ทำไมต้องใช้ F-16 รบกับเขมร?
"ไทยนี้สงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด
สู้สุดความสามารถ ขับไล่อริราชศัตรูไป
นี้คือแผ่นดินไทย พ่อกูอยู่
ปู่กูตาย ที่ตรงนี้
ยืนหยัดป้องปฐพีเพื่อลูกหลาน
เลือดแลกเลือด ใจแลกใจ มาเนิ่นนาน
ขอสาบาน.. จะปกป้องแผ่นดินไทย"
เนื้อเพลงแผ่นดินไทย
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้ท่านผู้อ่านทุกท่านคงจะได้ยินชื่อของเครื่องบินขับไล่
F-16 กันมาพอสมควร เพราะในสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา เครื่องบินรบแบบนี้มีบทบาทในการสนับสนุนกำลังทหารภาคพื้นและทำลายการส่งกำลังบำรุงฝ่ายตรงข้าม แน่นนอนว่าเรื่องนี้ทุกท่านทราบกันดี แต่อาจมีบางเรื่องที่ท่านสงสัยเกี่ยวกับ F-16 จึงขอนำเสนอให้ทุกท่านได้หายข้องใจ ณ ที่นี้
ในการเผชิญหน้าตามแนวชายแดนช่วงสงครามไทย-กัมพูชานับตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การปรากฏตัวของเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทยในทุกสมรภูมิกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะบทบาทในการโจมตีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่อยู่ลึกเข้าไปในแนวลึกของฝ่ายตรงข้าม
ท่านผู้อ่านบางท่านที่ไม่ได้ติดตามเรื่องการทหารมาตั้งแต่ต้นว่าทำไมเราต้องมีการบินเข้าไปทำลายการส่งกำลังบำรุงถึงถิ่นเขมร ไม่ยิงตอบโต้เมื่อมาประชิดชายแดนไทย หัวใจสำคัญของการรบสมัยใหม่ไม่ใช่การเอาทหารราบไปปะทะกันที่แนวหน้าหรือการใช้ F-16 หย่อนไข่เหล็กตั้งแต่รถยิงขีปนาวุธ BM-21 มาประชิดเพียงอย่างเดียว ในการปะทะรอบนี้เป็นการบินแล้วยิงอาวุธไปโจมตีที่แนวลึกของเขมร
เพื่อตัดการส่งกำลังบำรุง เครื่องบิน F-16 ถูกนำมาใช้โจมตีเป้าหมายสำคัญ เช่น คลังน้ำมัน ค่ายทหาร และบ่อนกาสิโน โดยเฉพาะกาสิโนซึ่งถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร สถานที่เหล่านี้ไม่ใช่เพียงอาคารพลเรือน แต่เป็นจุดเก็บอาวุธหนัก จุดเติมเชื้อเพลิงให้รถยิงจรวด BM-21 และเป็นฐานทัพอากาศของโดรนพลีชีพที่ใช้โจมตีทหารไทยรวมถึงโจมตีบ้านเรือนประชาชนในไทย การใช้ F-16 โจมตีเป้าหมายเหล่านี้จึงเป็นการทำให้ฝ่ายตรงข้ามขาดแคลนเสบียงและกระสุนจนสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามในที่สุด
เพื่อการนี้กองทัพอากาศไทยจำเป็นต้องใช้จุดแข็งที่ได้เปรียบคือ การครองอากาศ (Air Superiority) เพื่อควบคุมสถานการณ์เครื่องบิน F-16 มีศักยภาพที่เหนือกว่ายุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน หากไม่ใช้เครื่องมือที่มีขีดความสามารถสูงกว่าก็ยากที่จะดำเนินยุทธวิธีให้เหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามได้หรือพูดง่ายคืออาจปิดสงครามได้ยาก นอกจากนี้เครื่องบินขับไล่ F-16 ยังทำงานร่วมกับเครื่องบินเเจ้งเตือนภัยทางอากาศล่วงหน้า SAAB 340AEW ที่คอยชี้เป้าหมายการเคลื่อนไหวของรถยิงจรวด BM-21 หรือหน่วยรบฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแม่นยำ
ในเมื่อกองทัพอากาศไทยยุทธวิธีการครองอากาศ (Air Superiority) โดยเครื่องบิน F-16 เพื่อควบคุมสถานการณ์และจำกัดขีดความสามารถของทหารกัมพูชา จึงทำให้ฝ่ายเรามีความได้เปรียบ เพราะ F-16 ไม่ได้บินต่ำๆแบบที่ I.O. เขมรจงใจปล่อยคลิปตอนบินเหนือปอยเปต
ยุทธวิธีของเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ใช้คือการปฏิบัติการที่เพดานบินสูงมาก อาจสูงกว่า 10 กิโลเมตร หรือ 40,000 ฟุต ซึ่งสูงเกินกว่าที่สายตามนุษย์บนพื้นดินจะมองเห็นได้ การบินที่ระดับความสูงนี้ทำให้ F-16 ปลอดภัยจากอาวุธต่อต้านอากาศยานของกัมพูชา เช่น ขีปนาวุธประทับบ่า QW-3 ที่มีระยะยิงหวังผลเพียง 5-6 กิโลเมตร รวมถึงปลอดภัยจากปืนต่อต้านอากาศยานและจรวด RPG ที่ยิงไม่ถึงระดับความสูงดังกล่าวของเครื่องบินขับไล่ F-16 กองทัพอากาศไทย
การโจมตีที่แม่นยำเช่นนี้ส่งผลถึงพลเรือนหรือไม่ เรื่องนี้พอนักข่าวจ่อไมค์สัมภาษณ์ไปที่ท่านโฆษกกองทัพอากาศ ท่านจึงชี้แจงว่าการใช้เครื่องบิน F-16 โจมตีคลังอาวุธถือเป็นการ "โจมตีเพื่อมนุษยธรรม" เนื่องจากเป็นการทำลายอาวุธที่จะนำมาใช้สังหารทหารและพลเรือนไทย
โดยมุ่งเน้นเฉพาะเป้าหมายทางทหารตามสัดส่วนและแยกแยะออกจากพื้นที่พลเรือนอย่างชัดเจน การทำลายแหล่งกระสุนและเชื้อเพลิงจากแนวหลังจะทำให้ทหารที่แนวหน้าของฝ่ายตรงข้ามสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามเพราะขาดแคลนเสบียงและกระสุนในที่สุด
เพราะฉะนั้นการใช้ F-16 จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการหยุดยั้งภัยคุกคามจากต้นทาง เพื่อลดการสูญเสียของกำลังพลแนวหน้าและปกป้องชีวิตประชาชนไทย โดยใช้ความเหนือกว่าทางเทคโนโลยีเข้าข่มขวัญและทำลายจุดยุทธศาสตร์ที่อาวุธชนิดอื่นเข้าถึงได้ยาก
ในความคิดส่วนตัวผู้เขียนก็มองว่าการส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บินเข้าไปโจมตีทางลึกในประเทศกัมพูชาเป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นสิ่งที่กองทัพอากาศไทยดำเนินการถูกต้องแล้ว ท่านโฆษกกองทัพอากาศแถลงทุกวันให้ชาวโลกและชาวไทยรับรู้ว่าเราไม่ได้ไปทำร้ายพลเรือนให้ถึงขั้นเสียชีวิต เราต้องการทำลายเฉพาะฐานทัพและกำลังทางทหารของข้าศึก นี่คือสิ่งนักบินไทยที่ทำได้ หากพุ่งแต่โจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนทั่วโลกคงจะไม่ยอมรับเหมือนกัมพูชา
ตอนที่เขียนบทความเรื่องเนิน 350 ชัยชนะของทหารไทยที่บอกว่า เครื่องบิน F-16 สนับสนุนการหย่อนไข่เหล็กตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงที่แนวหลัง เช่น การทำลายสะพานโอจีกและถนนที่จะตรงมาที่เนิน 350 กองทัพอากาศไทยเล็งไปที่การตัดการส่งบำรุงทำให้ทหารกัมพูชาเริ่มเข้าขั้นอดยากจนไม่สามารถต้านทานทหารไทยที่รุกเข้ามายึดเนินคืนได้ ภารกิจนี้อาจมีโอกาสเกิดขึ้นกับเนิน 745 ได้หากกองทัพไทยเบนเข็มที่จะไปยึดช่องบกและเนินต่างๆในบริเวณนั้นคืนมา
แต่ปัญหาก็คือ F-16 มันจะมีโอกาสพลาดเป้าโดนพลเรือนหรือไม่เพราะกองทัพกัมพูชามีความเจ้าเล่ห์ ชอบใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ ถ้าเกิด F-16 หย่อนไข่เหล็กลงไปยังพื้นที่ตรงนั้นที่ระบุแล้วว่ามี BM-21 หรือแม้แต่รถถังแล้วประชาชนกัมพูชายังอยู่ในพื้นที่ได้รับผลประทบ เหตุการณ์นี้อาจกลายเป็นว่ากองทัพอากาศไทยไปเป็นผู้ร้ายเสียเองหากกัมพูชานำไปฟ้องศาลโลกหรือ UN
ในขณะเดียวกันที่เขาพระวิหารก็เดือดไม่ใช่เล่น ทหารบกไทยกำลังปะทะกับทหารกัมพูชาเพื่อทวงคืนดินแดนที่เราเคยเสียไปกลับมาอีกครั้ง ก็มี Question Mark ในหัวเหมือนกับท่านผู้อ่านว่าควรใช้ F-16 ไหมหากยืดเยื้อ
เท่าที่ติดตามข่าวจากสื่อต่างๆจะเห็นว่าพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารจะกว้างกว่าปราสาทตาควาย ถ้าหย่อนไข่เหล็กลงไปถล่มเป้าหมายที่ใกล้ๆปราสาทพอได้ เเต่ถ้าใช้ปราสาทเป็นฐานทัพเช่นนี้ก็คงจะเป็นงานยาก ทำไมจึงเป็นงานยาก เพราะต่อให้ใช้ F-16 โจมตีพื้นที่รอบปราสาทกัมพูชาก็มีสิทธิ์ฟ้องได้ว่าเรากำลังทำลายมรดกโลก
ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้เขียนไม่ขอฟันธงว่าศึกเขาพระวิหารที่กำลังดุเดือดในขณะนี้จะมีโอกาสได้เห็น F-16 บุกถล่มเป้าหมายที่เป็นทหารกัมพูชาเหมือนที่อื่นหรือไม่ เพราะทุกการตัดสินใจผู้เขียนมองว่ากองทัพอากาศไทยมีสิทธิ์ที่จะใช้กำลังได้หากกองทัพบกไทยร้องขอ ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าหากปราสาทเขาพระวิหารพังจากการสู้รบยังสามารถบูรณะใหม่ได้เหมือนปราสาทตาควายที่กรมศิลปากรออกมาแถลงไปก่อนหน้านี้ เพียงแต่ว่าต้องรอสงครามให้จบเท่านั้น
การโจมตีของ F-16 ต่อเป้าหมายทำให้เห็นว่า เรากำลังโจมตีริดรอนกำลังข้าศึก ไม่ใช่ทำร้ายพลเรือนตามที่อีกฝ่ายนำไปสร้าง Fake News จนถึงขณะนี้ F-16 ก็ยังไม่หยุดบิน เพราะทุกวันที่บินขึ้นไปคือการจัดการข้าศึกให้หมดสภาพก่อนที่กลับจะเป็นอันตรายต่อแผ่นดินไทยในครั้งต่อไป สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
Sniper News
ช่อง 8
PPTVHD36
Wim Calleart
OZMO PHOTOGRAPHER
Kittidej Sanguantongkham
กองทัพอากาศไทย
เรียบเรียงโดย : แดง ภูมะเขือ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
