เมื่อวาน เวลา 03:23 • ปรัชญา
..มะโนทะศึกษา .2568..กายส่วนกาย จิตส่วนจิต แยกจากกัน เรื่องราวพระโกณทัญญา เห็นเจ้าชายสิทธัตถะ .เลิกบำเพ็ญเพียร มาฉันอาหาร .ก็ตำหนิติเตียนว่า เจ้าชายสิทธัตถะผิดสัจจะ ก็ถอยหนีห่างออกไป .แต่เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะบรรลุถึงธรรม ก็เสด็จโปรดพระโกณทัญญะเป็นองค์แรก .พระโกณทัญญะท่านยึดเรื่องราวกายฤาษีอยู่ .ยังเข้าไปไม่ถึงคำว่า ..จิตที่ยึดถือกาย (อันนี้เราไม่ได้คิดเอง แต่มีหลวงปู่พระโกณทัญญะ.ท่านเล่าให้ฟัง)
เป็นเวลาหลายปีที่ได้ฝึกหัด เรื่องการ นำกาย ที่เรียกว่า กายบิดามารดา ธาตุทั้งสองของคุณบิดามารดามากราบพระสวดมนต์ ภาวนา สร้างบุญกุศล กระจายบุญกุศล ที่ต้องอาศัยธาตนะโม .กระจายบุญกุศล เรื่องการบันทึกของธาตุทั้งสี่ ที่ว่า ดีก็บันทึก ชั่วก็บันทึก เราก็ฝึกหัด บันทึก มีคำว่า ดินฟ้าอากาศเป็นสักขีพยาน
เราก็ฟังเรื่องราว พระแม่ทั้งสี่ มา ..มีพระท่านบอกว่า เรื่องราวของพระแม่ทั้งสี่ เป็นเรื่องราวของแสงรัตนะหนึ่ง เราก็ฟังไว้ แต่เข้าไม่ถึงในเรื่องราวเหล่านี้ ก็พอดี หลังออกพรรษา เราก็มานั่งหน้าพระ มากราบพระสวดมนต์ ก็มีภาพผู้หญิงสี่คน มาปรากฏข้างหน้า ..ท่านมายืนข้างหน้า .ในใจก็นึกถึงเป็น เรื่องราว ของพระแม่พระธรณี พระแม่พระคงคา พระแม่พระเพลิง พระแม่พระพาย .เหมือนมาปรากฏ ..แต่เราก็ไม่ได้เชื่อตัวเอง เราก็ไปถามพระที่นับถือ ท่านก็บอกว่า เป็นเรื่องราว ที่สมมุติให้ดู วในภาพที่ปรากฏขึ้น .
คราวนี้ ก็มีเรื่องราวที่ว่า กายเจ็บกายป่วย ก็เป็นมาได้หลายปี เราก็อาศัยการทำบุญทำทาน ปฏิบัติธรรม .ก็ได้เรื่ยนรู้จักเรื่องราวของกรรม ที่เก็บสะสมไว้กับธาตุทั้งสี่ เรื่องราวเจ้ากรรมนายเวร ที่เค้าตกนรก เค้าก็สามารถที่ทักท้วง ทวงกรรมที่เราเคยคล้องเวรกรรมกันมา ที่เมื่อก่อนเราก็คิดไม่ถึงว่า จะเป็นไปได้ ..พอเรืยนรู้ ..เอ้า..มันเป็นไปได้ . นั่นก็เป็นเรื่องราวที่เรียกว่า มะโนทะศึกษา ที่พระท่านเคยบอกว่า มาเรียนรู้ เรียนแล้วจะสนุก
มี..หลวงพระโมคคัลลา ท่านมาเล่าเรื่อง ให้ฟัง ในเรื่องราวการเกิดแก่เจ็บตาย ทีมันมีแต่ทุกข์ บางครั้งเกิดเป็นตัวหนอน ก็เลื่อนมาเป็นสัตว์ใหญ่ เลื่อนมาเป็นคน เลื่อนไปเป็นเทพอินทร์พรหม แล้วก็ไปเป็นตัวหนอน วนไปวนมานับโกฎ นับกัปป เป็นอสงไขย. ในการเกิด..ก็สะสมกรรมเก็บไว้ ที่ธาตุทั้งสี่
..พอมาชาติสุดท้าย แม้ว่าจิตของท่านจะบรรลุสำเร็จพระอรหันต์ ไปนั่งเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า .กรรมที่เกิดขึ้นที่กาย .ที่เคยทำร้ายพ่อแม่แสนสาหัส ก็ย้อนกลับมาทวง ..ท่านก็บอกว่า .ที่เค้าเรียกว่า ตายโหงละกัน ..เป็นการชดใช้ ท่านก็เล่าเรื่องกายส่วนกาย จิตส่วนจิต ให้ฟัง
แล้วท่านก็บอกว่า อย่าไปท้อถอย ให้ไปฝึกหัดสังเกตดู เมื่อนำกายที่เจ็บป่วยมาประพฤติ จิตภาวนาพุทโธ ..จิตอยู่กับพระ ให้ทบทวนสังเกตว่า เมื่อจิตอยู่กับพระ .ทุกขเวทนาที่เจ็บป่วยนั้นเป็นอย่างไร .บางทีมันก็ไม่เจ็บ
..แล้วพอขยับเขยื้อนกายออกจากกิริยาของพระเดินจงกรม นั่งสมาธิ ..ร่างกายมีอะไรเกิดขึ้น เมื่อจิตไม่ภาวนาพุทโธ ท่านก็บอกว่า ให้แยกแยะ กายส่วนกาย จิตส่วนจิต ให้ฝึกหัด ที่ว่า กายนั้นมีธาตุทั้งสองแม่ทั้งสี่ นำมา.เหมือนไปเขื่อมต่อ ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฝากไว้กับดินฟ้าอากาศ แล้วเราก็จะได้เรียนรู้ธรรมมากขึ้น ที่ว่า เป็นไปได้อย่างไร ธรรมหนุนนำช่วยเหลือ ให้ยุติการเกิดแก่เจ็บตาย ไม่ต้องมาเกิดดีสุด
มีพระมาจากใต้พระเกศจุฬามณี เล่าว่า พออายุห้าขวบ ฉันก็มองเห็นว่า เห็นเรื่องราว พอหนุ่มสาว ก็อยากมีครอบครัว เลี้ยงลูกหลาน สามีภรรยา .แล้วก็แก่เฒ่าชราตาย ฉันก็ชอบไปนั่งป่าช้า คนเดียว ไปดูว่ามีอะไร ฉันก็ทำจิตทำใจ ตามพระธุดงค์ ปฏิบัติธรรมไปจนบรรลุพระอรหันต์
พอมาดูเรื่องราวของจิตที่สะสมบุญบารมีมามาก ผู้ที่สะสมมามาก อายุเจ็ดขวบก็บรรลุถึงธรรม .เรื่องนี้ พระอานนท์ท่านเล่าว่า จิตของพระราหุล นั้นมีแสงสว่างมาก พอถึงเวลา ปฏิบัติธรรม.ท่านก็สำเร็จพระอรหันตตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ไม่ต้องใช้กาย .มาประพฤติปฏิบัติธรรมยากลำบาก กว่าจะบรรลุถึงธรรม
.ปีนี้ก็ได้เรียนรู้จักกรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ เรื่องราวการสร้างบุญ ให้เกิดมีการอโหสิกรรมกันเกิดขึ้น .ส่งบุญกุศลหนุนนำให้เจ้ากรรมนายเวรไปเกิดในสถานที่ดีๆ ได้เรียนรู้จักกรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ .ที่บันทึกเรื่องราวของจิตเรา ที่เคยเกิดมา สร้างกรรมเองด้วยกายวาจาใจ ไม่ได้สูญกายไปไหน ..ถึงเวลากรรมนั้นก็ต้องเกิดขึ้น .ต้องชดใช้.
ปี 2568 เรื่องราวเจ้ากรรมนายเวรที่เราเคยทำเค้าเจ็บตาย ก็ไหลมา ให้ได้เรียนรู้ มันเกิดขึ้นที่กาย .เหมือนที่เราเคยทำเค้าไว้ . ที่ว่าตาบันทึกภาพหูบันทึกเสียง . บันทึกลงไปที่ธาตุทั้งสี่ เป็นสักขีพยาน .
1
โฆษณา