Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ร้อยเรื่องหลากมุมกับ ภก.ปราโมทย์
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 14:49 • สุขภาพ
นกกับแมลงสาป เชื้อจากไหน ร้ายกว่ากัน
ผมเพิ่งมีโอกาสได้ไปทำงาน(แต่แอบเที่ยว) ที่จังหวัดสมุทรสาคร ดินแดนเงียบสงบที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัส เนื่องจากเป็นทางผ่าน ทำให้ผมทำได้แค่ผ่านมาผ่านไปบริเวณนั้น ครั้งนี้ได้ไปสัมผัสด้วยตนเอง ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากๆ
หลายคนที่รู้จักผมเป็นการส่วนตัวจะทราบดีว่าผมค่อนข้างอคติกับนก นกเกือบทุกชนิด ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อผมไปเที่ยวที่จุดชมวิวสะพานแดง ซึ่งเต็มไปด้วยฝูงนกนวลนาง(?) ถึงผมจะตื่นตาตื่นใจกับภาพฝูงนกปริมาณมหาศาล และวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยจับใจอยู่ตรงหน้า แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะนำหน้ากากอนามัยขึ้นมาใส่ เป็นสัญชาตญาณ ที่มีแค่คนที่ผ่านคอร์สเรียนลึกๆ เกี่ยวกับจุลชีววิทยามาแล้วเท่านั้น ที่จะเข้าใจ
นกมีบทบาทที่ซับซ้อนกว่าในฐานะแหล่งรังโรค (Reservoir Host) เชื้อก่อโรคที่มีนกเป็นพาหะมักมีความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการกับนก ทำให้เชื้อสามารถเพิ่มจำนวนและดำรงอยู่ภายในระบบร่างกายของนกได้โดยนกอาจแสดงอาการหรือไม่แสดงอาการเลยก็ได้ การแพร่เชื้อจากนกสู่คนมักเป็นไปในลักษณะของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (Zoonosis) ผ่านกลไกที่หลากหลาย เช่น การสูดดมละอองลอย (Aerosolization) ของมูลที่แห้งตัวลง การสัมผัสสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
นกถึงแม้จะไม่ได้เป็นพาหะของเชื้อก่อโรคในจำนวนที่มากเท่าแมลงสาป แต่เชื้อแต่ละตัวที่อยู่กับมัน ล้วนสร้างความหายนะให้มนุษย์ที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรคได้ทั้งสิ้น กรณีที่ชัดเจนที่สุดคือเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (Influenza A virus) ที่พบในนกน้ำตามธรรมชาติสามารถกลายพันธุ์และแพร่กระจายสู่สัตว์ปีกเลี้ยงและมนุษย์ได้ สายพันธุ์ที่มีความรุนแรงสูง (Highly Pathogenic Avian Influenza - HPAI) เช่น H5N1 และ H7N9 เป็นภัยคุกคามระดับโลกเนื่องจากมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก
นอกจากนี้ มูลนกพิราบและนกเขาเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อรา Cryptococcus neoformans และ Histoplasma capsulatum เมื่อมนุษย์สูดดมสปอร์ของเชื้อราเหล่านี้เข้าไป เชื้อจะเข้าสู่ปอดและอาจแพร่กระจายไปยังระบบประสาทส่วนกลาง ก่อให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Cryptococcal Meningitis) ความสำคัญของเชื้อกลุ่มนี้ในประเทศไทยมักพบในกลุ่มผู้ป่วย HIV/AIDS หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลสูงถึงร้อยละ 51 ถึง 64.3
ยังไม่นับรวม โรคไข้นกแก้ว (Psittacosis หรือ Ornithosis) ที่เกิดจากการสูดดมเชื้อ Chlamydia psittaci และเชื้อกลุ่ม Salmonella spp. ที่ใช้นกเป็นพาหะได้เช่นกัน
ในขณะเดียวกัน แมลงสาบเป็นแหล่งรวมของจุลชีพที่หลากหลายมากที่สุดชนิดหนึ่งในสิ่งแวดล้อมมนุษย์ ข้อมูลวิจัยระบุว่าแมลงสาบสามารถนำพาแบคทีเรียได้มากกว่า 33 ชนิด พยาธิในลำไส้ 6 ชนิด และเชื้อก่อโรคในมนุษย์อื่น ๆ อีกกว่า 7 ประเภท เชื้อส่วนใหญ่ที่พบในแมลงสาบเป็นแบคทีเรียกลุ่ม Enterobacteriaceae ซึ่งก่อให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารเป็นหลัก เช่น Salmonella spp., Escherichia coli, Shigella dysenteriae, และ Vibrio cholerae
นอกจากแบคทีเรียแล้ว แมลงสาบยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายของไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอุจจาระร่วง เช่น Rotavirus, Norovirus และไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) รวมถึงพยาธินานาชนิด เช่น Ascaris lumbricoides, Enterobius vermicularis และ Giardia lamblia ซึ่งมักปนเปื้อนมากับไข่พยาธิที่ติดมากับลำตัวแมลงสาบจากพื้นที่ขับถ่าย
หากวัดกันที่อุบัติการณ์รวม แมลงสาปนั้นเหนือกว่า เนื่องจากมนุษย์มีการสัมผัสกับอาหารและพื้นผิวที่ปนเปื้อนโดยแมลงสาบอยู่เป็นประจำ โรคที่เกิดจากอาหารปนเปื้อนทั่วโลกก่อให้เกิดการเจ็บป่วยกว่า 600 ล้านครั้ง และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 420,000 รายต่อปี
แมลงสาบมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวเชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน (Sewers) และวงจรอาหารของมนุษย์ นอกจากนี้ ผลกระทบในระยะยาวของแมลงสาบยังรวมถึงการเป็นปัจจัยกระตุ้นโรคหอบหืดในเด็ก ซึ่งเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและลดคุณภาพชีวิตในประชากรเขตเมืองอย่างมหาศาล
ในทางตรงกันข้าม เชื้อก่อโรคจากนกมีความรุนแรงในมิติของ "อัตราป่วยตายรายบุคคล" (Individual Case Fatality Rate) ที่น่ากลัวกว่าอย่างชัดเจน แม้ว่าจำนวนเคสของผู้ป่วยไข้หวัดนกหรือไข้นกแก้วจะน้อยกว่าอาการท้องร่วงจากแมลงสาบหลายพันเท่า แต่อัตราการเสียชีวิตของโรคเหล่านี้อยู่ในระดับที่สูงมาก โดยไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 มีอัตราตายเกินกึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อ และการติดเชื้อคริปโตคอกคัสในกระแสเลือด (Cryptococcemia) ในผู้ป่วยไทยมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมากแม้จะได้รับยาต้านเชื้อราสมัยใหม่
จากการศึกษาย้อนหลังในภาคใต้ของประเทศไทย พบว่าการติดเชื้อคริปโตคอกคัสในกลุ่มผู้ป่วย HIV/AIDS เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว ในขณะที่การศึกษาแบคทีเรียดื้อยาในแมลงสาบไทยชี้ให้เห็นว่า แมลงสาบเป็น "อ่างเก็บกักยีนดื้อยา" (AMR Gene Reservoir) ที่สามารถถ่ายทอดคุณสมบัติการดื้อยาไปยังแบคทีเรียก่อโรคชนิดอื่นผ่านกระบวนการ Horizontal Gene Transfer ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อพื้นฐานมีความซับซ้อนและต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่มีราคาแพงขึ้น
โดยสรุปตามความเห็นส่วนตัวของผม ก็คือร้ายกันคนละแบบครับ แล้วแต่บริบทใคร ดวงใคร จะเจอแบบนั้น แต่ที่แน่ๆก็คือ สุขอนามัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การค้นพบอุบัติการณ์ ตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และกำหนดแนวทางการรับมือที่เหมาะสม คือสิ่งที่สำคัญต่อการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในทุกพาหะ และแม้แต่ประชาชนทั่วไปเอง ก็ควรเล็งเห็นควาามสำคัญ ของเรื่องที่ดูเหมือนเล็กน้อยเหล่านี้
อ้างอิง
https://www.cdc.gov/psittacosis/about/index.html
https://www.verywellhealth.com/diseases-from-birds-and-droppings-8686449
Donkor ES. Cockroaches and Food-borne Pathogens. Environ Health Insights. 2020 Apr 30;14:1178630220913365. doi: 10.1177/1178630220913365. PMID: 32425541; PMCID: PMC7218330.
ข่าวรอบโลก
สุขภาพ
ความรู้
บันทึก
4
1
1
4
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย