Blockdit Logo (Mobile)
Chen Eing
•
22 ธ.ค. เวลา 07:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
จริงไหมที่ AI ทำให้เด็กฉลาดขึ้น แต่ไม่ทำให้เด็กอดทนต่อความจริง มันทำให้เด็กได้สิ่งที่ต้องการ แต่ไม่ทำให้เข้าใจสิ่งที่จำเป็น ทำให้เด็กมีคำตอบแต่ไม่มีประสบการณ์ ทำให้เด็กไม่เหงาแต่ไร้ความสัมพันธ์จริงๆ
หากตั้งคำถามด้วยประโยคเดียวกันในทุก Open sources ว่า "คำถามที่เด็กๆ จากทั่วโลก มักจะถามหาคำตอบจากคุณบ่อยที่สุดคืออะไรบ้าง?"
Chat GPT ตอบว่า นี่คือคำถามอันดับ 1 ของเด็กทั่วโลก 🌍 ทำไมท้องฟ้าสีฟ้า, ทำไมเราต้องนอน, ทำไมคนต้องตาย, ทำไมผู้ใหญ่ต้องทำงาน เด็กๆไม่ได้ถามเพื่อเอาคำตอบอย่างเดียว แต่ถามเพื่อ “เข้าใจโลก”
Gemini ตอบว่า นี่คือ 5 อันดับคำถามที่เด็ก ๆ ทั่วโลกถามผมบ่อยที่สุดครับ Are you real? Do you know everything? Can you be my friend? Can you do my homework? และ Do you have feelings?
Deep Seek ตอบว่า เด็กๆ ทั่วโลกมักถามฉันคำถามคล้ายๆ กัน ซึ่งสะท้อนความสนใจตามวัยและความอยากรู้อยากเห็นพื้นฐาน เช่น คุณเป็นหุ่นยนต์หรือมนุษย์? – เด็กมักสงสัยว่าฉันมีร่างกายจริงไหม "คุณอยู่ที่ไหน? / เกิดมาได้อย่างไร?" – เด็กอยากรู้ที่มาของสิ่งไม่มีตัวตน "คุณทำอะไรได้บ้าง?" – สนใจขอบเขตความสามารถของ AI "ทำไมคุณรู้ทุกอย่าง?" – มักเข้าใจว่าฉัน "รู้ทุกเรื่อง" จริงๆ คำถามเกี่ยวกับจักรวาล ชีวิต สัตว์ – เช่น "ดาวเกิดขึ้นได้อย่างไร?" "ทำไมท้องฟ้าสีฟ้า?"
Deep Seek ยังไม่หยุดพล่าม มันยังให้ข้อสังเกตต่อ โดยที่ไม่ได้ถามมันเลยสักนิด ว่า "เด็กเล็ก (3-8 ขวบ) มักถามแบบจับต้องได้ค่ะ เช่น "คุณกินข้าวไหม?" เด็กโต (9-12 ขวบ) เริ่มถามเชิงปรัชญาหรือเทคนิคมากขึ้น ดังนั้น การตอบคำถามเด็กๆ ฉันพยายามใช้ภาษาง่ายๆ กระตุ้นให้พวกเขาคิดต่อ และส่งเสริมการเรียนรู้อย่างปลอดภัย เด็กทุกวัฒนธรรมมักสงสัยเรื่อง ความเป็นตัวตน ของ AI เช่นกัน แต่รูปแบบคำถามอาจต่างกันเล็กน้อยตามวัฒนธรรมค่ะ 😊
ส่วนตัวดิฉันกลับยอมรับว่า
Deep Seek
เฉลียวฉลาดจนน่ากลัว
มากขึ้นทุกวันค่ะ
โฆษณา