เมื่อวาน เวลา 13:03 • ปรัชญา
เป็นความน่าฉงนและ
น่าสนใจที่ดาราศาสตร์
สมัยใหม่ Multiverse
“แสนโกฏิจักรวาล”
เชื่อมโยงกับจักรวาลวิทยา
ในพุทธศาสนาได้เยี่ยงไร?
1
การบรรจบกันของ "โลก"
และ "มิติ" พหุจักรวาล" (Multiverse)วิทยาศาสตร์
ฟิสิกส์ มักพูดถึงจักรวาล
คู่ขนานรึมิติอื่นอาจมีอยู่จริง
1
ในทางพุทธศาสนา
พระไตรปิฎกมีการระบุ
ชัดเจนถึง "อนันตจักรวาล"
หรือระบบโลกที่มีจำนวน
มหาศาล (แสนโกฏิจักรวาล)
1
แต่ละจักรวาลมีโครงสร้าง
คล้ายกันมีสวรรค์นรกและ
โลกมนุษย์
1
ในมุมมองพุทธศาสนา
การที่โลกนี้สลายไปจึง
ไม่ใช่จุดจบของจิตวิญญาณ
เพราะยังมี "ที่รับรอง" อื่นๆ
ในระบบจักรวาลอื่นอีกมาก
1
กฎแห่งกรรมกับการโยก
ย้ายพลังงาน"จิต" จะคือ
พลังงานที่ไม่สูญหายตราบ
ที่ยังมีกิเลสหรือ "กรรม"
ผูกพันอยู่
เมื่อโลกทางกายภาพ
แตกสลายพลังงานนี้ย่อม
ต้องมีที่อยู่ใหม่ตามแรง
เหวี่ยงของกรรม
1
เปรียบเสมือนการย้าย
บ้านเมื่อบ้านหลังเก่าพังลง
ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ
อนุรักษ์พลังงานในทางวิทยาศาสตร์
เพียงแต่เปลี่ยนจากระดับ
อะตอมมาเป็นระดับ "นามธรรม" หรือจิตวิญญาณความไม่เที่ยงของสสาร (Entropy)
ทั้งวิทย์และพุทธศาสนา
ทุกกอย่างมีจุดจบที่อนิจจัง
กาแล็กซี่ทางช้างเผือก
แม้แต่ดวงอาทิตย์ก็มี
อายุขัย
เมื่อถึงเวลาที่โลกมนุษย์
ไม่สามารถรองรับชีวิตได้
จิตที่ยังต้องเวียนว่ายตาย
เกิดจึงต้องอาศัย "ระบบนิเวศ"
อื่นในจักรวาลที่ยังคงอยู่
ซึ่งสะท้อนถึงว่าจักรวาล
มีกลไกเกิดดับที่เหลื่อม
เวลากันอยู่ตลอดเวลา
เราไม่ได้โดดเดี่ยวดอก
ชีวิตไม่ได้สิ้นสุดแค่ที่โลก
ใบนี้ความตายของดวงดาว
เป็นเพียงการเปลี่ยนผ่าน
1
ของสภาวะจิตไปยังมิติ
หรือโลกใบอื่นที่มีแรง
สั่นสะเทือนกรรมที่ตรง
กันนั่นเองละเนาะ
โฆษณา