1 พ.ค. 2019 เวลา 07:44 • ไลฟ์สไตล์
จากเด็กที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ปัจจุบันเป็นนักบินพาณิชย์ ตอนที่ 8
My gallery
หลังจากไฟลท์แรก ก็หาแพทย์ที่ใกล้บ้านเพื่อทำใบแพทย์
ยิ่งคลาสสูงยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น และต้องการการตรวจที่ละเอียดมากขึ้นด้วย
สำหรับท่านที่วางแผนจะเป็นนักบินพาณิชย์ ผมแนะนำให้ทำ first class ไปเลยครับ เพราะเราจะได้รู้ว่าเราเหมาะสมที่จะเป็นนักบินพาณิชย์ได้หรือไม่
แต่ผมเริ่มต้นด้วย third class เพราะในตอนนั้น ยังไม่แน่ใจเลยครับว่าจะเป็นนักบินได้จริงๆหรือเปล่า
หลังจากเลือกคุณหมอได้แล้ว คลินิกของคุณหมออยู่ระหว่างทางจากบ้านไปสนามบินพอดี ผมก็โทรไปนัดวันเข้าตรวจ
ที่อเมริกาแทบจะทุกอย่าง เขาจะต้องให้เรานัดวันและเวลาก่อน หรือภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า make an appointment
และคนที่นี่เขาจะให้ความสำคัญกับการนัดมากๆ ถ้าเราติดธุระหรือจะไปสาย เราต้องโทรบอกเขาด้วย ไม่งั้นจะถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากๆ
การตรวจร่างกายสำหรับใบแพทย์ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมไม่รู้ ไม่มีใครบอกว่าจะต้องทำอะไรและต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
1
พอถึงวันนัด ผมก็ไปที่คลินิก ไปถึงก็บอกเจ้าหน้าที่ว่าผมมีนัดมาทำ medical certificate เขาก็เอาเอกสารให้เรากรอก เพื่อทำประวัติ แล้วก็นั่งรอเรียกคิว
นั่งรอได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าห้องตรวจ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง (ที่อเมริกาใช้หน่วยเป็น ปอนด์หรือพาวด์ สำหรับน้ำหนัก และ ฟุต, นิ้ว สำหรับส่วนสูง) วัดความดัน และทดสอบสายตา โดยให้อ่านตัวอักษรจากระยะไกล จากนั้นก็ออกมานั่งรอพบคุณหมอ
Centimeters to inches conversion table
ถึงเวลาคุณหมอเรียกเข้าไปในห้อง คุณหมอก็ส่องไฟดูตา ให้อ้าปากส่องดูคอ ส่องดูหู ฟังเสียงหัวใจ ให้หายใจเข้าออกฟังเสียงลมเข้าออกปอด แล้วก็เอาค้อนยางมาเคาะเข่า ดูรีเฟลกซ์แอคชั่น
เสร็จแล้วคุณหมอก็ให้ถอดกางเกง!!!
อึ้งไป 3 วินาที คือถ้ารู้ก่อนหน้านี้มาต้องตรวจตรงนั้นด้วย คงไม่อึ้ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ถอดให้หมอตรวจ
เสร็จแล้วหมอก็บอกว่าทุกอย่างปกติดีนะ เดี๋ยวรอรับใบแพทย์ข้างนอกได้เลย
เสร็จแล้วก็รอเรียกชื่อ จ่ายเงินค่าตรวจ แล้วก็เซ็นชื่อด้านล่างใบแพทย์ แล้วก็กลับบ้าน
หลังจากนั้นก็มีการบินแบบ cross-country คือบินไปลงยังสนามบินที่มีระยะทางเป็นเส้นตรงมากกว่า 50 nautical mile แล้วก็มี night flight คือบินตอนกลางคืน
Cross-country flight
การบินตอนกลางคืนจะแตกต่างจากตอนกลางวัน และต้องการการเตรียมตัวที่มากขึ้น
เนื่องจากตอนเริ่มหัดบิน เราจะบินด้วยกฎ Visual flight rule (VFR) คือต้องมองเห็นภายนอกและรู้ว่าบินไปไหนตลอดเวลา เราจึงต้องบินโดยเทียบกับแผนที่การบิน (aeronautical chart) ตลอดเพื่อไม่ให้หลงทาง
พอมาบินกลางคืน เนื่องจากสิ่งที่เราเคยเห็นในเวลากลางวัน เช่น ตึกอาคาร ถนน แม่น้ำ ทะเลสาบ ต่างๆ จะมองไม่เห็น
เราจึงต้องอาศัยมองดูที่ไฟต่างๆแทน เช่น เห็นไฟเป็นกระจุกเยอะๆเราก็ต้องรู้ว่าคือเมืองอะไร โดยดูจากชาร์ท ซึ่งพอเป็นกลางคืนเราต้องใช้ไฟฉายส่อง
Night flight
ไฟฉายที่ใช้ต้องเป็นแสงสีแดง เพราะแสงสีแดงไม่ทำให้ม่านตาขยายและตาไม่พร่า เวลามองกลับออกไปข้างนอก สายตาเราจึงไม่ต้องเสียเวลาปรับโฟกัสไปมา
นอกจากภาคปฎิบัติคือการบินแล้ว การจะสอบเอาใบอนุญาตต้องสอบทฤษฎีหรือเรียกว่า FAA written test ด้วย
หลังจากบินได้ซักพัก ทางโรงเรียนก็แจ้งมาว่ามีกำหนดสอบ แต่ก็ไม่มีใครบอกอีกเช่นเคยว่าสอบอะไรบ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ผลสอบออกมาคือ สอบตก!!! เอาแล้วไง แล้วทำไงล่ะทีนี้
ติดตามตอนต่อไปครับ
โฆษณา