5 ส.ค. 2019 เวลา 14:08 • บันเทิง
ตอนที่ 5 โจ
โค-เก-ก๊ก-โก โก โก โก โก โก ...
สายแล้ว ผมรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางคิดขำ ๆ ว่าทำไมวันนี้ไก่มันขันเหมือนเสียงหัวเราะ
ผมหยิบย่าม 4 ใบ แล้ววิ่งไปที่ประตูหลังวัด
“ไงวะไอ้โจ เมื่อคืนนอนดึกเหรอ” พี่เสริฐกระเซ้าผม
“ชู่วววว”
ผมยกนิ้วชี้บังปากที่ห่อชิดราวกับรูทวารหนัก พ่นลมออกมายาว พร้อมกับขยิบตาส่งสัญญาณให้พี่เสริฐ
“พี่เสริฐไม่เล่นแบบนี้ดิ เดี๋ยวผมก็ซวยหรอก อากาศมันเย็น ๆ ผมเลยนอนเพลินไปหน่อย” ผมบอกพี่เสริฐเบา ๆ แต่เหมือนหลวงพ่อจะได้ยิน
“โจเอ๊ย นี่รอเอ็งคนเดียวเลยนะ เอ้า ไปกันได้แล้ว” หลวงพ่อหันมาทักผมจากหัวแถว หูดีจริง ๆ
แม่พาผมมาอยู่กับยายตอนผมอายุ 8 ขวบ ไม่นานแม่ก็ตาย
หลังจากนั้นอีก 4 ปี ยายผมก็ตาย
ก่อนตาย ยายฝากผมไว้กับหลวงตาคง หลวงตาก็เพิ่งจะมรณภาพไป 3 ปี
ผมไม่กล้าเล่าให้หลวงพ่อฟัง เกรงว่าหลวงพ่อจะย้ายไปอยู่วัดอื่น
พี่เสริฐเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ครึ่งเดือน เจอกันครั้งแรกผมเรียกแก น้าเสริฐ
แกมองหน้าผมแล้วส่ายหัว
“ถ้ามึงไม่เรียกกูพี่ก็ไม่ต้องมาคุยกัน”
น้ำเสียงเรียบ ๆ แฝงความขบขันเหมือนน้าค่อม ชวนชื่น ทำให้ผมขำเล็ก ๆ
“มึงขำอะไรวะ”
ภาพน้าค่อมลอยมาอยู่ตรงหน้าผมเลย น้าค่อมชัด ๆ
“ไม่มีอะไรครับ พี่เสริฐ” ผมตอบทั้งที่ยังก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มไว้
“เออ ดี มึงยังต้องเจอกูอีกหลายเดือน”
วันนี้ผมกับพี่เสริฐเดินสายหลังวัด ไอ้บอลกับน้าชายที่ทำงานกับพี่เสริฐเดินสายหน้าวัด
ส่วนหลวงพ่อจะสลับวันเว้นวันระหว่างหน้าวัดกับหลังวัดเพราะชาวบ้านขอร้อง
หลวงพ่อบอกเหตุผลที่ต้องแยกผมกับไอ้บอลว่าเอ็งสองคนอยู่ด้วยกันแล้ววุ่นวาย สลับกันแบบนี้แหละดีแล้ว
แต่ผมคิดว่าที่หลวงพ่อทำก็วุ่นวายเหมือนกัน
อาทิตย์ที่แล้วให้ไอ้บอลกับพี่เสริฐเดินหลังวัด
อาทิตย์นี้ให้ผมกับพี่เสริฐเดินหลังวัด
อาทิตย์หน้าให้ไอ้บอลกับพี่เสริฐเดินหน้าวัด
อาทิตย์ถัดไปให้ผมกับพี่เสริฐเดินหน้าวัด
แล้วก็วนกลับไปกลับมาจนกว่าพี่เสริฐกับน้าชายซ่อมศาลาเสร็จ
‘เผละ’
ยังไม่ทันพ้นประตูวัด พี่เสริฐก็โดนไอ้ด่างเจิมเข้าให้
“เชี่ย! ขี้หมา” พี่เสริฐร้องลั่น
“เสริฐไปล้างเท้าก่อนไป เดี๋ยวหลวงพ่อเดินช้า ๆ รอ”
หลวงพ่อคงสงสารญาติโยมที่นั่งรับพรพระหลังใส่บาตร
ส่วนผมก็เดินก้มหน้าตามหลวงพ่อ เอามือปิดปากไม่ให้เสียงหัวเราะลอดออกมาจนตัวสั่น
เดินมาได้สักพักก็ได้ยินเสียงเพลงที่เปิดทุกวัน ซ้ำ ๆ ไม่รู้กี่รอบ
ใกล้ถึงบ้านน้องดาวแล้วสิ
แม่น้องดาวใส่บาตรทุกเช้า มาทำบุญที่วัดทุกวันอาทิตย์ ผมว่างก็เล่นกับน้องดาว วิ่งไล่จับ หมากเก็บ จากสองคนเพิ่มเป็นสาม สี่ ห้า เด็ก ๆ ที่ติดสอยห้อยตามผู้ใหญ่มาทำบุญทั้งนั้น รู้จักกันหมด
คนมากขึ้นก็เล่นปูขาเก โดดหนังยาง
แต่อย่างหนึ่งที่หลวงพ่อกำชับไม่ให้เล่นเด็ดขาด คือ ซ่อนหา ซึ่งผมก็เข้าใจ พื้นที่วัดมันกว้าง ที่ซ่อนสำหรับเด็กตัวเล็ก ๆ ก็เยอะ และก็เคยมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น
ผมเห็นพี่เสริฐคุยกับน้องดาวหัวเราะกันคิกคัก
“คุยอะไรกันสนุกเชียว”
ผมสงสัย สองคนนี้ไปสนิทกันตอนไหน
“ความลับค่ะ พี่โจอย่ารู้เลย”
น้องดาวหันไปกระซิบกระซาบกับพี่เสริฐหลังจากที่ตอบผม
มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดของไทเลอร์ เดอร์เดน
พาลจินตนาการไปไกลตอนน้องดาวอายุ 17
‘ต่อยกับเพื่อนกูไม๊ล่า’
เสียงห้าว ๆ ท้าทายคู่ต่อสู้ของน้องดาวในชุดนักมวยหญิงที่กำลังเต้นฟุตเวิร์คอยู่ข้างหลังเพื่อนตัวใหญ่ โดยมีพี่เสริฐยืนกอดอกมองดูด้วยความภูมิใจ
ผมสะบัดหัว ไม่ ไม่ น้องดาวไม่เป็นแบบนั้นแน่
“โป้งน้องดาวแล้ว ไม่ยอมบอกพี่” ผมตัดพ้อเล็ก ๆ ทั้งสองคนยังคงหัวเราะคิกคัก
“จะคุยกันอีกนานไม๊ หลวงพ่อเดินไปโน่นแล้ว”
พระสมหวังที่เดินรั้งท้ายพูดเสียงดัง ซึ่งก็เป็นเสียงปกติของท่านนั่นแหละ
ผมถามพี่เสริฐตลอดทาง พี่เสริฐได้แต่ยิ้มตอบว่า
“น้องดาวไม่ให้บอก”
“โจเอ๊ย มาหาหลวงพ่อหน่อย”
เสียงหลวงพ่อแหวกอากาศมาเขกกบาลผมขณะกำลังคิดเพลิน ๆ ระหว่างล้างจาน ว่าน้องดาวกับพี่เสริฐมีความลับอะไรที่ผมไม่สมควรรู้
“ครับ หลวงพ่อ รอแป๊บนึงครับ ผมล้างจานอยู่” ผมตะโกนสวนหลังจากได้สติ
ระหว่างที่เดินมาหาหลวงพ่อผมก็ยังอดคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าไม่ได้
“จะให้ผมใช้หลวงพ่อทำอะไรครับ” ผมถามหลวงพ่อ
“หลวงพ่อว่าโจตั้งสติดีดีก่อนนะ”
เอ๊ะ ผมพูดอะไรผิด ผมจะใช้อะไรให้หลวงพ่อทำครับ หรือว่า ทำหลวงพ่อจะให้ผมใช้อะไรครับ
‘เพียะ’ ผมเอามือตีแก้มตัวเองเรียกสติ
“ได้สติแล้วสิ หลวงพ่อวานโจไปรับของจากโยมสมพรหน่อย เอ้านี่ กุญแจรถ ขับระวังล่ะ”
“ครับ” ผมตอบพลางยื่นมือรับกุญแจรถจากหลวงพ่อ
“ของหนักหรือเปล่าครับ ผมจะได้ชวนไอ้บอลไปด้วย” ผมหยอดคำถามเหมือนทุกครั้ง
“ไม่หนักหรอก ไปคนเดียวนั่นแหละจะได้ไม่ชวนกันเถลไถล” โวะ หลวงพ่อนี่รู้ทันผมทุกเรื่อง
ผมเดินไปที่โรงเก็บรถหลังวัด
รถกระบะคันเก่าด้านท้ายไม่มีหลังคา สภาพรถยังดีอยู่ เพียงแต่ปิดกระจกหน้าต่างรถไม่ได้ มือหมุนกระจกมันหักไปนานแล้ว
ผมวางกระเป๋าสะพายที่เบาะนั่งข้างคนขับ สตาร์ทรถแล้วขับออกมา
“จะไปไหนวะโจ”
พี่เสริฐหันมาทักขณะกำลังซ่อมศาลาสวดอภิธรรมศพกับน้าชาย
“หลวงพ่อให้ไปรับของบริจาคครับ”
ผมตอบห้วน ๆ เพราะยังเคืองพี่เสริฐเรื่องน้องดาว
“ขับรถระวังล่ะ เหมือนฝนจะตก”
ผมแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า เมฆฝนเริ่มตั้งเค้า รีบไปดีกว่าเดี๋ยวฝนตกของจะเปียก
ป้าสมพรมักจะรวบรวมของจากญาติสนิทมิตรสหายบริจาคให้วัด
มีทั้งตู้ โต๊ะ ตั่ง เตียง ที่นอน หมอน มุ้ง น้ำดื่มที่เป็นถ้วย อื่น ๆ อีกมากมาย
ผม ไอ้บอล ชาวบ้านแถววัดจะช่วยกันคัดแยกของที่ต้องซ่อมแซมออกมา แล้วแบ่งงานกันซ่อม ซ่อมเสร็จก็เก็บไว้ใช้ในวัดบ้าง ขายบ้าง เงินที่ได้ก็เอาไปใช้จ่ายภายในวัด
อย่างช่วงนี้ก็เอาไปใช้เป็นค่าซ่อมศาลาสวดอภิธรรมศพ
“วันนี้จะได้อะไรมาบ้างน้อ” ผมคิดเรื่อยเปื่อย
‘ตื๊อตือตื่อตือ ตื๊อตือตื่อตือ ตื๊อตือตื่อ ตือตื๊อ’
ผมเอื้อมมือซ้ายควานหามือถือในกระเป๋าสะพาย
“เฮ้ย!!! ตัวอะไรวะ”
ผมตกใจเหยียบคันเร่ง มือขวาหมุนพวงมาลัยบังคับรถไม่อยู่
ผมรีบยกขาขวากระทืบเบรค
เอี๊ยดดดดด โครม!!! แคร่ก แคร่ก ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก
.
.
ผมนั่งพิงกำแพง มือซ้ายพาดบนหัวเข่าที่ชันขึ้นมา มือขวาพาดหน้าขาที่เหยียดยาวจนเกือบตรง
เหม่อมองไปข้างหน้าไกล ๆ ผ่านซี่ลูกกรง
แสงสลัว ๆ จากหลอดนีออนที่พอจะช่วยให้มองเห็นอะไรได้บ้างถูกบดบังด้วยออร่าสีชมพูและสีดำคล้ายไอร้อนที่ลอยตัวช้า ๆ
เสียงกระซิบแข็ง ๆ ดังจากข้างหลังผม
“ไงโจ เจอเรื่องยุ่งยากล่ะสิ หึ หึ หึ”
.
.
อ้างอิง :
.
.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา