15 มิ.ย. 2019 เวลา 03:54 • ท่องเที่ยว
ร่างที่ไร้ศีรษะของท่านเค้าท์แดร๊กคูล่า : โรมาเนีย – บัลกาเรีย (๓)
เริ่มชมเมืองซีกิสวารา (Sighisoara) ประเทศโรมาเนีย กันตั้งแต่พื้นราบจนกระทั่งเดินถึงเนินจนเข้าเมืองกันเลยครับ
ก่อนอื่นขอเรียนว่าเมืองนี้มีกำแพง​ ๓​ ชั้น ​เหมือนที่เมืองซีบิว​ แต่ที่เมืองซีบิวได้เห็นเพียงชั้นนอก ส่วนเมืองนี้ได้เห็นทั้ง​ ๓​ กำแพง​
เดินผ่านกำแพง​ ๒ ​ ชั้น​ใน เข้าไปแล้วครับ​ สังเกตดูถนนของเขานะครับ เป็นถนนแบบดั้งเดิม ชมชอบคนยุโรปก็ตรงนี้ด้วยครับ ที่พยายามรักษาของโบราณไว้ให้ลูกหลานได้เห็น บ้านเราชอบรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ครับ พอจะมีให้เห็นอยู่บ้างแต่น้อยมากครับ เมื่อไรจะเลิกทำลายของเก่าแก่กันสักที
แล้วก็ได้เข้าไปถึงกำแพงเมืองชั้นในสุดแล้วครับ
ภายในกำแพงชั้นในสุดนั้นเป็นลานกว้างครับ มีพิพิธภัณฑ์หอนาฬิกา สถานที่ของที่ระลึก ห้องคลอดของแดร๊กคูล่า บ้านเรือนต่างๆ และโบสถ์บนเนินเขา แล้วจะนำท่านชมเป็นลำดับนะครับ อ้อ ผู้เขียนเห็นเด็กเป็นไม่ได้หรอกครับ ต้องเข้าไปถ่ายภาพด้วย
ขอนำท่านผู้อ่านขึ้นชมพิพิธภัณฑ์หอนาฬิกากับผู้เขียนก่อน แม้ว่าจะสูงและมีบันไดชัน​ แต่หากมีเทคนิคในการขึ้นก็ไม่เหนื่อยนัก ทั้งนี้ เพราะในแต่จะช่วงชั้นของบันได​ มีห้องเก็บของเก่าๆ​ ไว้ให้ชม​ ก็เข้าชมสิ่งที่น่าสนใจในแต่ละชั้น ก่อนขึ้นไปชมในชั้นต่อไป เป็นการพักเหนื่อยไปในตัวครับ
ภาพแรกข้างล่างนี้ถ่ายให้เห็นเครื่องของนาฬิกาซึ่งยังใช้การได้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนภาพที่สองเป็นรูปตุ๊กตาซึ่งหมุนเมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา
แล้วก็ได้ขึ้นถึงยอดสูงสุดของนาฬิกา มีทางเดินโดยรอบครับ ได้ชมทัศนียภาพของเมืองซิกิสวาราทุกมุมเมือง มีป้ายบอกระยะทางว่าไปเมืองไหนกี่​กิโลเมตร หอคอยสมัยใหม่ไม่ทราบนำตัวอย่างนี้ไปใช้ด้วยหรือไม่
ลงมาจากยอดสูงสุดของนาฬิกาแล้ว ก็เดินชมของที่ระลึกซึ่งมีมากมายครับ ไม่ได้คิดซื้อหรอกครับ เผื่อท่านผู้อ่านสนใจจะได้หมายตาเอาไว้ มีโอกาสไปเมื่อไรก็ซื้อได้ทันที
เมื่อเข้าไปที่ห้องอาหารที่นัดหมายกันไว้ เห็นทางขึ้นห้องชั้นบนมีป้ายเขียนไว้ว่าเป็นห้องคลอดของเดร็กกูล่า เสียค่าชม ๑๐ เล​ ก็เข้าชมซิครับ
แม้ว่าได้เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องตื่นเต้นกันบ้าง เพราะเป็นห้องคลอดของเดร็กกูล่า​ แต่ก็ต้องสะดุ้งเหมือนกัน เมื่อมีแมงมุมตกลงมาใส่ตอนเดินเข้าประตูซึ่งมืดพอควร เดินเข้าไปหน่อยหนึ่งก็เห็นแดร๊กคูล่าปลอมซึ่งนอนอยู่บนเตียงยกตัวขึ้นมาร้อง ก็ตกใจอีก แหม ก็ผู้เขียนเดินเข้าไปคนเดียวนี่ครับ
อาหารกลางวันวันนี้เป็นอาหารพื้นเมือง​ครับ มื้อนี้ใช้ได้ครับ ชอบ
แล้วก็เดินขึ้นไปชมโบสถ์บนเนินเขา (The Church on the Hill)​ ว่ากันว่าโบสถ์บนเนินเขานี้เป็นสถานที่ซึ่งเคยเป็นที่ฝังร่างที่ไร้ศีรษะของท่านเค้าท์แดร๊กคูล่า
ทางเดินขึ้นไปซึ่งเป็นขั้นบันไดมีไม้ตีเป็นผนังทั้งสองด้าน ขึ้นไปได้หน่อยหนึ่งคุณสายพิณ ภรรยา แจ้งว่าไม่ไหวแล้ว ขึ้นไปคนเดียวเถิด ก็เดินขึ้นไปกับเพื่อนๆ ที่ไหนได้ตอนที่ผู้เขียนไปยืนอยู่ตรงหน้าโบสถ์​ คุณสายพิณก็ตามไปทันแล้ว
เสียดายครับโบสถ์​ปิด​ ก็เลยไม่ได้เข้าไปชมโบสถ์ภายใน
เดินทางกันต่อครับ จากเมืองซีกิสวาราเดินทางสู่เมืองบราซอฟ (Brasov) ระยะทาง ๑๒๐ กม. ตามเส้นทาง​ ส่วนใหญ่ชาวบ้านมีอาชีพเกษตรกรรม​เป็นหลัก​ ปลูกผักกางมุ้ง​ นอกจากปลูกข้าวโพดแล้ว​ ยังปลูกมันฝรั่ง​ด้วย​
สำหรับการเลี้ยงสัตว์นั้น​นอกจากเลี้ยงแกะแล้ว​ ยังมีสัตว์ชนิดหนึ่งเป็นควาย​ดำด้วย แต่ชาวโรมาเนียไม่กินเนื้อครับกินแต่นมเท่านั้น ผ่านไปไม่เห็นฝูงควายดำนี้ครับ จึงขออนุญาตใช้รูปของกูเกิ้ลประกอบแทนก็แล้วกันครับ
เห็นภาพที่มีไม้ปักให้เลื้อยขึ้นคล้ายๆ​ ต้นองุ่นไหมครับ​ มันคือต้น​ฮ๊อพ (hops) ชึ่งเขาใช้ดอกมาใส่ในเบียร์ทำให้ออกรสขม มีภาพดอกฮ๊อพจากกูเกิ้ลให้ดูด้วยนะครับ
ผ่านถนนซึ่งมีต้นไม้ข้างทางปลูกเป็นระเบียบเป็นแถวเป็นแนว​แล้ว อดคิดถึงสวนยางพาราบ้านเราไม่ได้ครับ
ป้อมปราการที่เห็นในภาพข้างล่างนี้ ชาวบ้านช่วยกันสร้างไว้ป้องกันตัวเองจากพวกเติร์กครับ
แล้วเราก็เดินทางถึงเมืองบราซอฟแล้วละครับ แต่เพื่อการอ่านที่ติดต่อกัน เอาไว้อ่านรายละเอียดในตอนหน้านะครับ
พุธทรัพย์ มณีศรี
ติดตามอ่านตอนที่แล้วมาได้ที่
ตอนที่ ๑ ไปโรมาเนียแต่คิดถึงกรุงแคนเบอร์ร่า
ตอนที่ ๒ ชมสถานที่ที่งดงามที่สุดของยุโรป
โฆษณา