Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 17:52 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
จับตา! J-20 พญามังกรเตรียมบุกไต้หวัน
"เราปฏิเสธ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' เพราะเราจะยึดมั่นในระบบรัฐธรรมนูญที่เป็นเสรีและประชาธิปไตยของเราตลอดไป"
"การยอมรับข้อเรียกร้องของผู้รุกรานและการละทิ้งอธิปไตยไม่สามารถนำมาซึ่งสันติภาพได้อย่างแน่นอน ดังนั้น เราต้องธำรงไว้ซึ่งสถานะที่เป็นอยู่ด้วยศักดิ์ศรีและความมุ่งมั่น ต่อต้านการผนวกดินแดน การรุกราน และการผลักดันให้เกิดการรวมชาติโดยใช้กำลัง"
"ไต้หวันและจีนนั้นไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน และชะตากรรมของไต้หวันจะถูกตัดสินโดยประชาชนเท่านั้น"
ประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ แห่งไต้หวัน
เครื่องบินขับไล่ J-20
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน รอบนี้ขอเปลี่ยนเรื่องเล่าจากในประเทศไทย ออกไปต่างประเทศกันบ้าง เป็นประเทศที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าใดนัก วันนี้จะเป็นเรื่องราวของเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 จากค่ายพญามังกร เย็นนี้ผู้เขียนติดตามข่าวช่อง TNN เห็นเครื่องบินรบแบบนี้ขึ้นบินฝึกซ้อมบุกไต้หวัน ถ้าได้ใช้ในสมรภูมิจริงอาจเป็นสมรภูมิแรกที่จีนนำเครื่องบินขับไล่ล่องหนออกรบ ท่านใดที่อยากรู้ว่าสมรรถนะเครื่องบินแบบนี้มันเป็นเช่นไร ในบทความนี้จะไขคำตอบให้ชาวสงคราม Story กระจ่างขึ้น
ในขณะที่ความตึงเครียดบริเวณช่องแคบไต้หวันทวีความรุนแรงขึ้น กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ได้แสดงแสนยานุภาพผ่านการซ้อมรบครั้งใหญ่ภายใต้รหัส "Justice Mission 2025" ซึ่งมีการจำลองการปิดล้อมเกาะและการโจมตีเป้าหมายสำคัญ
ท่ามกลางยุทโธปกรณ์อันทันสมัยที่จีนนำมาใช้ทั้ง 3 เหล่าทัพหลังจากที่มีข่าวว่าสหรัฐอเมริกาได้ขายอาวุธล็อตใหญ่ให้ไต้หวัน สิ่งที่ทั่วโลกจับตามองมากที่สุดคือเครื่องบินขับไล่ Chengdu J-20 Mighty Dragon ภาษาจีนเรียกว่า "เว่ยหลง" แปลเป็นไทยคือมังกรเวหานั่นเองครับ นี่คือเครื่องบินขับไล่ล่องหนยุคที่ 5 ซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของกองทัพอากาศจีนในศตวรรษที่ 21
J-10 ฝูงบินผาดแผลง August 1st แห่งกองทัพอากาศจีน
เครื่องบินขับไล่ J-20 ขึ้นทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคมค.ศ.2011 ผลิตโดยบริษัท Chengdu เจ้าเดียวกับเครื่องบินขับไล่ J-10 (เจเท็น) ที่ถูกตั้งฉายาว่า Eurofighter แดนมังกร เครื่องบินรบสุดไฮเทคแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลบช่องว่างทางเทคโนโลยีการบินในการแข่งขันกับชาติตะวันตก โดยจีนเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากสหรัฐฯ ที่ประสบความสำเร็จในการประจำการเครื่องบินขับไล่สเตลธ์ยุคที่ 5
สำหรับเครื่องบินขับไล่แบบนี้มีความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีล่องหน แน่นอนว่า J-20 มีการออกแบบที่ช่วยลดการสะท้อนของเรดาร์ (Radar Cross Section : RCS) และใช้วัสดุดูดซับคลื่นเรดาร์ขั้นสูง แม้จะมีข้อถูกเถียงเรื่องการลอกเลียนเทคโนโลยีจากเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ของชาติคู่ขัดแย้งอย่าง F-22 หรือ F-35 ของสหรัฐฯ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินเชื่อว่าประสิทธิภาพด้านการพรางตัวของมันสามารถเทียบเคียงกับ F-35 ได้
เครื่องบินขับไล่รุ่นดังกล่าวไม่มีปืนใหญ่อากาศติดตั้งภายใน เนื่องจากจีนมุ่งเน้นการรบระยะไกลภายใต้แนวคิด First Look, First Kill โดยใช้เรดาร์แบบ AESA (active electronically scanned array) ที่ตรวจจับเป้าหมายได้ไกลถึง 200 กม. พร้อมกัน 20 เป้าหมาย
J-20 เป็นเครื่องบินขับไล่สัญชาติจีนแบบแรกที่สามารถบรรทุกขีปนาวุธในช่องเก็บอาวุธภายใน มีการบรรทุกได้ทั้งหมด 6 ลูก เช่นขีปนาวุธอากาศสู่อากาศระยะไกล 4 ลูก และขีปนาวุธอากาศสู่อากาศระยะใกล้ 2 ลูก ซึ่งมากกว่า F-35 ที่บรรทุกได้เพียง 4 ลูกในโหมดสเตลธ์
แผนแบบ J-20 รุ่นสองที่นั่ง
เมื่อเปรียบเทียบกับคู่ปรับสำคัญอย่าง F-22 Raptor ของสหรัฐฯแล่วพบว่า J-20 มีความได้เปรียบเชิงยุทธวิธีในพื้นที่ไต้หวันอย่างชัดเจน
มีพิสัยการบินที่ไกลกว่ากล่าวคือ J-20 มีรัศมีปฏิบัติการรบประมาณ 2,000 กม. และมีพิสัยการบินสูงสุดถึง 5,500 กม. ซึ่งไกลกว่า F-22 เกือบ 2.5 เท่า ทำให้ J-20 สามารถลาดตระเวนและกดดันเป้าหมายรอบเกาะไต้หวันได้นานกว่าโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงจากเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงที่กองทัพอากาศจีนมีประจำการเช่น H-6U ,Il-78 และ Y-20 บ่อยครั้ง
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า J-20 สามารถบินผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันและสหรัฐฯ เข้าไปในเขตน่านฟ้าไต้หวันได้โดยไม่ถูกตรวจจับ จนกระทั่งบินลงมาในระดับต่ำเพื่อให้เห็นตัวเครื่องชัดเจนก่อนจะบินกลับ สิ่งนี้พิสูจน์ถึงความสามารถในการพรางตัวที่ใช้งานได้จริงในสถานการณ์ตึงเครียด
นักวิชาการด้านการทหารมองว่าการซ้อมรบที่ถี่ขึ้นและสมจริงขึ้นของจีน คือการเปลี่ยนจากการขู่เชิงสัญลักษณ์ไปสู่การทดสอบความพร้อมในสถานการณ์จริง รวมทั้งการปรากฏตัวของ J-20 ในพื้นที่อ่อนไหวอย่างทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวัน นี่ไม่ใช่แค่การยึดคืนเกาะเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งแก่ดินแดนตามนโยบายจีนเดียวหรือ "One China" แต่เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังคู่ขัดแย้ง สหรัฐฯ และพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นว่า จีนพร้อมจะตอบโต้การแทรกแซงจากภายนอกด้วยมาตรการที่รุนแรงทางทหาร
เครื่องบินทิ้งระเบิด H-6 กองทัพอากาศจีน
ในขณะที่ J-20 มีความได้เปรียบด้านอาวุธที่พิสัยไกลกว่าและระยะทางที่ไกลกว่า แต่ F-22 ของสหรัฐฯ ยังคงถูกประเมินว่ามีความคล่องตัวสูงกว่าและมีประสบการณ์ในการรบจริงที่เหนือกว่าโดยเฉพาะการรบที่ซีเรียกับกลุ่มก่อการร้าย ISIS ดังนั้นการเผชิญหน้าระหว่าง "พญามังกร" และ "พญาอินทรี" จึงยังคงเป็นผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ J-20 ได้เปลี่ยนดุลอำนาจทางอากาศในภูมิภาคนี้ไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เอาเป็นว่าเพื่อให้ทุกท่านเห็นภาพการที่ J-20 ไม่มีปืนใหญ่อากาศแต่เน้นขีปนาวุธอากาศสู่อกาศระยะไกลและพิสัยการบินที่กว้างไกล เปรียบเสมือนการที่ทหารบกส่งพลซุ่มยิง (Sniper) ที่มีความอดทนสูงและพรางตัวได้แนบเนียน เข้าไปรอจังหวะในสมรภูมิ โดยเน้นการกำจัดเป้าหมายจากระยะไกลก่อนที่ศัตรูจะทันรู้ตัว แทนที่จะเป็นการเข้าไปยิงปะทะอย่าง "ซึ่งๆหน้า" จนเกิดความสูญเสียในสงคราม โดยไม่มีการเตรียมการมาดี
⏩ข้อมูลจำเพาะ J-20
ประเภท : เครื่องบินขับไล่ล่องหนยุคที่ 5
นักบิน : 1 นาย
ความยาว : 21.2 เมตร
ความยาวจากปลายปีกหนึ่งสู่อีกปลายหนึ่ง : 13.01 เมตร
ความสูง : 4.69 เมตร
พื้นที่ปีก : 73 ตารางเมตร
น้ำหนักตัวเปล่า : 17,000 กิโลกรัม
น้ำหนักรวมอาวุธ : 25,000 กิโลกรัม
น้ำหนักสูงสุดในการขึ้นบิน : 37,000 กิโลกรัม
ความจุเชื้อเพลิง : 12,000 กิโลกรัม
เครื่องยนต์ : 2 เครื่องยนต์ของFWS-10 และ AL-31F และ 2 เครื่องยนต์ของ WS-15 (อยู่ในระหว่างการพัฒนา)
ความเร็วสูงสุด :2,450 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พิสัยทำการ : 5,500 กิโมเมตร พร้อมถังเชื้อเพลิงภายนอก 2 ถัง
รัศมีทำการรบ : 2,200 กิโลเมตร
เพดานบินปกติ : 20,000 เมตร
g limits : +9/-3
อัตราแรงขับต่อน้ำหนัก : 0.92
อาวุธ :
ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ
PL-10
PL-12
PL-15
PL-16 (กำลังพัฒนา)
PL-17
PL-21 (กำลังพัฒนา)
ระเบิดนำวิถี
CS/BBM2
CM-506KG
J-20 ขณะทดสอบการเติมเชื้อเพลิงทางอากาศจาก Y-20
เครื่องบินขับไล่ J-20 ถือว่าเป็นกำลังรบหลักที่น่าจับตามองในสงครามที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ท่ามกลางการฝึกซ้อมของกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่จีนกีะทำเสมือนรบจริงนี้อาจทำให้สหรัฐฯเปิดเกมต่อไปด้วยการส่ง F-22 และ F-35 เข้ามาประจำการในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก เพื่อคานอำนาจกับจีน ต่อจากนี้ก็ต้องมาดูกันว่าใครจะเป็นใหญ่ในย่านนี้ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
Sittisede Polwiang
Alex Zheng
ธรรมวัฒน์ รัชต์ รัตนวิจารณ์
Thai Weapon Channel
วอร์โซน เรื่องราวสงคราม
TNN
ANDREI MAKUL
วิกิพีเดีย
ไทยรัฐออนไลน์
เรียบเรียงโดย : THUNDERBIRD
ทหาร
สงคราม
เทคโนโลยี
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย