Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Side Stories
•
ติดตาม
28 ธ.ค. เวลา 13:33 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
K-POP DEMON HUNTERS: ประกายสีทองอันกล้าแกร่ง
หนังบางเรื่องที่เราเคยได้ยินว่าดี
ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะคุณภาพขนาดนี้
จนได้มารับชมเต็มๆ กับตา
อย่าง "K-Pop: Demon Hunters"
ที่ทำให้แอบหยิกตัวเองเบาๆ
ว่านี่เราไปอยู่ไหนมากัน?
ชวนอ่านแก่นทั้งหมดของเรื่องนี้
ผ่านเรื่องราวระหว่างทางและความหมาย
ที่ซ่อนไว้ทั้งหมดกัน
.
.
.
1. "สิ่งที่เห็น" อาจไม่ใช่ "สิ่งที่เป็น"
- ภายใต้ภาพอันสวยหรูของความเป็นป๊อปสตาร์วง "Huntrix" ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง มีฐานแฟนทั่วโลก เป็นที่ยอมรับของใครต่อใคร ข้างในใจพวกเธอ 3 คนกลับไม่เคยยอมรับตัวเองเลย
"Zoey (โซอี้)" - ที่ลึกๆ แอบพยายามเอาใจคนอื่นมากเกินจนไม่รู้ตัว แม้แต่เพื่อนๆ ในวงยังรู้สึกเหมือนกัน
"Mira (มิร่า)" - ในลุคสุดเฟียซ มาดมั่น มันคือเกราะกำบังความเปราะบางในใจจากปมครอบครัว
"Rumi (รูมิ)" - ที่ใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัว ต้องปกปิดความจริงจากคนใกล้ตัว อยากจะรีบจบภารกิจตลอดเวลา เพื่อให้รอยสักปีศาจในตัวหายไป
แม้จะโด่งดัง มีเงินทองมากมายก็ไร้ความหมาย ถ้าในใจยังเต็มไปด้วยคำถาม
2. "มนุษย์" กับ "ปีศาจ" ไม่ต่างกัน
- แม้ในหนังจะขีดเส้นแบ่งชัดเจนด้วยดีไซน์ตัวละคร เขตแดนมิติ แนวคิด การใช้ชีวิตที่ต่างกันสุดขั้ว
เพราะปีศาจมีเป้าหมายแค่ฝ่าเขตอาคมฮอนมูน มาดูดวิญญาณมนุษย์ไปเสิร์ฟให้ราชา "Gwi-ma (กวีมา)" ได้แกร่งขึ้น ส่วนมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ผ่านการขัดเกลามาแล้ว มีหัวใจ ความรัก ความรู้สึก
แต่ลึกๆ มนุษย์ก็เต็มไปด้วยกิเลส เมื่อไหร่ก็ตามที่ปล่อยให้ใจมืดหม่น ร่วงหล่นสู่ความคิดลบ ซึมเศร้า ตั้งคำถามกับตัวเอง หรือถูกความเกลียดชังครอบงำ เมื่อนั้นย่อมถลำเข้าสู่ความเป็นปีศาจโดยไม่รู้ตัว โดยมีเสียงกวีมาคอยปลุกปั่น เชื้อเชิญด้วยผลประโยชน์อันเย้ายวน
เช่นนี้ปีศาจก็คือมนุษย์ที่หมดศรัทธากับแสงสว่างในตัว จนพลาดขายวิญญาณให้กับความมืดในใจ กระทั่งนักล่าอย่างรูมิที่เริ่มปล่อยให้ความเกลียดชังที่มีต่อปีศาจและตัวเองที่มีเชื้อสายของมัน ก็แอบถลำค่อยๆ กลายเป็นสิ่งนั้นเสียเอง
ขณะเดียวกันปีศาจที่หลงทางไปนาน และเริ่มตั้งคำถามถึงชีวิตและการหลุดพ้นจากวังวนอันทุกข์ทรมานแบบที่ "Jinu (จินอู)" เป็น ก็ทำให้เห็นว่าปีศาจเองก็กลับเป็นมนุษย์ได้เช่นกัน ในเชิงจิตวิญญาณ
ไม่มีมนุษย์หรือปีศาจโดยถาวร ทุกอย่างมันเทาๆ ไม่ขาวไม่ดำ แปรเปลี่ยนได้เสมอตามเหตุและปัจจัย อยู่ที่ใครจะฝึกใจมามากกว่ากัน
3. "คนที่แตกต่าง" ย่อมเห็นอะไรบางอย่าง
- ความร้ายกาจของ "Saja Boys" หาใช่เพียงรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาระดับโอปปา หรือเสน่ห์จากท่วงท่าในการร้องเต้น แต่สิ่งที่พวกเขาต่างจากปีศาจทั่วไปที่จบงานไม่ได้ คือการมองเห็น "สิ่งที่ต่าง" ออกไป
อย่างก่อนนี้ปีศาจตนอื่นๆ พยายามจัดการพวกนักล่าด้วยวิธีแข็งสยบอ่อน ซึ่งเห็นกันหลายครั้งแล้วว่าทำยังไงก็สู้ไม่ได้ กลับกัน Saja Boys ใช้วิธี "อ่อนสยบแข็ง" โดยอ่านขาดชัดเจนว่าจุดแข็งที่สุดของ Huntrix คือพลังรักจากแฟนๆ จึงเล่นงานจากตรงนั้นอย่างแนบเนียนด้วยการแทรกซึมในกลุ่มมนุษย์ ผ่านบทบาทบอยแบนด์น้องใหม่มาแรง ที่กำลังจะมาแย่งฐานแฟนพวกเธอไป
พลิกจุดแข็งที่สุดของอีกฝ่ายให้กลายเป็นจุดอ่อนจี้ใจ กระตุกความเปราะบางของทั้ง 3 สาวจนร้อนรนและสับสนกันเอง บวกกับปมร้าวลึกในใจรูมิ พลังในการสร้างฮอนมูนกั้นอาณาเขตปกป้องโลกจึงอ่อนลงตามมา
นี่คือศัตรูผู้เก่งกาจที่สุดที่พวกเธอไม่คิดว่าจะได้เจอ ไม่ได้สู้ตรงๆ แต่สู้ด้วยการปั่นประสาทเชิงจิตวิทยา และค่อยๆ กลืนกินโลกมาเป็นของตน
4. เราต่าง "ด่วนตัดสิน" กันง่ายดาย
- ไม่ว่าจะด้วยแนวคิด ความเชื่อ ค่านิยมก็ตาม หากได้รับการปลูกฝังสิ่งใดมายาวนาน คนเรามักแต้มสีและขีดเขียนสิ่งนั้นลงไปโดยปริยาย
อย่างวง Huntrix ที่รับช่วงต่อในฐานะนักล่า ถูกสอนมาจนเชื่อสนิทใจว่าพวกปีศาจชั่วร้าย ไม่มีความรู้สึก ไม่มีหัวใจ มีไว้ให้กำจัด รอวันสูญหายไปตลอดกาล ส่วนปีศาจก็มองพวกเธอเป็นแค่ศัตรูสำคัญ กระทั่งรูมิ-จินอูได้เจอและเริ่มสัมผัสถึงตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน ทั้งนักล่าสุดแกร่ง แต่มีเชื้อสายปีศาจและปมในใจ ทั้งปีศาจผู้อ่อนล้าและยังมีหัวใจแห่งคุณธรรม
แค่เราต่างวางอัตตาและเปิดใจ ก็อาจเห็นอะไรชัดขึ้นอีกมากมาย สิ่งที่เคยไม่เข้าใจก็อาจเริ่มเข้าใจ สิ่งที่เคยคิดว่าไม่ใช่ มันอาจใช่ในจุดหนึ่งและพาเราไปเจอสิ่งที่ดีกว่าอีกหลายจุดก็ได้
5. "การเผชิญหน้า" คือ การแก้ปัญหาที่แท้จริง
- สิ่งที่จินอูทำ นอกจากการสะกิดใจรูมิขึ้นมาว่าเฮ้ย! เธอกำลังโกหกตัวเองอยู่รึเปล่า? มันเหนื่อยเกินไปรึเปล่าที่ต้องเก็บงำความลับ ซ่อนตัวตนที่แท้จริงมาตลอด
เพราะเขาเองก็เคยสูญเสียตัวตนทุกอย่างที่เคยมี เคยเป็นให้กวีมาไปหมด ใช้ชีวิตอยู่กับเสียงของมันดั่งโซ่ตรวนผูกวิญญาณไว้จนอึดอัด ไม่อยากเห็นใครต้องมาเป็นแบบนี้อีก การเห็นรูมิในวันนี้ เหมือนได้เห็นตัวเองในวันนั้นไม่มีผิด
รูมิจึงค่อยๆ ได้กลับมาตกผลึก ตั้งคำถามกับชีวิตมากขึ้นว่าตกลงฉันเป็นใคร ยืนหยัดไปเพื่ออะไร และคุณค่าแท้จริงมันอยู่ตรงไหน? ถ้ารอยสักนี้หายไปถึงจะถูกยอมรับ และใช้ชีวิตดั่งฝันได้จริงๆ ใช่มั้ย?
ไม่มีใครเป็น "ข้อผิดพลาด" มาตั้งแต่เกิด แม้แต่รูมิเองที่เป็นครึ่งนักล่า-ครึ่งปีศาจ สำคัญกว่านั้นคือเรายังสามารถยอมรับและรักตัวเองต่อในแบบไหนได้มากกว่า เหมือนที่จินอูบอกรูมิว่า "แต่ฉันไม่ได้คิดว่าเธอคือข้อผิดพลาดเลยนะ..." เป็นจุดเปลี่ยนให้ DIVA คนเก่งได้กลับมาขบคิด
ก่อนจะค่อยๆ ยอมรับว่ารอยสักและตัวตนความเป็นปีศาจที่มาจากพ่อก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ยิ่งซ้อนยิ่งเจ็บ ยิ่งปิดกลับยิ่งปวด จึงลองหันมาโอบกอดบาดแผลและตัวตนที่ไม่สมบูรณ์แบบนั้นให้แนบแน่นที่สุดแล้วค่อยๆ หาทางไปต่อ
6. อย่าให้ใครมาพรากจิตวิญญาณเราไป
- ปรากฏการณ์ของวง "Saja Boys" ที่ดังเป็นพลุแตก คือภาพสะท้อนของความเป็นไปในอุตสาหกรรมบันเทิง ทั้งการเป็นแฟนคลับที่คลั่งรักศิลปินมากเกินไป ย่อมสามารถถูกชักจูงได้ง่าย มีราคาที่ต้องจ่ายมากกว่าเงินทอง แต่รวมถึง "วิญญาณ" ที่ถูกสูบช่วงชิงไป จะด้วยสุขภาพกาย สุขภาพเงิน และเวลา
ทั้งศิลปินที่สามารถตกเป็นเครื่องมือ ถูกค่ายใช้งานดั่งเครื่องจักร โหมงานแบบไม่ถามว่าไหวหรือไม่? แม้จะร้องเต้นเฉิดฉายได้ต่อไป ทว่าข้างในกลับไร้วิญญาณ แบบในหนังที่เหล่าไพรด์โดนสูบวิญญาณไป ส่วน Saja Boys ก็เป็นหุ่นเชิดโดยสมบูรณ์ โดนราชาปีศาจกวีมาที่เปรียบดั่งค่ายต้นสังกัด หัวเราะร่า เตรียมกอบโกยวิญญาณต่ออีกที
7. เติบโตไปด้วยกัน ย่อมดีกว่าสาดโคลน
- จะเห็นได้ว่าจากเดิมที่ Huntrix พยายามตะบี้ตะบันจะโค่น Saja Boys ให้ได้ เพื่อดึงกระแสกลับมาหาพวกเธอ ทั้งการจะไปลอบฆ่าทีเผลอ ทั้งการแต่งเพลง "Take Down" ที่ใส่เนื้อหาโจมตีอีกฝ่ายไม่ยั้ง
แต่นอกจากเพลงนี้จะไม่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนได้ตามที่หวัง มันยังไม่สามารถส่งใจและเชื่อม Huntrix กับแฟนเพลงได้ ไม่แม้แต่ผสานใจพวกเธอเองด้วย ซ้ำร้ายความเกลียดชังยังครอบงำใจเสียอีก จนรูมิถึงกับเริ่มตั้งคำถามว่าสิ่งที่พวกเธอกำลังทำมันใช่รึเปล่า? นี่ไม่น่าใช่วิถีที่จะนำไปสู่ฮอนมูนสีทองซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุด
กลับกันตอน Fan Sign แจกลายเซ็น เมื่อ Saja Boys โผล่มาป่วนกระทันหันจนแฟนๆ แตกแถวกัน รูมิเลยพลิกสถานการณ์ว่าทั้ง 2 วงจะเซ็นด้วยกัน แฟนๆ ก็รวมตัวเหมือนเดิม แถมเกิดเป็นโมเมนต์ใหม่ๆ ด้วยซ้ำไป ทั้งการเป็นคู่จิ้นให้แฟนคลับเอาไปฟินต่อ ทั้งการรวมด้อมชั่วคราว เป็นแนวทาง "Co-Creation" ที่ศิลปินมาคอลแลปและเติบโตไปด้วยกัน ดูสร้างสรรค์และน่าชื่นชมกว่าเยอะเลย ในเมื่อเราต่างอยู่คนละเส้นทางเดียวกัน ต่างค่าย ต่างวง แต่ก็มีดนตรีในหัวใจและความฝันเป็นเสียงนำทาง
8. "คำสอน" ผู้ใหญ่ อาจไม่ใช่เสมอไป
- จริงอยู่ว่าการเป็นนักล่าปีศาจที่ได้รับเจตจำนงและภารกิจอันยิ่งใหญ่สืบต่อกันมา ต้องเป็นทรีโอผู้กล้า ใช้เสียงเพลงจรรโลงใจให้ผู้คน พร้อมสร้างฮอนมูนปกป้องโลกจากเหล่าปีศาจและกวีมา
พวกเธอไม่เพียงสวย เริ่ด เชิ่ด เก่งและมีเอกลักษณ์เป็นตัวเองสุดๆ หากแต่ยังแข็งแกร่ง ไม่แสดงจุดอ่อนและความกลัวออกมาให้ใครเห็นอีก นั่นคือสิ่งที่ "Celine" ผู้เป็นอาจารย์คอยสอนและเคี่ยวเข็ญพวกเธอมาตลอด แน่นอนว่ามันทำให้ทั้งรูมิ มิร่า และโซอี้เติบโตเป็นสาวแกร่ง แต่อีกมุมก็เป็นดาบ
สองคมคอยทิ่มแทง ไม่ให้แสดงด้านที่เป็นปกติมนุษย์ออกมาเท่าไหร่
ถูกโปรแกรมกันมาจนจำฝังใจ ฉันต้องไม่เป็นไร อย่าได้เผยจุดอ่อนและความกลัวต่อหน้าใคร ทั้งที่ในใจก็แอบหวั่นกลัว ไม่แน่ใจตัวเอง เศร้าแต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นสุขวนไป แม้จะสามารถใช้ชีวิตได้ดีทั้ง 2 ด้านคือป๊อปสตาร์และนักล่า แต่ด้านที่ 3 หรือการเป็นมนุษย์ เป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่ร้องไห้ได้ เจ็บเป็น เปราะบางก็มี ตรงนี้คือสิ่งที่พวกเธอขาดหายไปมาก Saja Boys อาจมาแย่งฐานแฟนไป แต่สิ่งที่สั่นคลอนจากข้างในก็คือ Huntrix เอง เริ่มจากเสียงอันทรงพลังของรูมิที่อยู่ๆ ก็สะดุดไป
แม้กระทั่งตอนที่พลังปีศาจในตัวเริ่มตื่นขึ้นมากกว่าเดิมแต่บอกใครไม่ได้ จนชีวิตเสียหลักไปมาก ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครนอกจากอาจารย์ กระนั้นเซลีนก็ยังยืนกรานว่าเธอต้องเก็บซ่อนรอยสักพวกนี้ต่อไป ถึงเพื่อนๆ รู้แล้ว ก็จะช่วยโกหกกลบเกลื่อนให้ ขอแค่มุ่งสร้างฮอนมูนสีทองได้ เธอก็ไม่ต้องอยู่กับตัวตนที่ผิดพลาด การกระทำนี้นอกจากจะไม่ช่วยแล้ว ยังตอกย้ำแผลใจของรูมิให้บาดลึกถึงทรวงยิ่งขึ้น สู้อาจารย์ลงดาบปลิดชีวิตตามคำขอ ยังจะดีกว่าการรักแค่ด้านที่สวยงามของเธอแบบนี้ ไม่ได้รักทั้งหมดที่เป็น ซ้ำยังให้โกหก หลบซ่อนต่อไป
ถ้าฮอนมูนสีทองที่ยิ่งใหญ่ต้องสร้างขึ้นจากคำลวงและการไม่เปิดใจยอมรับกันอย่างแท้จริง แบบนี้ทำลายมันทิ้งไปเลยน่าจะดี ก่อนจะสร้างฮอนมูนที่แกร่งยิ่งกว่าขนบธรรมเนียมดั้งเดิมได้ในปลายทาง
สื่อให้เห็นว่าคำสอนบางอย่างมันอาจถูกต้องและดีในบางบริบท แต่ไม่สามารถนำไปปรับใช้จริงได้ทั้งหมด เช่นกันกับการปลูกฝังของคนสมัยก่อนทั้งบ้านและ รร. ที่เน้นพูดกรอกหู ป้อนชุดความคิดเข้าไป มากกว่าจะให้เด็กๆ ได้ลองตั้งคำถามแลกเปลี่ยนกัน สร้างสรรค์เป็นสิ่งใหม่ๆ ที่อาจให้ผลดีกว่าเดิม แบบที่พวกรูมิทำได้ในแบบของตัวเอง
หน้าฉากของหนังเรื่องนี้ อาจนำเสนอ "2 ด้าน" ผ่านมุมมองของป๊อปสตาร์และนักล่าปีศาจ แต่จริงๆ แล้วแก่นของทั้งเรื่องคือ "ด้านที่ 3" หรือด้านความเป็นมนุษย์นี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะมนุษย์นั้นไม่เคยและไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ การเปิดพื้นที่ให้ยังอ่อนแอ ร้องไห้ อ่อนไหวได้นี่แหละ ที่จะทำให้เราเข้าใจตัวเองและเข้าใจกันมากขึ้นไปอีก และพัฒนาได้ไม่สิ้นสุด
9. "มิตรภาพ" คือลมใต้ปีก
- จุดแข็งที่แท้จริงของวง Huntrix ไม่ใช่แค่ฐานแฟนลึกซึ้งและกว้างขวาง ไม่ใช่แค่ความสามารถและเสน่ห์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ซะทีเดียว หากแต่พวกเธอต่างเป็น "Comfort Zone" ของกันและกัน
"มิร่า" ที่ปากร้าย โมโหง่าย นิสัยแปลกแยก เป็นแกะดำของตระกูล คบด้วยยาก แต่พออยู่ด้วยกันในวง แต่เธอเป็นตัวเองได้เต็มที่ สบายใจ มีอะไรคุยกันตรงๆ เป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ทำงานและใช้ชีวิตแบบแมนๆ คุยกัน เธอจึง sense เป็นพิเศษเวลามีอะไรเปลี่ยนไปหรือรูมิกำลังปิดบัง
"โซอี้" มักเน่สายแรปตัวตึง ผู้เต็มไปด้วยไอเดียในหัวพรั่งพรูมากมายจนหน้ากระดาษสมุดเล่มไหนก็เขียนไม่พอ ค่อนข้างติส ค่อนข้างสุดจนยากจะเข้าใจ แต่เพื่อนๆ ก็ทำให้ไอเดียทางฉีกเหล่านั้นและเธอเองมีความหมายขึ้นมา ร้อยเรียงเข้ากันได้โดยเป็นธรรมชาติ เข้ากันดี
"รูมิ" สาว K-Pop ระดับราชนิกุลผู้กำพร้าแม่ และต้องเติบโตมาด้วยปมรอยสักปีศาจจากพ่อ ใช้ชีวิตแบบเฝ้ารอและทำทุกวิถีทางให้เกิดฮอนมูนสีทองเพื่อจะลบเลือนตราบาปนี้ไปเร็วๆ จนเมื่อเพื่อนๆ ม่รู้ความจริงทีหลังและเกือบแตกหักกัน
"การยอมรับตัวเอง" ของเธอก็ส่องประกายเข้าไปถึงใจทั้งมิร่าและโซอี้ที่กำลังต้องมนต์ปีศาจ หลงในภวังค์ ก่อนจะกลับมารวมพลังกัน 3 คนเหมือนเดิม สื่อให้เห็นถึงสายใยแห่งมิตรภาพที่ไม่อาจตัดขาดหรือแบ่งแยกได้เพียงเพราะตัวตนชาติกำเนิด ในเมื่อเพื่อนรักคนนี้ยังมีสิ่งดีๆ อยู่อีกมาก และร่วมทางฝ่าฟันกันจนรู้สึกขาดกันไม่ได้
สื่อให้เห็นว่าคนเราจะเฉิดฉายได้ดี สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ว่า "อยู่ที่ไหน" แต่เป็น "อยู่กับใคร" ด้วย แบบ Huntrix ที่คอยส่งเสริมกันและกัน สุขก็แบ่งปัน ทุกข์ก็แบ่งเบา ยอมใจในข้อดี ยอมรับในข้อเสียของเพื่อนๆ และเติบโตพัฒนาไปด้วยกันจริงๆ
10. เราคือผู้กำหนด "คุณค่า" ของตัวเอง
- จริงอยู่ที่จินอูและรูมิต่างแชร์บาดแผลที่คล้ายกัน แต่สิ่งที่ต่างกันระหว่างทั้งคู่คือบาดแผลในใจของจินอูที่ฝังลึกมากว่า 400 ปี มันทำให้เขาไม่อาจมูฟออน ทุกครั้งที่กวีมาสะกิดมันขึ้นมา ก็จะตกหลุมพรางและ "แพ้เสียงในหัว" อยู่ร่ำไป อยากจะลบเลือนมันมากแค่ไหน ก็ไม่เคยทำได้เลย จนได้แต่หวังพึ่งราชาปีศาจผู้กลับกลอก กลายเป็นแผลซ้ำย้ำเข้าไปในใจ
ยังดีที่รูมิและแฟนคลับตัวน้อยมาสะกิดให้เขาได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณดั้งเดิม ก่อนจะพลีชีพปกป้องรูมิ และปลดปล่อยตัวเองออกจากวังวนความทรมาน เป็นอิสระจากเสียงของกวีมา ใช้ชีวิตให้มีคุณค่าตามเสียงหัวใจตัวเองจริงๆ
ส่วนรูมิที่ถูกอาจารย์คอยพร่ำบอกให้อดทน เก็บซ่อนตัวตนที่ "ผิดพลาด" มานานแสนนานจนระเบิดออกมา การได้เจอจินอูและการที่เขามาบอกให้รู้ว่าเธอไม่ใช่ข้อผิดพลาดใดๆ เป็นจุดเปลี่ยนให้รูมิกล้าที่จะโอบกอดด้านที่ไม่สวยงามของตัวเอง
ค่อยๆ ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันด้วยความเข้าใจ ไม่ต้องปิดบัง ไม่ต้องโกหกกันอีกต่อไป และเธอจะเปล่งประกายให้ได้ในแบบของตัวเอง รอยสักปีศาจนี้ไม่ใช่ตราบาป แต่จะเป็นเครื่องย้ำเตือนและร่องรอยแห่งการเติบโตจากอดีต
ซึ่งการยอมรับและรักตัวเองได้จากใจนี่แหละคือ "ฮอนมูนสีทอง" แห่งชีวิตที่แท้จริง เป็นฮอนมูนที่แข็งแกร่ง พร้อมยืนหยัด และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้เสียงของใครมากำหนดทิศทาง
จากเดิมที่ "wanna be" golden มุ่งเน้นแต่จะสร้างผลลัพธ์ที่ปลายทาง จนพลาดรายละเอียดหลายอย่างไป
ไม่สำคัญเท่าหัวใจที่ "gonna be" golden เป็นห้วงเวลาระหว่างทางที่ค่อยๆ เติบโตมาด้วยกัน บางทีอาจเหมือนเรื่องราวเหล่านั้นในบทเพลง
.
.
.
"We're goin' up, up, up
It's our moment!
You know together we're glowing.
Gonna be, gonna be golden.
Oh, up, up, up
With our voices
영원히 깨질 수 없는
Gonna be, gonna be golden
Oh, I'm done hidin',
now I'm shining
like I'm born to be!!
Oh, our time, no fears, no lies
That's who we're born to be
You know we're gonna be, gonna be golden (Oh)
We're gonna be, gonna be (Oh)
Born to be, born to be glowin' (Oh)
밝게 빛나는 우리
You know that it's our time, no fears, no lies (Oh, oh)
That's who we're born to be,,,🎶🎵🌟"
ไม่แน่ว่าบางที ชีวิตจริงเราก็อาจมีฮอนมูนสีทอง
ของตัวเองได้เช่นกัน แค่ยอมรับตัวตนข้างใน
เรียนรู้และก้าวไปให้ได้จนสุดทาง,,,
ภาพยนตร์
บันเทิง
netflix
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย