เมื่อวาน เวลา 15:38 • ปรัชญา

คุณไม่จำเป็นต้องแบกรับชีวิตใคร "เพื่อพิสูจน์ว่าคุณใจดี"

ถึง… empath และ light worker
คุณ “ไม่ได้มีหน้าที่แบกรับชีวิตใคร”
เราต่างต้อง “รับผิดชอบบาดแผลของตนเอง”
.
คนที่เป็น empath หรือ light worker เมื่อเราสามารถรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้ เรามักจะสัมผัสได้ว่าใครกำลังเจ็บปวด ใครกำลังต้องการความช่วยเหลือ จนเราต้องรู้สึกอยากเข้าไปช่วย แบกรับอารมณ์เค้าเข้ามาเป็นสิ่งที่ “ฉันจำเป็นต้องรับผิดชอบ” …ฉันสงสารเขา…
การแบกรับภาระทางอารมณ์ที่ไม่ใช่ของตัวเราเอง ไม่ใช่ทางออกที่ดีต่อตัวเค้าเอง รวมถึงตัวเราที่มักคิดว่ามันเป็น “หน้าที่” สามารถช่วยเขาได้ เรามักจะคิดว่าถ้าเราไม่ช่วยเค้า เขาคงจะสับสน หลงทาง และเราอยากเห็นเขาดีขึ้น เพราะเรามองเห็นศักยภาพเขาแล้วว่า ถ้าเขาเยียวยาได้จริง ชีวิตเค้าจะดีขึ้นมากแค่ไหน
แต่…ถ้าความรู้สึกเหล่านั้นกำลังทำให้เราต้องใครแบกสักคนหนึ่งจนเรารู้สึก “หนักอึ้ง” จนเผาผลาญพลังงานภายในของเรา โดยไม่มีขอบเขตแล้วละก็ นั่นก็เป็นเสมือน…การทำร้ายตนเองในเชิงลึก เช่นเดียวกัน
.
หากเรานำพลังงานทั้งหมดของเรา ไปช่วยพยุงใครสักคนหนึ่ง ‘มากจนเกินไป’ ช่วยเกิน ประคองเกิน “หวังว่าเขาจะเปลี่ยน” มันมักจะทำให้เรา…หมดแรงเสียก่อน… จนต้องกลับมาเยียวยาตัวเองใหม่
.
การที่เราอยากเข้าไปช่วยมากเกินไป
‘ไม่ใช่เป็นเพราะภายในของเราอ่อนแอ
ความเมตตาไม่เคยผิด ความอ่อนโยนก็ไม่เคยผิด
แต่มันเป็นเพราะ…เราเป็นคนที่มีหัวใจใหญ่ 🌷
และไม่เคยมีใครสอนเราว่า ‘การรักโดยไม่ต้องแบกนั้นเป็นอย่างไร
.
หากเราใช้พลังงานชีวิตของเรา เข้าไปจดจ่ออยู่ในห้วงเวลาชีวิตของเขา “ด้วยมุมมองจากอนาคต” ที่เรามองเห็นว่าเขาสามารถเป็นได้-ทำได้ จะเป็นการทำร้ายตัวเองที่ “ไม่มองเขาจากความจริง ณ ปัจจุบัน” อย่างที่เขากำลังเป็น
…เรากำลังคาดหวัง มากเกินไป…
.
ใช่ เราอาจกำลังคิดว่า เพราะอยากช่วยให้เขามุ่งหน้าไปสู่ตัวตนที่สูงขึ้น ดีขึ้น เป็น The best version of yourself เพราะทุกคนสามารถพัฒนาได้ ⭐ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ “ความพร้อมของเขา…เขาพร้อมเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง แล้วรึยัง”
เราเคยถามเขาไหมว่า ‘เขาสมัครใจที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้นแล้วรึยัง ?
.
ให้เขา… “เป็นผู้เลือก” วิธีแก้ไขชีวิต ด้วยการตระหนักรู้ในการชั่งน้ำหนักในหัวใจของเค้าเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีเราช่วยเหลือตลอดเส้นทาง
.
เราในฐานะผู้ที่มองเห็นว่า เค้ากำลังติดปัญหาอะไร เขาจะดีขึ้นได้ด้วยมุมมองแบบไหน ก็ให้ตัวเราได้เป็นเพียง “ผู้ส่องแสงสว่างเข้าไป นำทางเค้าท่ามกลางความมืดมิด” แทนการเข้าไปมีส่วนร่วมทุกเหตุการณ์ในชีวิตของเค้า หรือแบกรับ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
🕯️จุดแสงเทียนให้เค้ามองเห็นเส้นทาง ว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงเส้นทางเดียว แต่ยังมีอีกหลายเส้นทางที่เค้าสามารถ “เลือกเดินได้” การจุดเทียนของเรา มีเป้าหมายเพื่อให้เค้าเห็นว่าจะต้องเจออะไรบ้างกับเส้นทางนั้น
เขาจะเห็นว่าเส้นทางนั้น เป็นหนทางสู่ลำธารที่อาจนำไปเจอพืชพันธุ์ธัญญาหาร 🏞️🌽🫘 หรือเป็นหนทางสู่แร่ถ่านหิน ที่อาจนำไปเจอก้อนหินดินทราย หรือหากโชคดีอาจทองคำก็ได้⛰️✨🪾
.
🌻 สิ่งนี้ เราไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองลงไปช่วยเค้าคิดวิเคราะห์ แต่ให้เค้าเองนั่นแหละ ที่เป็นคนได้คิด ได้เลือก ตัดสินใจเองว่า ณ ขณะนั้น เค้าควรไปเส้นทางไหน ถึงจะดีที่สุดสำหรับตัวเค้าเอง
.
มันไม่มีเส้นทางไหนที่ดีที่สุด
แล้วก็ไม่มีเส้นทางไหนที่แย่สุดเช่นกัน
.
ทั้งหมดจะกลายเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าของชีวิตเค้า และเค้าจะขอบคุณมันได้ในสักวันหนึ่ง นั่นคือโชคชะตา…โชคชะตาที่เค้าต้องเผชิญ และเป็นโชคชะตาที่เค้าได้เลือกเดินเองด้วย
🌛 หากตัวเค้าเองยังไม่พร้อม ตั้งใจตั้งกำแพงสูง ปิดตัวเองลง ยังคงอยากอยู่ในแพทเทิร์นเดิมทางความรู้สึก รับฟังแต่ไม่อาจนำไปปรับใช้ เราก็ “ไม่อาจบังคับเขาได้” อนุญาตให้ตัวเองและเค้าได้มีสิทธิ์เลือก มีอิสระในการตัดสินใจทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
เราสามารถเดินออกมาได้ หากใจไม่ไหว
เขาสามารถเลือกเดินชีวิตของตัวเองได้ โดยไม่ต้องฟังคำแนะนำของเรา
.
มันไม่มีใครผิด
เพราะความจริงแล้ว
‘เดิมทีเรามีเพียงความหวังดี
.
แล้วเราควรทำเช่นไรดี?
💞 ถามตัวเองก่อน
“ฉันทำด้วยความเต็มใจ หรือความกลัว?”
การช่วยเค้าครั้งนี้ เรามีความเต็มใจที่จะช่วยหรือว่า เรากำลังกลัวว่าจะเห็นอะไรต่อจากนี้ หรือไม่...เพราะมันอาจซ่อนพลังอยากควบคุม โดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นกลไกป้องกันทางใจ (ไม่ใช่ความผิด) ที่เราเองยังไม่ได้เยียวยาก็เป็นได้
เช่น ลึก ๆ “ฉันไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้” ซึ่งมันอาจมาจากความกลัวของเราเอง ที่ไม่อยากเห็นตัวเราในเวอร์ชั่นแบบนี้เหมือนกัน มันเชื่อมโยงกับบาดแผลแห่งการไม่ยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของตนเอง อาจยังไม่สามารถโอบกอดข้อเสียในตนเอง หรือความรู้สึกถูกด้อยค่าในชีวิตได้ เป็นต้น
.
💞หากคนตรงหน้าที่เค้าไม่ต้องการรับความช่วยเหลือจากเรา เราเอง “สามารถถอยออกได้ โดยไม่ต้องอธิบายยาว” หนึ่งคือเราเคารพตัวเอง สองคือเราก็เคารพการตัดสินใจของเขา
💞 “ยอมรับความไม่สบายใจของการไม่ช่วย” เมื่อเราได้ทำเต็มที่แล้ว การโอบกอดและเมตตาความรู้สึกไม่สบายใจของตัวเอง ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น
.
เราไม่จำเป็นต้องโกรธ ไม่พอใจ
ที่เขาไม่อาจทำตามหรือคิดในสิ่งที่เราอยากให้เป็น เพราะนั่นคือพลังของการ “อยากควบคุม” มากกว่า การปล่อยให้ทุกจิตวิญญาณ “มีเสรีทางเจตจำนงค์” ซึ่งเราทุกคนสมควรที่ได้รับอย่างเท่าเทียมกัน
.
ทำหน้าที่ของเราที่เราสามารถทำได้ อย่างเต็มที่
ก็ไม่มีอะไรให้เสียใจ การช่วยเหลือผู้อื่น จะต้อง “ไม่เสียสละตนเอง” เพื่อความสุขของใคร เฉกเช่นเดียวกับการเลือกคนรัก การเลือกคนที่เข้ามาอยู่ในชีวิต
จำไว้ว่า
.
✨ คนที่ใช่ คือ
“คนที่รับผิดชอบชีวิตของตนเองได้
ไม่ใช่คนที่คุณต้องเยียวยาหรือแบกรับ”
.
อย่าเพิ่งดึงคนที่ไม่พร้อมมาเป็นคู่ชีวิต
ถึงแม้คนเราจะสามารถพัฒนาตนเองได้เสมอ
แต่ ‘คนที่พร้อมจะพัฒนาปรับปรุงตัวเอง 🌻
กับ ‘คนที่ไม่พร้อมจะแก้ไขนั้น…แตกต่างกันมาก
.
รักษาพลังงานและสติของตัวเราที่มีต่อผู้อื่น ด้วยความเข้าใจ ความเคารพ และให้เกียรติ แทนการสงสาร การเสียสละ การแบกภาระทางอารมณ์ของคนอื่น จะช่วยสร้างสมดุลทางความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ความรักที่ดี ไม่จำเป็นต้องเสียสละตัวตน
ความสัมพันธ์ที่ดี ต่างต้อง “พยายาม” ด้วยกันทั้งคู่ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่ฝ่ายเดียว
และบาดแผลทางหัวใจของตน ก็ต้องการเพียงตนผู้เดียวเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบ มันต้องการการใส่ใจที่จะตระหนักรู้และเยียวยารักษา เพราะเห็นควรว่าจำเป็นและสำคัญต่อชีวิตตนเองและชีวิตคู่ครอง 🤍 สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับจิตใจของผู้ใด แต่ขึ้นอยู่กับจิตใจของผู้ที่เห็นถึงความสำคัญของการเยียวยานั้น ๆ เอง
.
ผู้ที่เยียวยารักษาหัวใจตัวเองได้
รู้จักปรับปรุงแก้ไข รับผิดชอบตนเองเสมอ
ต่างฝ่ายต่างเป็นคนเช่นนี้ต่อกัน
ก็จะไม่ทำให้ต้องมีฝ่ายใดสูญเสียตัวตน เสียสละพลังงานและความเป็นตัวเองไป และกระบวนการนี้ก็พร้อมสำหรับการมุ่งหน้าสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน มั่นคง และปลอดภัยในอนาคต
.
ทั้งหมดต้องตั้งอยู่บนความเป็นจริงในปัจจุบัน
ไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังว่าจะเห็นมันในอนาคต
การตั้งขอบเขตความสัมพันธ์ที่ดีเช่นนี้ให้ตัวเราเอง จะช่วยให้เราไม่สูญเสียตัวเองไปพร้อม ๆ กับความใจดีของเราค่ะ ทะนุถนอมจิตใจตัวเองที่ดีนี้ต่อไปนะคะ
ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องเจอ คนที่ใช่ กลุ่มคนที่ใช่ คนที่รักคุณในสิ่งที่คุณเป็น พร้อมเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อม ๆ กัน โดยไม่จำเป็นต้องเสียสละตัวเองไม่ว่าจะทางกายหรือใจ พร้อมรับฟังและโอบกอดหัวใจกันและกัน 🌈💞🌞
.
Alienaire :)
โฆษณา