18 ธ.ค. เวลา 16:50 • ความคิดเห็น
EP. 2
ถ้าหันกลับมามองประเทศไทยอย่างซื่อสัตย์กับตัวเอง เราจะเห็นภาพที่คล้ายจีนมาก เพียงแต่ซับซ้อนกว่าและพรางตัวเก่งกว่า จีนไม่อ้อมค้อม เขาบอกชัดว่าอำนาจอยู่ที่พรรค อยู่ที่ผู้นำสูงสุด แล้วท้องถิ่นก็ทำหน้าที่ตามคำสั่งนั้น แต่ไทยเราเลือกใช้วิธีที่เนียนกว่า ใช้คำว่าเลือกตั้ง ใช้คำว่าประชาธิปไตย ใช้พิธีกรรม ใช้กฎหมาย ใช้คนกลางจำนวนมาก มาบดบังโครงสร้างอำนาจที่แท้จริง
พูดกันแบบไม่ต้องรักษามารยาททางการเมืองมากนัก ประเทศไทยมี “เจ้าของอำนาจตัวจริง” อยู่ศูนย์กลาง และมีระบบคิดแทน ตัดสินใจแทน วางกรอบแทน ผ่านโครงสร้างที่ไม่ต้องยึดโยงกับประชาชน ระบบนั้นไม่ต้องลงเลือกตั้ง ไม่ต้องรับผิดทางการเมือง แต่มีอำนาจเหนือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
2
ถ้าจะอุปมาแบบจีน สีจิ้นผิงสั่งงานผู้ว่ามณฑล
แต่ของไทยอำนาจสูงสุดส่งสัญญาณ แล้วรัฐบาลทำหน้าที่ “แปลสาร” ออกมาเป็นนโยบาย กฎหมาย งบประมาณ และคำสั่งราชการ
ผู้ว่าในจีนขึ้นตรงต่อพรรค
รัฐบาลไทยจำนวนมากก็ขึ้นตรงต่ออำนาจนอกระบบในลักษณะเดียวกัน
ความต่างมีแค่อย่างเดียว
จีนไม่อ้างประชาธิปไตย
แต่ไทยเอาป้ายประชาธิปไตยมาติดหน้าร้าน
1
เนื้อในของระบบไทยจึงไม่ใช่ประชาธิปไตยตามหลักการ เสียงประชาชนถูกสกัด ถูกกรอง ถูกลดทอน ผ่านกลไกที่มาจากการแต่งตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า วุฒิสภา องค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ กติกาการเลือกตั้ง ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อให้ “เสียงส่วนใหญ่” ไปไม่ถึง “อำนาจขั้นสุดท้าย”
แล้วคำถามคือ
ถ้าไทยคล้ายอำนาจนิยมแบบจีน ทำไมไทยไม่เจริญแบบจีน
คำตอบคือ เพราะเราเอาข้อเสียของอำนาจนิยมมาเต็มๆ
แต่ไม่เอาประสิทธิภาพแบบจีนมาเลย
1
จีนรวมศูนย์อำนาจก็จริง แต่เขามีวินัย มีเป้าหมายระยะยาว มี meritocracy ภายในพรรค คนทำงานพลาดโดนปลด ผู้ว่าฯ แข่งกันพัฒนาเศรษฐกิจ ใครทำตัวถ่วงโดนเขี่ยทิ้ง จีนใช้ประชาชนเป็นต้นทุนก็จริง แต่รัฐ “เอาจริง” กับการพัฒนา
แต่ไทยเป็นอำนาจนิยมแบบอุปถัมภ์
อำนาจรวมศูนย์ แต่ไร้ความรับผิด
ไม่มีการแข่งขันเชิงผลงาน
ไม่มีการลงโทษผู้ล้มเหลวอย่างจริงจัง
มีแต่การรักษาดุลอำนาจ รักษาหน้า รักษาผลประโยชน์ของเครือข่ายเดิม
จีนคือเผด็จการที่ทำงาน
ไทยคือเผด็จการที่กลัวการเปลี่ยนแปลง
1
ทีนี้ต้องกลับมาที่คำถามใหญ่กว่านั้น
ประชาธิปไตยมีคุณค่าอะไร
ประชาธิปไตยไม่เคยสัญญาว่าประเทศจะรวย
ไม่เคยสัญญาว่าจะไม่มีคอร์รัปชัน
ไม่เคยสัญญาว่าการตัดสินใจของประชาชนจะถูกเสมอ
สิ่งเดียวที่ประชาธิปไตยสัญญา คือ
อำนาจขั้นสุดท้ายต้องเป็นของประชาชน
และเมื่อผู้มีอำนาจตัดสินใจผิด ประชาชนมีสิทธิ์เปลี่ยนเขาได้
1
จีนเลือกแลกเสรีภาพกับความเร็ว
แต่ไทยไม่ได้ให้ประชาชนเลือกว่าจะแลกหรือไม่
ไทยเอาเสรีภาพไป แต่ก็ไม่ให้ความเร็ว ไม่ให้ประสิทธิภาพ ไม่ให้ความมั่งคั่ง
สุดท้ายเราจึงอยู่ในสภาพที่แย่กว่าทั้งสองฝั่ง
ไม่เป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนมีศักดิ์ศรี
และไม่เป็นอำนาจนิยมที่พัฒนาได้จริง
นี่แหละคือปัญหาหลักของประเทศไทย
ไม่ใช่ว่าเรายากจนเพราะประชาธิปไตย
แต่เพราะเราไม่เคยมีประชาธิปไตยจริงๆ
และก็ไม่กล้ารับผิดชอบแบบอำนาจนิยมจริงๆ เช่นกัน
โฆษณา