งานที่ยังไม่จบ…เพราะศิลปะไม่เคยจากไป
100 ปีชาตกาล ‘ท่านกูฏ’ กับการสานต่อจิตรกรรมฝาผนังยุคแรกที่เขียนค้างไว้ให้สมบูรณ์ 🎨
บางงานศิลปะไม่เคย “เสร็จสมบูรณ์” 💫 ไม่ใช่เพราะถูกละทิ้ง แต่เพราะมันถูกออกแบบมาให้มีชีวิตและรอวันที่จะถูกสานต่อ
✨ในวาระ 100 ปีชาตกาลของ ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ หรือ ‘ท่านกูฏ’ (พ.ศ. 2468–2525) 📆 ศิลปินชั้นครูผู้บุกเบิกจิตรกรรมฝาผนังไทยร่วมสมัย งานชิ้นหนึ่งที่เขาเริ่มต้นไว้เมื่อเกือบ 60 ปีก่อน กำลังถูกเติมเต็มอีกครั้ง ไม่ใช่โดยศิษย์ ไม่ใช่โดยนักอนุรักษ์ แต่โดย ลูก ๆ ของเขาเอง
👨🏻🎨 ศิลปินผู้มี “ที่อยู่” แต่เหมือนไม่มีที่ยืน
ชื่อของ ท่านกูฏ ปรากฏอยู่ในสถานที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โรงแรมดุสิตธานี โรงแรมมณเฑียร ไปจนถึงโรงแรมอนันตรา สยาม 🏨 ผลงานของเขามักเป็นจิตรกรรมฝาผนังขนาดยักษ์ มากกว่า 20 ตารางเมตร ทำให้แทบไม่มีงานขนาดเล็กสำหรับสะสม แม้แต่ในครอบครัวเองก็หลงเหลือเพียงภาพสเก็ตช์และสีน้ำมันไม่กี่ชิ้น 🖼️
“พ่อมีที่อยู่ แต่ก็เหมือนไม่มีที่อยู่ในวงการศิลปะ” คำพูดของ นาคนิมิตร สุวรรณกูฏ ลูกชายคนหนึ่ง สะท้อนชะตากรรมของศิลปินที่เลือกทำงานเพื่อพื้นที่และสังคม มากกว่าตลาดหรือรางวัล
🌟 มรดกที่แท้จริง ตาใน มือ และใจ
สิ่งที่ท่านกูฏทิ้งไว้ ไม่ใช่แค่ภาพวาด แต่คือ วิธีคิดในการสร้างสรรค์ เขาสอนลูกเสมอให้ใช้ “ตาใน” มากกว่า “ตานอก” ให้มือ ตา และใจ ทำงานร่วมกันอย่างเป็นอิสระ ไม่ยึดติดถูกผิดตามทฤษฎี แต่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกในขณะนั้น
แนวคิดนี้เอง กลายเป็นหัวใจสำคัญของการสานต่องานที่ วัดเทพพล ย่านตลิ่งชัน
จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถที่ท่านกูฏเริ่มเขียนไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2509 แต่ทำได้เพียงราว 15% ก่อนจากไป
🛕 “วัดเทพพล” เวทีทดลองของศิลปินหนุ่ม
วัดเทพพล คือพื้นที่ทดลองงานจิตรกรรมไทยร่วมสมัยยุคแรกของท่านกูฏ เขาอาสาเขียนภาพด้วยเงินและอุปกรณ์ส่วนตัว ค่อย ๆ ทำทีละเล็กทีละน้อย เมื่อเวลาผ่านไป โบสถ์ทรุดโทรม แต่โชคดีที่ทางวัดเลือก “ไม่ลบทิ้ง” และนั่นทำให้กว่า 50 ปีต่อมา
ลูก ๆ ทั้งสาม ภาพตะวัน กาพย์แก้ว และนาคนิมิตร สุวรรณกูฏ ได้กลับมาจับพู่กันตรงจุดเดิม
เริ่มสานต่องานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 วันนี้ผลงานคืบหน้าแล้วกว่า 90%
เมื่ออดีตพูดกับปัจจุบันผ่านสีและฟอร์ม ภาพจักรวาลและสวรรค์หลังพระประธาน พุทธประวัติด้านหน้า พระกุมารในครรภ์พระนางสิริมหามายา เทพยดา สัตว์หิมพานต์ ช้างม้า 🐘🐎 และดอกบัว 7 ดอก ทั้งหมดถูกถ่ายทอดในภาษาภาพที่แตกต่างจากขนบเดิม
แม้จะเปลี่ยนจากสีฝุ่นมาเป็นอะคริลิกเพื่อความคงทน แต่ทายาทยังคงโทนสีดินแดงแบบดั้งเดิม
พร้อมนำรายละเอียดจากผลงานสำคัญในสถานที่ต่าง ๆ มาหลอมรวมตั้งแต่ ลายแก้วชิงดวงจากโรงแรมดุสิตธานี ขบวนบั้งไฟจากห้องอาหารเบญจรงค์ ไปจนถึง เรือสำเภาและเทพเทวาจากโรงแรมมณเฑียร ทั้งหมดไม่ใช่การลอกแบบ แต่คือการ “ถอดหัวใจการทำงานของพ่อ”💗 ออกมาใหม่
ความงามจากความขัดแย้ง “พ่อชอบความปลิวแบบนิ่ง ชอบสีที่เหมือนรก แต่สะอาด และสนุกกับสีคู่ตรงข้ามอย่าง🧡 ส้ม–น้ำเงิน 💙 ♥️ แดง–เขียว 💚” กาพย์แก้วเล่าถึงศิลปินผู้ไม่เชื่อในกรอบอะคาเดมิก งานของท่านกูฏมีชีวิต มีพลัง และไม่เคยนิ่ง เหมือนธรรมชาติที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา
จากฝาผนัง สู่นิทรรศการแห่งการมองเห็น 🖼️
ทั้งหมดนี้จะถูกร้อยเรียงอีกครั้งในนิทรรศการ “The Power of Visualization” นิทรรศการ retrospective 100 ปีชาตกาล ที่จะจัดขึ้นในเดือน ธันวาคม 2568 ณ Museum Pier พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
✨ นิทรรศการจะถ่ายทอด 3 แกนหลักของปรัชญาท่านกูฏ
▪️ การปฏิบัติสู่ปัญญา
▪️ พลังของธรรมชาติ
▪️ อิสระในการสร้างสรรค์
พร้อมผลงานด้านจิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม และการออกแบบการแสดง เพราะบางครั้ง…ศิลปินอาจจากไป แต่ วิธีมองโลกของเขา ยังมีชีวิตอยู่เสมอ
#สุดโปรด #ธนาคารกรุงเทพ #Bangkokbank #BBL #ท่านกูฏ #100ปีท่านกูฏ #PaiboonSuwannakud #จิตรกรรมฝาผนังไทย #ศิลปะไทยร่วมสมัย #ThePowerOfVisualization #MuseumPier #ArtHeritage #ThaiArt #Retrospective
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
