียงพี่ปูเพราะเหมือนเดิม เสน่ห์ของการได้ฟังสดคือการได้มีประสบการณ์กับการ improvise สนุก ๆ ของพี่ปูและพี่ ๆ นักดนตรีทุกคนค่ะ อยากบอกว่าพี่ ๆ เทพมาก ๆ เลย
คนที่เบ็นประทับใจมากคือ อ.สุวรรณ มือไวโอลินค่ะ ตั้งแต่เพลงแรก ๆ เบ็นก็หันไปเพ้อกับคนข้าง ๆ ตลอด ๆ ว่าไวโอลินเพราะจังเลย พี่เค้าเก่งจังเลย เลิฟเสียงไวโอลินม๊าก แล้วเราก็ได้ทราบว่าอาจารย์มาจากกรมศิลป์ ออกมาอยู่กะวงให้เป็นภาระพี่ปูเพราะรักพี่ปูมาก 555 ล้อเล่นค่ะ อาจารย์เก่งมาก ๆ ชอบซีนม้าสีหมอกในเพลง “รักเดียว” มาก ๆ ค่า ... (อ.สุวรรณสีไอโอลินเป็นม้าสีหมอก มีเสียงฝีเท้าม้าด้วย) รักเลย
คอนเสิร์ตนี้มีความไม่ปกติหลายอย่างที่พี่ปูบอกค่ะ
- สถานที่เล่น พี่ปูบอกปกติอยู่ตามงานกาชาด สนามกลางแจ้ง มาอยู่สยามรู้สึกไม่สบายตัว ทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าเดินไปไหนเลย 555 ... แต่ความโรงละคร เสียงดี พี่ปูชอบบบบ
- พอมาอยู่ในที่แบบนี้พี่ปูเลยได้เล่นเพลงตามใจตัวเอง เพลงที่ไม่ค่อยได้เล่น เพลงช้า เพลงฟังทั้งหลาย เพราะมันเหมาะกะที่นี่ดี พอเพื่อนเสนอเพลงโจ๊ะทีไร พี่ปู้บอก ... มันไม่เหมาะกะงานนี้ 555 พี่ปูบอกว่านี่ถ้าไปเล่นงานปกติ โดน แ ท ง ตุยไปละ วัยรุ่นหงุดหงิดตายเลย เล่นเพลงอิหยังงงง เออ ... ไม่เคยคิดมุมนี้ งั้นพี่ ๆ น่าจะชอบที่ได้เล่นเพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นเนาะว่าไหมทุกคน
ซีนเซอร์ไพรส์ของคอนฯ ยิ่งใหญ่มาก คนชอบลูกทุ่งอย่างเบ็นรักเลย (หลายรักละนะ 555 จะเข้าแกงค์รักเดียวกะพี่ ๆ ได้แล้ว) เพราะพี่ปูร้องเพลงลูกทุ่งเว้ยยยย เท่อ่า คอนนี้มันช่างเท่จริงเบย
เริ่มจากเม้าท์ครูสลา เอ้ยไม่ใช่ 555 เล่าค่ะเล่า พี่ปูเล่าว่าเจอครูสลาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ ตอนนั้นครูอยากเป็นนักกวี เลยไปอยู่ในกลุ่มนักวรรณกรรมลำน้ำมูลที่เขามีจัดอ่านกวีกัน วงพี่ปูไปเล่นสลับการอ่านกวีเลยได้เจอครูสลา แล้วจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกนานเลย เกือบจะ 40 ปีแล้ว ดีใจที่ได้มาเจอกันงานนี้ เพราะครูสลาคิวแน่นมาก ออกทีวีมากกว่าดาราอีก 🤣
พี่ปูดีใจมากที่ครูเลือกเพลงของพี่ปูเป็นเพลย์ลิสต์ ... เป็นเพลงคู่ชีวิต พี่ปูเองก็อยากจะร้องเพลงลูกทุ่งคารวะครูสลาเช่นกัน ว่าแล้วพี่ปูก็ร้องเพลงของครูไพบูลย์ บุตรขันให้ครูสลาค่ะ เป็น “มนต์รักลูกทุ่ง” เวอร์ชั่นที่เท่มาก (พี่ปูบอกถ้าเป็นคอนฯ จริงโดนละนะ 55)
 
นอกจากเล่นเพลงลูกทุ่งให้ครูสลาแล้ว ก็ยังเล่นเพลงเกี่ยวกับประชาธิปไตยให้ อ.ปริญญา แฝดคนละฝาของพี่ตุ้มด้วย พี่ปูบอกเจอ อ.ปริญญาตั้งแต่ปี 2535 แถวสนามหลวง แต่ไม่เจอพี่ตุ้มแถวนั้น พี่ตุ้มนี่คือต้องไป RCA 5555 (จริงป่ะเนี่ยยย)
มุกในการ engage คนดูก็น่ารักมาก ๆ ค่ะ นอกจากปล่อยมุกแซวคนดู แซวตัวเอง แซวคนในวงแล้ว พี่ปูก็ชวนทุกคนให้เป็นส่วนหนึ่งของเพลง โดยบอกเราว่าตอนนี้บางเพลงเวลาคนขอก็ทรมานมาก เพราะตอนแต่ง แต่งเพลงผู้บ่าวไม่เผื่อแก่ 555 มันต้องใช้พลังเยอะ สูงปรี๊ด ต่ำจัด มันทรมาน อ่ะ คนดูช่วยกันเนาะ 😊 เอ็นดู พี่ปูน่ารักจัง และเบ็นก็รู้สึกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่สนุกโดยเราไม่ต้องลุกขึ้นเต้นอะไรเลย (มีแอบโยกในเพลงโจ๊ะ ๆ บ้าง ฮรี่)
จังหวะจบคอนฯ ที่พี่ปูขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ ที่ช่วยกันร้อง ที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ และเป็นเธอคนเดิมเสมอ ทุกเวลา ... มันดียยยย์ มันดีงามต่อใจมาก ๆ ค่ะทุกคน เบ็นรู้สึกได้ว่าพี่ปูรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ พี่ปูได้เอาหัวใจออกมาทัชใจทุกคนจริง ๆ
---------------------------
ขอบคุณพี่ปูมาก ๆ นะคะ สำหรับช่วงเวลาที่ที่งดงาม อบอุ่น และสนุกมาก ๆ ดีใจที่พี่มีที่ให้เล่นเพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นค่ะ
ขอบคุณครูสลาสำหรับแง่คิด บทเพลง และกลวิธีการเขียนที่ครูนำมาฝาก ครูใจดีและเป็นแบบอย่างของครูที่แท้จริง เบ็นสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่ครูมีให้ศิษย์ของครูจริง ๆ ค่ะ
ขอบคุณพี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ พี่เอก สยามพิฆเนศ พี่แพน อิศรา ที่สร้างสรรค์งานดี ๆ ค่ะ แล้วพบกันใหม่ใน Vol.12 “อิ้งค์ วรันธร” + Playlist "พี่แทน-ลิปตา" ที่จะร้องโดย “ตุ๊กตา The Voice” และ “ปาล์ม Slojoe” ค่า
💖💖🥰🥰💖💖
#BennOte #bp_ben
#WednesdaySong
#ครูสลา #KrooSala
#ปูพงษ์สิทธิ์ #PuPongsit
#benji_went_there
#benji_is_learning
#inspiration

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา