24 ธ.ค. เวลา 03:17 • การเมือง

เนิน 350 ชัยชนะของทหารไทย

"ต้องจบที่รุ่นเราเพื่อไม่ให้คนไทยตามแนวชายแดนต้องอยู่อย่างหวาดระแวงหรือต้องอพยพหนีภัยสงครามอีกต่อไป''
พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก
"ตราบใดที่กัมพูชายังยิงอยู่ มีการยิงใส่เรา เราจะตอบโต้ตามความจำเป็นและได้สัดส่วน''
"บิ๊กเล็ก'' พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน เรื่องราวของเนิน 350 กลับมาอีกแล้ว ทำไมจึงต้องวนกลับมานำเสนออีกครั้ง ผู้เขียนต้องการเขียนบทความนี้เพื่อต่อสู้กับชาวเขมรที่ออกมาบอกว่าเป็นภาพ AI แต่จริงๆแล้วความจริงมันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทหารไทยพยายามบุกเข้าตีสุดกำลังจนทำให้เนินแห่งนี้กลับคืนแผ่นดินไทยอีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันครับ
เนิน 350 ในทางยุทธวิธีจะเรียกภูเขาแห่งนี้ว่า "จุดสูงข่ม" เช่นเดียวกับภูเขาลูกอื่น ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นชัยภูมิที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดเนื่องจากเป็นจุดที่สูงที่สุดในบริเวณนั้น โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 350 เมตร
ชัยภูมินี้เปรียบเสมือนหอคอยสูง ที่ช่วยให้ฝ่ายที่ครอบครองสามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้กว้างไกล ใช้เป็นฐานสังเกตการณ์ ควบคุมแนวรบ ชี้เป้า และสกัดกั้นการเคลื่อนพลของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเด็ดขาด หากทุกท่านยังจำกันได้เนินแห่งนี้ถูกฝ่ายกัมพูชายึดครองมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การปะทะในปี พ.ศ. 2554
ก่อนหน้านี้ กองทัพบกไทยและกองทัพอากาศไทยเคยพยายามโจมตีเพื่อยึดเนิน 350 คืนหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ แม้จะใช้การโจมตีทางอากาศอย่างหนัก โดยพี่เล็ก วาสนา นาน่วมกล่าวว่าในช่วงการปะทะรอบแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมพ.ศ.2568 เครื่องบิน F-16 ได้ทิ้งระเบิดลงไปถึง 49 ลูก แต่ก็ยังไม่สามารถยึดพื้นที่คืนได้
สาเหตุสำคัญที่ทำให้การทวงคืนเนิน 350 เป็นไปอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะการถูกเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทยหย่อนไข่เหล็กได้ยาก คือการที่ฝ่ายกัมพูชาได้เข้ายึดครองพื้นที่นี้ไว้ก่อนหน้านานแล้ว และได้สร้างฐานที่มั่นให้มีความแข็งแรงอย่างมาก จากหลักฐานที่ปรากฏ พบว่าฐานที่มั่นของกัมพูชาบนเนิน 350 ไม่ใช่เพียงบังเกอร์ขุดดินธรรมดา แต่เป็นบังเกอร์คอนกรีตเสริมเหล็กที่มั่นคงแข็งแรงสูง
โครงสร้างป้องกันประกอบด้วย บังเกอร์และอุโมงค์ มีข้อมูลจากสำนักข่าว PPTV รายงานว่ามีการขุดคูเรตเซาะเข้าไปในเนิน และเสริมด้วยกำแพงคอนกรีตและกระสอบทราย มีการใช้รถปูนขับขึ้นไปเทคอนกรีตทำหลังคาคูและป้อมปืนอย่างหนาแน่น
สำหรับยุทธวิธีของทหารกัมพูชานั้นจะใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศตามธรรมชาติ ผสมผสานกับการนำหญ้า ใบไม้ และพืชพรรณที่อยู่ตามป่าบริเวณนั้นมาสุมทับอย่างหนาแน่น ทำให้ยากต่อการตรวจการณ์จากระยะไกลทางอากาศ เช่น จาก ดาวเทียม หรือ โดรน ของฝ่ายเรา
ยุทธวิธีตั้งรับฝ่ายกัมพูชาจะใช้ยุทธวิธีแบบที่เขมรแดงและเวียดกงเคยทำมาแล้วเห็นผลจริงเมื่อยุคสงครามเย็น เพื่อตั้งรับ ซุ่มโจมตี รบประชิด และหน่วงเวลาการรุกของทหารบกและทหารอากาศฝ่ายไทย
ในขณะที่ฐานที่มั่นทหารกัมพูชาบนเนิน 350 มีความแข็งแกร่ง จึงอาจทำให้การใช้กำลังทางอากาศหย่อนไข่เหล็กครั้งใหญ่ด้วยเครื่องบินขับไล่ F-16 หรือ Gripen เพื่อบึ้มทำลายบังเกอร์ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ง่ายนัก เนื่องจากเนิน 350 อยู่ไม่ไกลจากปราสาทตาควาย และหากฝ่ายไทยต้องถอนกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงลูกหลงจากระเบิดของฝ่ายตนเองที่อาจเป็นอันตรายได้เมื่อตกถึงพื้น
ในขณะเดียวกันทหารกัมพูชาก็จะเห็นระเบิดที่หลุดจากใต้ปีกพร้อมกับเสียง F-16 ที่มาจากความสูงเกินหมื่นฟุตโดยไม่เห็นตัวเครื่องเป็นสัญญาณว่า "เมื่อใดที่ยินเสียงเมื่อนั้นคือตายแน่ๆ'' ถ้าเสียง F-16 มาเยือนแล้วก็จะถอนตัวเข้าไปหลบในบังเกอร์ที่เสริมความแข็งแรงแล้วทันที นอกจากนี้ความซับซ้อนของภูมิประเทศยังอาจทำให้การทิ้งระเบิดคลาดเคลื่อนและไม่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อฝ่ายเราในทางยุทธวิธี
ปัญหาที่เกรงว่าการใช้กองทัพอากาศเข้าช่วยรบเพื่อยึดคืนทำให้เกิดคำปรามาสจากทางกัมพูชาว่า "ประเทศไทยหากไม่มีเครื่องบิน F-16 หรือ Gripen ก็สู้เราไม่ได้" คำสบประมาทดังกล่าวกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้กองทัพบกไทยตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์จากการพึ่งพากำลังทางอากาศเพียงอย่างเดียว มาเป็นการรบแบบทหารบกขนานแท้เริ่มก่อน
ฉากการบุกทำลายฐานที่มั่นบนเนิน 350 ไม่ต่างอะไรกับหนังสงครามที่ทุกท่านเคยรับชม ในครั้งนี้ทหารบกเปิดฉากใช้ยุทธวิธีปืนใหญ่ยิงนำ ทหารราบเดินตาม โดยกองทัพไทยได้ระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่ฐานที่มั่นของกัมพูชาบนเนินอย่างหนักหน่วงและรัวต่อเนื่องจนทหารกัมพูชาโงหัวไม่ขึ้น ทำให้ทหารกัมพูชาในพื้นที่ที่ออกมาบ่นว่าทหารไทยยิงถล่มอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดหย่อน
"ตู้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!" ในขณะที่ปืนใหญ่ทำหน้าที่บดขยี้ฐานที่มั่น ทหารราบไทยได้ใช้หัวจิตหัวใจ บุกตะลุยเดินเท้าเข้าตีเพื่อยึดเนินคืน โดยมีเครื่องบิน F-16 สนับสนุนในลักษณะการตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงที่แนวหลัง เช่น การทำลายสะพานโอจีกและถนนที่จะตรงมาที่เนิน 350 เพื่อไม่ให้ฝ่ายกัมพูชาสามารถส่งกำลังเสริมขึ้นมาช่วยบนเนินได้
"ฟ้าววววววววว!" "วี้ดดดด! บู้มมมมมมมมมม!" เสียงไข่เหล็กจาก F-16 พุ่งชนถนนที่ใช้ส่งกำลังบำรุงสู่เนิน 350
ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 350 กินเวลากว่า 5 วัน หรือ 120 ชั่วโมงของการสู้รบแบบไม่หยุดพัก ทหารราบแห่งกองทัพบกไทยรุกคืบภาคพื้นดินฝ่าป่ามรณะขึ้นเนินขณะที่บนฟากฟ้า เสียงสวรรค์มาเยือนทหารไทยแล้วในขณะเดียวกันมันคือเสียงที่ตามหลอกหลอนทหารกัมพูชาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากเสร็จคิวทหารบกต่อไปถึงตาของทัพฟ้าออกโรง กองทัพอากาศไทยส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 และเครื่องบินโจมตีขนาดเบา AT-6TH Wolverine เข้าทำลายฐานที่มั่นและคลังอาวุธบนเนิน 350 อย่างแม่นยำ จนในที่สุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ทหารไทยสามารถสถาปนาพื้นที่ได้สำเร็จ 100% และนำร่างของสองทหารกล้าลงมาจากเนินเขาได้อย่างสมเกียรติ
ท่ามกลางการปะทะที่ดุเดือดนานนับสิบวัน เสียงปืนใหญ่และจรวด BM-21 ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วป่า หัวใจคนไทยต้องแตกสลายเมื่อได้รับข่าวการพลีชีพของทหารกล้าผู้เสียสละทั้ง 2 นาย คือ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ร่างของวีรบุรุษทั้งสองเดิมทีเคยติดค้างอยู่ในสมรภูมิเนิน 350 ที่มีการยิงต่อต้านอย่างหนาแน่น บัดนี้ร่างของวีรบุรุษทหารกล้าทั้ง 2 นายได้นำกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อย
เสียงยิงอาวุธหนักและอาวุธเบาบนเนินมรณะเงียบลง ธงไตรรงค์โบกสะบัดอีกครั้งบนยอดเนิน 350 ท่ามกลางซากปรักหักพังของสงครามและต้นไม้ที่เหี้ยนเตียนจากไฟสงคราม คือบทพิสูจน์ความกล้าหาญที่ไม่มีวันจางหาย การรบในสมรภูมินี้ทำให้กองทัพมั่นใจว่าว่า แม้เพียงตารางเซนติเมตรเดียว ทหารไทยก็จะไม่ยอมให้ใครมารุกราน ดังท่อนหนึ่งจากบทเพลงสยามมานุสติที่ก้องกังวานในใจนักรบทุกนายว่า "ใครรานใครรุกด้าว แดนไทย ไทยรบจนสุดใจ ขาดดิ้น"
การปฏิบัติการทางทหารที่เนิน 350 พิสูจน์ให้เห็นว่าชัยภูมิที่ถูกยึดได้ยาก ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินไทย ส่วนเนิน 350 จะอยู่ในฝั่งสยามไปได้อีกกี่ปีนั้นคงไม่มีผู้ใดตอบได้ ตราบใดที่ทหารกัมพูชายังไม่หยุดโจมตี ฝ่ายเรายังไม่ไว้ใจเขมร เพราะในขณะนี้เสียงปืนใหญ่แม้จะน้อยลง แต่ก็ยังยิงเพื่อเป็นการเตือนว่า "ถ้าเอ็งยึดได้ ข้าก็ยึดคืนได้" เพราะฉะนั้นการปกป้องเนิน 350 ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกองทัพไทยในขณะนี้ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
Thairath Online
PPTV
Military Weapons อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร
Kittidej Sanguantongkham
วาสนา นาน่วม
ช่อง One31
เรียบเรียงโดย : จ่าหวาน เกรียงไกร
ชื่อกลอน : วีรบุรุษเนิน 350
ประพันธ์โดย : จ่าหวาน เกรียงไกร
ที่มาของกลอนนี้เกิดจากผู้เขียนเห็นข่าวในโทรทัศน์นับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายที่ธงไตรรงค์โบกสะบัดบนเนินแห่งนี้ จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการแต่งกลอนเพื่อมอบให้ทหารทุกท่านที่เข้ายึดเนิน 350 ได้เป็นผลสำเร็จ
เนินสุดเดือด สร้างยอดคน ผู้กล้าแกร่ง
ด้วยแรงกาย จิตใจ อันหาญพุ่ง
ทหารกล้า เข้าต่อสู้ หมายผดุง
จิตมุ่งมั่น ฝ่าดง กระสุนปืน
ที่แนวหน้า เราเกิดมา ยอมรักษา
เพื่อประชา แนวหลัง อยู่สุขี
จากบ้านมา สละชีพ สิ้นชีวี
แผ่นดินนี้ ขอเลือกทำ จนสุดใจ
ณ ที่เนิน 350 ไทยยึดได้
ประจัญไป รุกเข้า อย่างอาจหาญ
เพื่อรักษา ดินแดนไทย ไปอีกนาน
มิให้มาร กัมพูชา มาย่ำยี
เรายึดแล้ว พื้นที่เนิน จุดสูงข่ม
ทุกกรมกรอง ร่วมรุกรบ ป้องสยาม
ผลักไสไล่ กัมพูชา ผู้คุกคาม
ความเกรงขาม ทหารไทย ไม่รองใคร
โฆษณา