[Histofun Deluxe] 🇩🇪 ไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์เยอรมนี ฉบับจบในโพสต์เดียว 🏰 เยอรมนีในยุคกลาง

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Histofun Deluxe

ยืนยันแล้ว

•

23 ธ.ค. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์

🇩🇪 ไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์เยอรมนี ฉบับจบในโพสต์เดียว

🏰 เยอรมนีในยุคกลาง

800 | ชาร์เลอมาญ (Charlemagne) กษัตริย์แห่งชาวแฟรงก์ (Franks ชนเผ่าเยอรมันกลุ่มหนึ่ง) ได้รับการสวมมงกุฎจากพระสันตะปาปาลีโอที่ 3 ให้เป็นจักรพรรดิของชาวโรมัน ในฐานะผู้สืบทอดความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันในอดีต

843 | จักรวรรดิของชาร์เลอมาญถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ฝั่งตะวันตกจะพัฒนาเป็นฝรั่งเศส และฝั่งตะวันออกจะพัฒนาเป็นเยอรมนี (ส่วนตอนกลางถูกผนวกโดยอีกสองฝั่ง)

962 | ออตโตที่ 1 (Otto I) กษัตริย์เยอรมันแห่งแฟรงค์ตะวันออกได้รับการสวมมงกุฎเป็นจักรพรรดิของชาวโรมัน จุดเริ่มต้นของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่มีศูนย์กลางในเยอรมนี

1250 | การสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิเฟรเดอริกที่ 2 (Frederick II) แห่งราชวงศ์โฮเฮนสเตาเฟน (Hohenstaufen) ถือเป็นจุดสิ้นสุดอำนาจส่วนกลางของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เปิดโอกาสให้บรรดารัฐต่าง ๆ ในจักรวรรดิแยกเป็นอิสระ

1438 | ราชวงศ์ฮับส์บวร์ก (Habsburg) ที่มีศูนย์กลางในออสเตรีย เริ่มต้นปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

1517 |มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) ประกาศข้อโต้แย้ง 95 ประการต่อหลักปฏิบัติของคริสตจักรดั้งเดิม จุดเริ่มต้นของนิกายโปรเตสแตนต์ที่แยกจากคริสตจักรคาทอลิก

💡 ประวัติศาสตร์เยอรมนียุคใหม่

1618-1648 | เกิดสงครามสามสิบปีระหว่างฝ่ายคาทอลิกกับโปรเตสแตนต์ สนธิสัญญาเวสต์ฟาเลีย (Treaty of Westphalia) ที่ยุติสงครามในปี 1648 ยืนยันความเป็นอิสระเกือบสมบูรณ์ของรัฐต่าง ๆ ในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

1701 | ราชอาณาจักรปรัสเซีย (Kingdom of Prussia) ถูกสถาปนาขึ้น และจะกลายเป็นรัฐของชาวเยอรมันที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคต

1740-1786 | ปรัสเซียในยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์เฟรเดอริกมหาราช (Frederick the Great)

1806 | กองทัพของนโปเลียนเข้ายึดครองดินแดนส่วนใหญ่ของเยอรมนี จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ถูกยุบและแทนที่ด้วยสมาพันธรัฐแห่งแม่น้ำไรน์ (Confederated States of the Rhine)

ฟรานซิสที่ 2 (Francis II) อดีตจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิแห่งออสเตรีย

1813 | นโปเลียนพ่ายแพ้ในยุทธการไลป์ซิก (Battle of Leipzig) ต่อกองทัพพันธมิตรออสเตรีย ปรัสเซีย สวีเดน และรัสเซีย สมาพันธรัฐแห่งแม่น้ำไรน์ถูกยุบ

1815 | สมาพันธรัฐเยอรมัน (German Confederation) ถูกก่อตั้งขึ้น ประกอบด้วยรัฐของชาวเยอรมัน 39 รัฐ โดยมีออสเตรียและปรัสเซียเป็นมหาอำนาจ

1848 | ปีแห่งการปฏิวัติ (Year of Revolutions) ความพยายามของฝ่ายเสรีนิยมในการรวมเยอรมนีให้เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยล้มเหลว

1866 | ปรัสเซียเอาชนะสงครามเหนือออสเตรีย ออสเตรียถูกขับออกจากสมาพันธรัฐเยอรมัน ปรัสเซียสถาปนาสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือ (North German Confederation) ที่มีปรัสเซียเป็นผู้นำ

🇾🇪 จักรวรรดิเยอรมัน

1871 | ชัยชนะเหนือฝรั่งเศส ปรัสเซียรวมชาติเยอรมันสำเร็จ สถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน (German Empire) จักรพรรดิวิลเฮล์ม (Wilhelm I) และนายกรัฐมนตรีออตโต ฟอน บิสมาร์ก (Otto von Bismarck)

1888 | จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 (Wilhelm II) ขึ้นครองราชย์ จุดเริ่มต้นของการล่าอาณานิคม และการสร้างกองทัพเรือเพื่อแข่งขันกับอังกฤษ การเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจเยอรมนี

1890 | การเคลื่อนไหวของแรงงานที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ นำไปสู่การก่อตั้งพรรคสังคมประชาธิปไตยแห่งเยอรมนี (Social Democratic Party of Germany)

1914 | เยอรมนีเข้าร่วมในมหาสงคราม (สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง) ร่วมกับฝ่ายมหาอำนาจกลาง ที่ประกอบด้วยออสเตรีย-ฮังการี บัลแกเรีย และออตโตมัน

1918 | เยอรมนีประกาศยอมแพ้ จักรพรรดิวิลเฮล์มสละราชสมบัติ จักรวรรดิเยอรมันล่มสลาย

🇩🇪 สาธารณรัฐไวมาร์

1919 | สาธารณรัฐไวมาร์ (Weimar Republic) เยอรมนีสูญเสียดินแดน อาณานิคม และต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามจำนวนมหาศาลจากสนธิสัญญาแวร์ซายส์ เยอรมนียังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้ออย่างรุนแรง และการว่างงาน

1923 | พรรคแรงงานชาติสังคมนิยมเยอรมัน (NSDAP) ของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พยายามก่อรัฐประหารแต่ไม่สำเร็จ (กบฎโรงเบียร์)

1929 | ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำคร้้งใหญ่ (Great Depression) ทำให้พรรคแรงงานชาติสังคมนิยมเยอรมันได้รับความนิยมจากประชาชน จากวาทะกรรมของฮิตเลอร์ที่จะทวงคืนความยิ่งใหญ่ของชาติและการกล่าวโทษชาวยิว

1933 | ฮิตเลอร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐไวมาร์ล่มสลาย เยอรมนีกลายสภาพเป็นรัฐเผด็จการพรรคเดียว

🟥 อาณาจักรไรช์ที่สาม

1934 | ฮิตเลอร์สถาปนาเป็นผู้นำสูงสุด (ฟือเรอร์)

1935 | ประกาศใช้กฎหมายนูเรมเบิร์ก (Nuremberg Laws) เพิกถอนสัญชาติชาวเยอรมันเชื้อสายยิว

1938 | เยอรมนียึดครองออสเตรียและดินแดนซูเดเทนแลนด์ (Sudetenland) ของเชคโกสโลวาเกีย โดยอ้างว่าเป็นการผนวกรวมดินแดนที่มีชาวเยอรมันอาศัยอยู่

เหตุการณ์คืนกระจกแตก (Kristallnacht) ศาสนสถานและร้านค้าของชาวยิวถูกบุกทำลาย

1939-1945 | การบุกโปแลนด์ของเยอรมนีจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สอง การกวาดล้างชาติพันธุ์ (ส่วนใหญ่เป็นชาวยิว) และค่ายมรณะในยุโรปตะวันออก

1945 | เยอรมนีพ่ายแพ้สงคราม ฮิตเลอร์ปลิดชีพตนเอง ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะสงครามเข้ายึดครองเยอรมนี

🇩🇪 ประเทศแบ่งแยก

1945-1946 | การพิจารณาคดีนูเรมเบิร์ก พิพากษาอาชญากรสงคราม

1949 | เยอรมนีถูกแบ่งเป็น 2 ประเทศ พื้นที่ที่สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศสยึดครองกลายเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (เยอรมนีตะวันตก) ส่วนพื้นที่ที่สหภาพโซเวียตยึดครองกลายเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมัน (เยอรมนีตะวันออก)

คอนราด อเดนาวเออร์ (Konrad Adenauer) จากพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (หรือพรรค CDU) เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของเยอรมนีตะวันตก ส่วนเยอรมนีตะวันออกนำโดยวอลเตอร์ อุลบริชท์ (Walter Ulbricht)

ทศวรรษ 1950 | จุดเริ่มต้นของปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจของเยอรมนีตะวันตก

1952 | เยอรมนีตะวันตก ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก และอิตาลี เข้าร่วมในประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้ายุโรป (ECSC) ที่จะพัฒนาและเป็นรากฐานของสหภาพยุโรป (EU) ในอนาคต

1955 | เยอรมนีตะวันตกเข้าร่วม NATO เยอรมนีตะวันออกเข้าร่วม Warsaw Pact

1957 | เยอรมนีตะวันตกเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (EEC) ที่พัฒนาจาก ECSC

1961 | เยอรมนีตะวันออกเริ่มต้นก่อสร้างกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) เพื่อปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเดินทางไปยังเบอร์ลินตะวันตก (West Berlin) ที่เป็นดินแดนของเยอรมนีตะวันตก

1969 | วิลลี่ บรันด์ท (Willy Brandt) จากพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (หรือพรรค SPD) ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีตะวันตก ดำเนินนโยบาย Ostpolitik (นโยบายตะวันออก) เพื่อแสวงหาความสัมพันธ์อันดีกับสหภาพโซเวียตและเยอรมนีตะวันออก

1971 | เอริช โฮเนคเกอร์ (Erich Honecker) สืบทอดอำนาจผู้นำเยอรมนีตะวันออกต่อจากวอลเตอร์ อุลบริชท์

1973 | เยอรมนีตะวันตกและตะวันออกเข้าร่วม UN

1974 | เฮลมุต ชมิดท์ (Helmut Schmidt) ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีตะวันตก ดำเนินนโยบาย Ostpolitik ต่อไป

1982 | เฮลมุต โคห์ล (Helmut Kohl) จากพรรค CDU ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีตะวันตก

1987 | เอริช โฮเนกเกอร์ ผู้นำเยอรมนีตะวันออก เดินทางเยือนเยอรมนีตะวันตกอย่างเป็นทางการครั้งแรก

1989 | ชาวเยอรมันตะวันออกอพยพออกจากประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก (ที่เป็นรัฐบริวารของโซเวียต) ผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทาง

การประท้วงทั่วเยอรมนีตะวันออกนำไปสู่การล่มสลายอย่างรวดเร็วของระบอบคอมมิวนิสต์ ชาวเยอรมันทั้งจากตะวันตกและตะวันออกร่วมกันทุบทำลายกำแพงเบอร์ลิน

🇩🇪 เยอรมนีร่วมสมัย

1990 | สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เยอรมนีทั้งสองประเทศรวมเป็นหนึ่งเดียว

1994 | กองทัพรัสเซียและพันธมิตรถอนกำลังออกจากเบอร์ลินทั้งหมด

1998 |เกอร์ฮาร์ด ชโรเดอร์ (Gerhard Schroede) หัวหน้าพรรค SPD ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป นำไปสู่การตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคกรีน (Green Party)

มิถุนายน 2001 | รัฐบาลเยอรมนีประกาศยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายใน 20 ปีข้างหน้า

พฤศจิกายน 2001 | นายกรัฐมนตรีชโรเดอร์รอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจ หลังตัดสินใจส่งทหาร 4,000 นายเข้าร่วมปฏิบัติการในอัฟกานิสถานที่นำโดยสหรัฐฯ นับเป็นการส่งทหารเยอรมันไปประจำการนอกยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

มกราคม 2002 | เงินสกุลยูโรเข้ามาแทนที่เงินสกุลมาร์คเยอรมัน

กันยายน 2002 | พรรคร่วมรัฐบาลของชโรเดอร์ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งด้วยเสียงข้างมาก แต่ด้วยจำนวนที่นั่งที่น้อยลง

พฤษภาคม 2004 | ฮอร์สต์ เคอห์เลอร์ (Horst Koehler) ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรค CDU ที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นอดีตประธาน IMF ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี

สิงหาคม-กันยายน 2004 | ประชาชนหลายหมื่นคนออกมาประท้วงบนท้องถนน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออก เพื่อประท้วงแผนการของรัฐบาลที่จะลดเงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน

พฤษภาคม 2005 | หลังจากพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นในรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย นายกรัฐมนตรีชโรเดอร์ประกาศว่า จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด

🇩🇪 ยุคของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิล

พฤศจิกายน 2005 | อังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) หัวหน้าพรรค CDU ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี) หลังก่อตั้ง รัฐบาลผสมร่วมกับพรรค SPD หลังผลการเลือกตั้งในเดือนกันยายนไม่มีผลสรุปที่แน่ชัด

พฤศจิกายน 2006 | อัตราการว่างงานของเยอรมนีลดลงต่ำกว่า 4 ล้านคนเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี

💰 วิกฤตเศรษฐกิจ

ตุลาคม 2008 | เยอรมนีเห็นชอบแผนการอนุมัติเงิน 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกอบกู้ธนาคารไฮโป เรียล เอสเตท (Hypo Real Estate) ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจากการล้มละลาย

พฤศจิกายน 2008 | เยอรมนีถูกประกาศว่าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ

กุมภาพันธ์ 2009 | รัฐสภาเยอรมนีอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

ตุลาคม 2009 | พรรค CDU บรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคเสรีประชาธิปไตย (หรือพรรค FDP) หลังการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายน

2010 | เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวลง 5% ในปี 2009 เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนตกต่ำ

🇪🇺 ปัญหาของ Eurozone

พฤษภาคม 2010 | รัฐสภาเยอรมนีอนุมัติเงินช่วยเหลือ 22,000 ล้านยูโรเพื่อบรรเทาหนี้สินของกรีซ ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชน พรรคร่วมรัฐบาลพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นในรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย ส่งผลให้สูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง

กันยายน 2010 | คณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนการขยายอายุการใช้งานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของเยอรมนี ทำให้เกิดข้อถกเถียง เพราะเป็นการกลับคำที่เคยประกาศในปี 2001

มีนาคม 2011 | ความพ่ายแพ้ของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิล เมื่อพรรค CDU สูญเสียรัฐสำคัญอย่างบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์กเป็นครั้งแรกในรอบหกทศวรรษ

พฤษภาคม 2011 | รัฐบาลเยอรมนีเปลี่ยนท่าทีเรื่องพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้ง หลังเกิดวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะในญี่ปุ่น โดยประกาศว่าจะทยอยปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดภายในปี 2022

กรกฎาคม 2011 | นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลยืนยันที่จะตัดสินให้ความช่วยเหลือทางการเงินเป็นครั้งที่สองให้กับกรีซ โดยยืนยันว่าเป็นหน้าที่ทางประวัติศาสตร์ของเยอรมนีที่จะปกป้องสกุลเงินยูโร

2012 | เยอรมนีประสบกับการอพยพเข้าประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี โดยมีผู้อพยพถาวรจำนวนกว่า 400,000 คน

ตุลาคม 2013 | เยอรมนีถอนกำลังทหารส่วนใหญ่ออกจากอัฟกานิสถาน

ธันวาคม 2013 | แมร์เคิลเริ่มต้นวาระนายกรัฐมนตรีสมัยที่สาม

เมษายน 2014 | เยอรมนีกำหนดค่าแรงขั้นต่ำเป็นครั้งแรก โดยกำหนดไว้ที่ 8.50 ยูโรต่อชั่วโมง

🇩🇪 วิกฤตผู้อพยพและปัญหาปัจจุบัน

กันยายน 2015 | นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลเสนอที่ลี้ภัยชั่วคราวให้กับแก่ผู้อพยพ กระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนย้ายของผู้คนจำนวนมากผ่านคาบสมุทรบอลข่านไปยังเยอรมนีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวในปีนั้น

2016- | ปัญหาของผู้อพยพภายในเยอรมนี ทำให้เกิดกระแสต่อต้านผู้อพยพ พรรคที่มีแนวคิดขวาจัดอย่างพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (Alternative for Germany) ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นพรรคใหญ่อันดับสามของประเทศ รองจากพรรค CDU และพรรค SPD

ธันวาคม 2021 | นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลลาออกจากตำแหน่ง

อ้างอิง

Germany profile - Timeline. BBC. https://www.bbc.com/news/world-europe-17301646

Germany Timeline and History Overview. Ducksters. https://www.ducksters.com/geography/country/germany_history_timeline.php

A Chronology of German History. The Atlantic. https://www.theatlantic.com/magazine/archive/1957/03/a-chronology-of-german-history/642871/

#HistofunDeluxe

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

🇩🇪 ไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์เยอรมนี ฉบับจบในโพสต์เดียว

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน