5 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าว

📂 เมื่อขายแล้ว…เงินไม่พอแบ่ง (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2568)

ตอนที่ 6 (ตอนจบ) : เมื่อไม่มีเงินเหลือ กฎหมายก็ไม่แบ่ง ⚖️📉
⚖️ ศาลฎีกา กับการตั้งคำถามที่ต่างจากศาลอุทธรณ์
เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า ทรัพย์เป็นสินสมรสหรือไม่ เพราะข้อนี้เป็นที่ยุติแล้ว แต่ศาลฎีกาตั้งคำถามที่ลึกกว่า คือ เมื่อมีข้อตกลงแบ่งสินสมรสโดยชัดแจ้งแล้ว สิทธิในทรัพย์จะถูกกำหนดด้วยหลักทั่วไป หรือด้วยเงื่อนไขเฉพาะที่คู่กรณีเลือกใช้เอง คำถามนี้ทำให้ศาลต้องย้อนกลับไปอ่านข้อตกลงท้ายทะเบียนการหย่าอย่างละเอียดทีละถ้อยคำ ⚖️
📜 ข้อตกลงท้ายทะเบียน คือสัญญาที่ผูกพันกันเอง
ศาลฎีกาวางหลักชัดว่า บันทึกข้อตกลงท้ายทะเบียนการหย่าเป็น สัญญาแบ่งสินสมรส ที่มีผลผูกพันระหว่างคู่กรณีตามเจตนาที่แสดงออกในวันหย่า ไม่ใช่เพียงแนวทางกว้างๆ ที่เลือกใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ เมื่อคู่กรณีตกลงกันแล้วว่าจะขายบ้าน คืนเงิน 2,800,000 บาท ให้ฝ่ายหนึ่ง และให้อีกฝ่ายรับเฉพาะ “ส่วนที่เหลือ” ศาลจึงต้องยึดถือตามนั้น ไม่ใช่นำหลักแบ่งครึ่งทั่วไปมาทับข้อตกลงที่มีอยู่ ⚖️📘
💸 “ส่วนที่เหลือ” ต้องมีอยู่จริงก่อนจะแบ่งได้
หัวใจของคำพิพากษาศาลฎีกาอยู่ที่การตีความคำว่า “ส่วนที่เหลือ” อย่างตรงไปตรงมาและเป็นรูปธรรม ศาลชี้ว่า สิทธิของจำเลยที่ 2 เกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีเงินจากการขาย เกินกว่า 2,800,000 บาท เท่านั้น เพราะนั่นคือเงื่อนไขที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับร่วมกันไว้ตั้งแต่ต้น และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า การขายทอดตลาดได้เงินเพียง 2,590,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าจำนวนที่ต้องคืนให้จำเลยที่ 1 จึงไม่มีเงินส่วนเกิน และไม่มีสิ่งใดให้ “เหลือ” เพื่อแบ่ง ⚖️💰
🏛️ การขายทอดตลาด ก็ยังเป็น “การขาย” ตามข้อตกลง
ศาลฎีกาปฏิเสธข้ออ้างที่ว่า การขายตามข้อตกลงต้องเป็นการขายโดยคู่กรณีเองเท่านั้น โดยชี้ว่า ในข้อตกลงท้ายทะเบียนการหย่า ไม่ได้กำหนดวิธีการขาย และไม่ได้ห้ามการขายทอดตลาดเพื่อบังคับคดี การขายที่เกิดขึ้นจึงยังอยู่ภายใต้คำว่า “ขาย” ตามข้อตกลง และผลของการขายย่อมต้องถูกนำมาใช้คำนวณสิทธิของแต่ละฝ่ายตามเงื่อนไขเดิม ไม่ใช่ตีความใหม่เพราะผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามความหวัง ⚖️📉
🧠 สิทธิในสินสมรส ถูกจำกัดได้ด้วยสัญญา
ศาลฎีกาวางบรรทัดฐานสำคัญว่า แม้ทรัพย์จะเป็นสินสมรส แต่เมื่อคู่สมรสหย่าและทำสัญญาแบ่งสินสมรสโดยชัดแจ้ง สิทธิในทรัพย์ย่อมถูกกำหนดและจำกัดด้วยสัญญานั้น การอ้างหลักแบ่งครึ่งทั่วไป ไม่อาจนำมาใช้แทนเงื่อนไขที่คู่กรณีตกลงกันเองได้ เพราะนั่นจะเป็นการล้มโครงสร้างของสัญญา และทำให้ข้อตกลงท้ายทะเบียนการหย่ากลายเป็นเพียงกระดาษไร้ความหมาย ⚖️🧠
🔄 เหตุใดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงถูกกลับ
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ศาลฎีกาจึงไม่เห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ที่กันเงินครึ่งหนึ่งให้จำเลยที่ 2 เพราะเป็นการแบ่งทรัพย์โดยไม่ยึดตามเงื่อนไขในข้อตกลง และเป็นการสร้างสิทธิที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามสัญญา ศาลฎีกาจึงพิพากษากลับ ให้ยกคำร้องขอกันส่วน และให้เงินจากการขายถูกจัดการไปตามกระบวนการบังคับคดีโดยไม่มีการกันส่วนให้จำเลยที่ 2 ⚖️📜
🔚 บทสรุปของคดี กฎหมายไม่แบ่งในสิ่งที่ไม่มี
คดีนี้จบลงด้วยหลักการที่ชัดเจนว่า
สิทธิในการแบ่งทรัพย์ ไม่ได้เกิดจากความเป็นธรรมตามความรู้สึก แต่เกิดจากเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้และตัวเลขที่เกิดขึ้นจริง
เมื่อไม่มีเงินส่วนเกิน กฎหมายก็ไม่อาจสร้าง “ส่วนแบ่ง” ขึ้นมาให้ใครได้ แม้ทรัพย์นั้นจะเคยเป็นสินสมรสก็ตาม
บ้านอาจถูกขาย
เงินอาจไม่พอ
แต่ข้อตกลงยังคงผูกพัน
และกฎหมายจะไม่แบ่งในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ⚖️📂
โฆษณา