เมื่อวาน เวลา 14:00 • การศึกษา

10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับศาสนา: เปิดหน้าต่างสู่ความเข้าใจโลกและความหลากหลาย

เรื่องของศาสนาไม่ใช่แค่เรื่องของความเชื่อหรือพิธีกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานของประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก การเข้าใจความหลากหลายทางศาสนาจะช่วยให้เรามองโลกด้วยสายตาที่กว้างขวางและเข้าใจเพื่อนมนุษย์ได้ดีขึ้น
นี่คือบทความที่จะพาคุณไปพบกับ 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับศาสนา ที่จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับคุณครับ
-----
1. ศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังมีการปฏิบัติอยู่แม้จะยากที่จะระบุวันที่แน่นอน แต่ ศาสนาฮินดู มักถูกยกให้เป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังมีผู้นับถืออยู่ในปัจจุบัน โดยมีรากเหง้าดั้งเดิมย้อนกลับไปมากกว่า 4,000 ปี ในแถบลุ่มแม่น้ำสินธุ สิ่งที่น่าสนใจคือฮินดูไม่มี "ศาสดา" หรือผู้ก่อตั้งที่ชัดเจนเพียงคนเดียว แต่เกิดจากการหลอมรวมความเชื่อและปรัชญาหลายสายเข้าด้วยกัน
2. กลุ่มศาสนา "อับราฮัม" (Abrahamic Religions)คุณทราบหรือไม่ว่า ศาสนายูดาห์ (ยิว), ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม มีจุดเริ่มต้นและสายประวัติศาสตร์ร่วมกัน? ทั้งสามศาสนาถูกเรียกว่า "ศาสนาอับราฮัม" เพราะต่างนับถือ "อับราฮัม" เป็นบรรพบุรุษทางความเชื่อร่วมกัน และเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวกัน แม้จะมีข้อวัตรปฏิบัติและคัมภีร์ที่แตกต่างกันในภายหลังก็ตาม
3. ศาสนาพุทธคือศาสนา "อเทวนิยม" (Non-theistic)ในขณะที่หลายศาสนาเน้นการเคารพบูชาพระเจ้าผู้สร้าง แต่ ศาสนาพุทธ (โดยเฉพาะสายเถรวาท) ถูกจัดเป็นศาสนาประเภท "อเทวนิยม" คือไม่ได้สอนเรื่องพระเจ้าผู้สร้างโลก แต่เน้นไปที่การฝึกฝนจิตใจ ปัญญา และกฎแห่งเหตุและผล (กฎแห่งกรรม) เพื่อการหลุดพ้นจากทุกข์ด้วยตนเอง
4. ภาษาศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกพันกับความเชื่อหลายศาสนามี "ภาษาเฉพาะ" ที่ใช้ในการบันทึกคัมภีร์และทำพิธีกรรม ซึ่งส่งผลต่อวัฒนธรรมทางภาษาของโลกอย่างมาก เช่น:
• ภาษาบาลี/สันสกฤต: ศาสนาพุทธและฮินดู
• ภาษาอาหรับ: ศาสนาอิสลาม
• ภาษาละติน: ศาสนาคริสต์ (นิกายโรมันคาทอลิกในอดีต)
• ภาษาฮีบรู: ศาสนายูดาห์
5. "กฎทอง" (The Golden Rule) ที่ทุกศาสนามีร่วมกันแม้จะมีพิธีกรรมที่ต่างกัน แต่เกือบทุกศาสนาทั่วโลกมีคำสอนพื้นฐานที่เหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ คือ "จงปฏิบัติต่อผู้อื่น เหมือนที่คุณอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อคุณ" (หรือ "สิ่งใดที่คุณไม่ชอบ ก็อย่าทำสิ่งนั้นกับคนอื่น") ซึ่งเป็นหลักจริยธรรมสากลที่เชื่อมโยงมนุษยชาติไว้ด้วยกัน
6. จำนวนผู้นับถือศาสนาหลักของโลก (โดยประมาณ)จากการสำรวจสถิติประชากรโลกในปัจจุบัน ลำดับศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดมีดังนี้:
• คริสต์ 2,400 ล้านคน
• อิสลาม1,900 ล้านคน
• ฮินดู1,200 ล้านคน
• พุทธ500 ล้านคน
7. กลุ่มผู้ไม่มีศาสนา (The Nones) กำลังเติบโตหนึ่งในปรากฏการณ์ที่น่าสนใจในศตวรรษที่ 21 คือการเพิ่มขึ้นของกลุ่ม "The Nones" หรือผู้ที่ระบุว่าตนเองไม่มีสังกัดทางศาสนา (รวมถึง Atheist, Agnostic และผู้ที่เชื่อในจิตวิญญาณแต่ไม่เข้าสังกัดองค์กร) ซึ่งปัจจุบันถือเป็นกลุ่มที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากคริสต์และอิสลาม
8. สิกข์: ศาสนาแห่งความเท่าเทียมและงานบริการศาสนาสิกข์ เป็นศาสนาที่เน้นเรื่องความเท่าเทียมของมนุษย์อย่างเคร่งครัด สังเกตได้จาก "ลางการ์" (Langar) หรือโรงครัวในวิหารสิกข์ (คุรุดวารา) ที่จะแจกจ่ายอาหารฟรีให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร นับถือศาสนาใด โดยทุกคนต้องนั่งรับประทานอาหารบนพื้นระดับเดียวกัน เพื่อแสดงถึงความเสมอภาค
9. ปฏิทินที่แตกต่างกันตามความเชื่อศาสนามีอิทธิพลต่อการนับ "ปี" ของเรา:
• คริสต์ศักราช (ค.ศ.): เริ่มนับจากการประสูติของพระเยซู
• พุทธศักราช (พ.ศ.): เริ่มนับจากการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
• ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.): เริ่มนับจากการอพยพ (Hijra) ของท่านนบีมูฮัมหมัดจากมักกะฮ์ไปมะดีนะฮ์
10. ชินโต: ศาสนาที่ผูกพันกับธรรมชาติศาสนาชินโต ของญี่ปุ่น สอนว่าในธรรมชาติมี "กามิ" (Kami) หรือจิตวิญญาณ/เทพเจ้า สถิตอยู่ทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นในต้นไม้ ภูเขา หรือแม่น้ำ ความเชื่อนี้หล่อหลอมให้ชาวญี่ปุ่นมีความเคารพและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างประณีต ซึ่งเราจะเห็นได้จาก "เสาโทริอิ" สีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาตินั่นเอง
-----
สรุป: การเรียนรู้เรื่องศาสนาไม่ได้หมายความว่าเราต้องเปลี่ยนความเชื่อ แต่คือการสร้าง "ความฉลาดทางวัฒนธรรม" ที่จะช่วยให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างยั่งยืนและสันติครับ
โฆษณา