26 ธ.ค. เวลา 04:53 • ความคิดเห็น
1. โปรดสังเกตว่า รัฐประหารแต่ละครั้ง "จะต้องมีเหตุปัจจัย" (เราละไว้ตรงนี้ เพื่อพยายามจะมองจากสายตาที่ไม่อคติ) จากนั้น "จะต้องมีประชาชนออกมาเดินบนท้องถนน ออกมารวมตัวกัน" (เราใช้คำว่าประชาชน เพื่อพยายามจะไม่ใส่คำที่แสดงถึงเฉพาะกลุ่ม อย่างเช่นคำว่า นักศึกษา หรือปัญญาชน เพื่อพยายามจะมองจากสายตาที่ไม่อคติเช่นเดิม)
2
2. ภาพที่เห็น มันแลดู "คล้ายสงครามขนาดย่อม มันยืดเยื้อ ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างใดและเมื่อไหร่" แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น "เริ่มก่อตัว สร้างความวุ่นวาย" และก่อผลกระทบทางศก. ทั้งความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุน และที่สำคัญคนอื่นๆ ที่ไม่สนใจจะเข้าร่วม แต่จะต้องใช้เส้นทางสาธารณะออกไปทำมาหากิน ค้าขาย ขนส่ง ไปทำงาน เจ้านายโทรจิก ลูกต้องโทรตาม "ทุกคนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ท่วมท้น โกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาท หวังจะเอาชนะคะคานกัน"แน่นอน มันต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจ ไม่ใช่ทหาร ที่จะต้อง "ควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดให้อยู่"
2
3. ภาพต่อมาคือสถานการณ์ถูกยกระดับ เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จนกระทั่ง "เพียงตำรวจ ก็ไม่สามารถจะควบคุมสถานการณ์ได้" ถึงตรงนี้ย่อมเกิดช่องว่าง ให้ทหารต้องเข้ามา ด้วยเหตุที่มีถึง 4 เหล่าทัพ มีพลทหาร มีอาวุธ ที่ดูน่าเกรงขาม แต่พวกเขาจะต้องพร้อมใจกัน และเห็นตรงกันว่า "จะต้องเข้าไปจัดการในสถานการณ์นี้" และที่สำคัญ "แผนการหลังจากนี้ จะทำอย่างไรต่อไป?"
1
ทั้งหมดที่เรากล่าวมา หลายคนอาจบอกว่า
อ่านแล้วรู้สึกเบาหวิวมาก
แต่เราเพียงเพื่อตอบคำถาม
ให้ตรงและตีไปที่ประเด็นคำถามว่า
รัฐประหารเกิดเพราะอะไร?
ทำไมบทบาทการควบคุมจึงเป็นของหทาร
ทหารเข้ามาจัดการสถานการณ์เพราะอะไร
.......................
เราเว้นที่ว่างไว้หลายจุด เพื่อให้คนอ่าน
ได้เรียนรู้ว่า "ข่องโหว่ในทุกสถานการณ์"
ย่อมมีหลายคนหลายฝ่ายเข้าไปเกี่ยวข้อง
ไม่ว่าใคร หรือฝ่ายไหน เราก็ไว้ใจใครไม่ได้เลย
ไม่มีใครไว้ใจใครได้ทั้งสิ้น ถ้ามึงเอา กูก็จะต้องเอา
ถ้ามึงหักหลัง กูก็จะต้องเข่นฆ่า
2
เราในฐานะประชาชน คือเหยื่อที่ต้องรับสาร เสพ
และทั้งใช้สติและปัญญาในการมองดู
อย่างผู้ดู ไม่ใช่ผู้ลงไปเล่นด้วย
จะต้องไม่เอาตัวเองกระโจนลงไปเพื่อฝักใฝ่
หรือยึดมันเอาไว้ จนตัวเอง
ต้องตายเหมือนหมาบนท้องถนน
หรือบางคนก็ต้องหนีไปอยู่ตามป่าเขา
คำถามตัวโตๆ คือ
ถ้าชีวิตต้องเป็นอย่างนั้น
เรายังจะเรียกตัวเองว่า
เป็นคนมีสติปัญญาและฉลาดสุดๆ
อยู่อีกไหม?
5
โฆษณา