19 ม.ค. 2020 เวลา 12:19 • ความคิดเห็น
วิชาเรื่องสั้น 101 ฉบับมือสมัครเล่น : มุมมองของเรื่อง หรือ Point of view (3.1)
ผ่านกันไปแล้วสำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับมุมมองของเรื่อง ทั้งในแบบบุรุษที่ 1 และ บุรุษที่ 2
แน่นอนวันนี้มาถึงคิวของมุมมองแบบบุรุษที่ 3 ซึ่งอาจจะขอแตกออกเป็นสองหัวข้อย่อย เพื่อจะได้ไม่ยาวเหยียดจนปวดหัวกันจนเกินไป
ไปเริ่มกันเลยดีกว่าจ้า
มุมมองบุรุษที่ 3 (1)
สมมุติว่าคุณกำลังคุยกับแม่อยู่หน้าบ้าน พ่อก็เดินเข้ามาเห็นพอดี
แม่เล่าเรื่องป้าที่ขายของในตลาดเป็นลมชักล้มลงให้คุณฟัง พ่อเห็นทั้งคู่และยืนฟังพวกคุณคุยกันเงียบ ๆ
แม่ เปรียบเหมือนงานเขียนมุมมองบุรุษที่ 1 ที่กำลังเล่าถึงท่าทางการกระตุกเกร็งของป้าคนดังกล่าวอย่างถึงพริกถึงขิง
พอแม่ถามเราว่า "ลูกเคยเห็นคนเป็นลมชักไหมน่ากลัวมาก นึกสภาพสิ ตาเหลือก ตัวเกร็งเลย" คุณจึงเลยกลายเป็นมุมมองบุรุษที่ 2 ไปเสีย
ส่วนพ่อที่คอยดูการออกอาการตื่นเต้นของแม่ และดูสภาพของคุณที่เพิ่งตื่นนอนมาใหม่ หัวยังฟูอยู่เลย มืออีกข้างก็เกาก้นอยู่แกร๊ก ๆ สิ่งที่พ่อมองจึงเป็นมุมมองแบบบุรุษที่ 3 นั่นเอง
ซึ่งมุมมองบุรุษที่ 3 ที่พ่อเห็นนั้น เป็นมุมมองบุรุษที่ 3 ที่เรียกว่า มุมมองบุรุษที่ 3 แบบจำกัด (limited)
ความหมายก็คือ มุมมองนี้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ด้วยข้อจำกัดที่มีตามธรรมชาติ หรือจำกัดไว้เพียงเท่าที่ต้องการจะเล่า
ข้อจำกัดที่ว่าก็คือ
- ถ้าพ่อตั้งใจมองดูแม่ที่ตื่นเต้นกับการเป็นลมชักของป้าในตลาด พ่อคงมองเห็นหน้าตาตื่นของแม่ ท่าทางที่ลุกลี้ลุกลน หรือเหงื่อที่ผุดขึ้นทั่วใบหน้าเพราะตื่นตกใจ แต่พ่อจะไม่ทันสังเกตุใบหน้าของคุณในตอนที่กำลังมัวแต่มองหน้าแม่อยู่
- หรือขณะที่พ่อยืนอยู่ไกล ๆ อาจมองเห็นคุณยืนคุยกับแม่ แต่อาจฟังไม่ถนัดนักว่าคุณกับแม่คุยอะไรกัน และไม่เห็นรายละเอียดของสีหน้า หรือเม็ดเหงื่อ หรือขี้ตาที่ติดอยู่บนหน้าคุณ หรือกระทั่งไม่ทันสังเกตุเจ้าหมาจอมซนที่กำลังกลับจากหนีเที่ยวนอกบ้าน โดยมุดรั้วเข้ามาด้านหลังพ่อห่างไปสามสี่เมตร แต่พ่อมองเห็นท่าทางโดยรวมของทั้งคุณและแม่พร้อมกันได้จากระยะที่ห่างออกมา
จะเห็นว่าการเขียนมุมมองบุรุษที่สามแบบจำกัดนั้น จะมีข้อจำกัดบางอย่างเหมือนกัน เราอาจเขียนให้เรื่องราวเห็นภาพได้กว้างขึ้นผ่านสายตาของบุรุษที่ 3 แต่ก็ได้จำกัดเพียงที่สมควรแก่ธรรมชาติของบุรุษที่สามจะพึงมีได้เท่านั้น หรือข้อจำกัดนั้นใช้เพื่อจุดประสงค์บางอย่างที่ผู้เขียนต้องการ เช่น ปิดข้อมูลบางอย่างไว้ให้คนอ่านไขว้เข้ว หรือซ่อนข้อมูลไว้เพื่อให้เกิดการดำเนินเรื่องที่น่าค้นหาติดตามมากยิ่งขึ้น
บุรุษที่ 3 อาจมองเห็นว่าบุรุษที่ 1 และ 2 หรือสิ่งอื่น ๆ กำลังเกิดอะไรขึ้น แต่บุรุษที่ 3 ก็ยังไม่อาจล่วงรู้ความรู้สึกภายในของบุรุษที่ 1 และ 2 ได้อยู่ดี
ส่วนใหญ่เราจะใช้การอธิบายมุมมองแบบนี้คล้ายการถ่ายทำด้วยกล้องแบบภาพยนต์ ซึ่งเวลากล้องไปโฟกัสที่ตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง กล้องจะไม่เห็นหน้าของคนที่เหลือ ยกเว้นพวกเขาอยู่ในเฟรมที่กล้องมองเห็นด้วย
ดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้ อาจจะพอเข้าใจมุมมองบุรุษที่ 3 แบบจำกัด ได้บ้าง ลองไปดูกัน
จะเห็นว่า เรามองอยู่เหมือนเป็นบุคคลอื่นที่ดูเหตุการณ์อยู่รอบ ๆ เรามองตามตัวเอกไปก็จะเห็นสิ่งที่เขาทำ แต่ไม่เห็นว่าคนที่เหลือรอบ ๆ กำลังทำอะไร รู้สึกอย่างไร เราไม่รู้ว่าตัวเอกโกรธมากขนาดไหน ไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตอนแรก รู้สึกอะไร คนที่โดนทำร้ายเจ็บแค่ไหน แขนขาหักไปกี่ท่อน
นี่คือความจำกัดที่ว่า จำกัดในแบบที่เรื่องถ่ายทอดให้เห็นแค่ไหน เราก็จะทราบแค่นั้น ไม่รู้ไปมากกว่าที่เห็นได้ จึงจะเรียกว่าเป็นมุมมองบุรุษที่ 3 แบบจำกัด
กลับมาดูยายร้อยพวงมาลัยกันอีกครั้งดีกว่า คราวนี้จะแตกต่างจากสองตอนที่แล้วยังไงบ้าง พออ่านจบลองย้อนกลับไปดูสองตอนที่แล้วเปรียบเทียบน่าจะดีมากครับ และคงพอเห็นความแตกต่างมากขึ้น
เด็กหนุ่มในชุดทำงานสีหน้านั้นดูอิดโรยเล็กน้อย เขากำลังเดินลงมาจากสะพานลอยข้ามแยกอนุเสาวรีย์ ฯ พอมาถึงที่ตีนสะพาน สายตาเหลือบไปพบยายคนหนึ่งที่นั่งคุดคู้อยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าดูใกล้พังเต็มทน
เด็กหนุ่มยืนหยุดกึกอยู่ตรงนั้น เขายืนจ้องมองยายด้วยสายตาที่ราวกับพบคนรู้จัก มืออีกข้างกำสายสะพายกระเป๋าแน่น เสียงแตรรถจากถนนดังลั่นจนคนที่ยืนตรงป้ายรถเมล์ยังต้องเงยหน้าจากมือถือขึ้นมามอง แต่ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่ง ตาจ้องมองยายไม่กระพริบ พักเดียวสีหน้าเขาและแววตาตากลับพลันอ่อนโยนลงอย่างประหลาด
ยายหยิบดอกมะลิด้วยมือสั่นระริก เข็มร้อยมาลัยปลานแกว่งไปมาน่าหวาดเสียว แต่ยายก็ยังจับดอกมะลิร้อยเข้าด้วยเข็มอย่างชำนาญ อาจช้าไปบ้าง แต่ก็ดูรู้ว่าจะต้องออกมางามไม่แพ้คนหนุ่มคนสาวร้อยเอง เสียแต่ว่ากลีบดอกมะลิดูจะช้ำไปบ้าง ถ้าใครช่างเลือก คงเห็นว่ามาลัยของยายไม่งามนัก ออกจะเหมือนมาลัยช้ำค้างคืนไปเสียด้วยซ้ำไป
แต่ชายหนุ่มกลับเดินเข้าไป นั่งลงคุยกับยายอย่างมีมารยาท เขานั่งคุยอยู่อย่างนั้นสามสี่นาที ก่อนจะยื่นเงินให้ยายเป็นค่ามาลัย ยายหยิบมาลัยใส่ถุงให้พร้อมเงินทอน แต่เขากลับเอามือโอบกำมือที่เหี่ยวย่นของยายไว้ ทำท่าทำทางส่ายหน้าไปมา และดันมือยายกลับคืนไปเบา ๆ
ยายยิ้มให้เด็กหนุ่ม แม้ฟันหน้าของยายจะหายไปหลายซี่ แต่รอยยิ้มนั่นถ้าใครสังเกตุเห็น จะรับรู้ได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่ยินดีราวกับได้พบลูกหลานมาเยี่ยมหาหลังจากหายหน้าหายตาไปนานหลายปี
ยายบอกอะไรบางอย่างกับเขา เสียงรถราวิ่งไปมาทำเอาฟังไม่ถนัดนัก
เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้หญิงชราแปลกหน้าอย่างไม่เคอะเขิน เขาค่อย ๆ ก้มหลังเล็กน้อยตอนเดินผ่านหน้ายายไป ยายยังคงมองแผ่นหลังเด็กหนุ่มที่เดินจากไป ด้วยสายตาเอ็นดูระคนความเศร้าเล็กน้อย
ชายหนุ่มเดินผ่านไปได้เพียงเล็กน้อย ก็ยกมือขึ้นปาดดวงตาข้างหนึ่ง สูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินต่อไปพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก
จากเนื้อความข้างบนจะเห็นว่า เรื่องนั้นเล่าผ่านสายตาของใครอีกคน ไม่ใช่จากชายหนุ่ม หรือหญิงชรา ไม่ได้เล่าแบบที่ใครกำลังพยายามสวมความรู้สึกให้คุณที่กำลังอ่านเนื้อความอยู่
แต่เล่าผ่านสายตาของคนอีกคน ที่อยู่นอกวงสนทนาของยายและชายหนุ่มที่ซื้อพวงมาลัย เล่าแบบที่ตาเห็น แต่ไม่อาจรู้ได้ว่าเขาทั้งสองคุยอะไรกัน และทั้งสองรู้สึกเช่นไร ได้แต่เพียงคาดเดาเอาจากสีหน้าท่าทางเท่านั้น
ซึ่งมุมมองบุรุษที่สามแบบจำกัดนี่ ก็นับเป็นรูปแบบที่นิยมใช้มากที่สุดในงานเขียนที่เราพบทั่วไป เพราะด้วยความที่จะสามารถเล่าเรื่องราวได้ครอบคลุมกว่า เพราะสามารถเล่าถึงตัวละครอื่น ๆ ได้คราวละหลาย ๆ ตัว ไม่ต้องสลับเล่าไปทีละตัวละครแบบมุมมองบุรุษที่ 1
เรื่องเล่าทำให้เราจินตนาการได้เห็นภาพและไม่ยัดเยียดความรู้สึกให้คนอ่านเหมือนในมุมมองบุรุษที่ 2
และยังเพิ่มลูกเล่นของเรื่องราวได้หลากหลาย ตามที่คนเขียนจะพยายามสอดแทรกไว้ โดยพลิกเอาข้อจำกัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับเรื่องเล่าให้มีมิติมากขึ้น
เพราะข้อจำกัดอันใกล้เคียงความร๔้สึกที่มนุษย์ทั่วไปมีนี่เอง ที่เป็นเสน่ห์อีกอย่างของการเล่าผ่านมุมมองบุรุษที่ 3 แบบจำกัดนี้
พอจบบทนี้แล้ว เราลองไปดูเรื่องสั้นแบบมุมมองบุรุษที่ 3 แบบจำกัด กันดูดีกว่า ว่าจะออกมาแนวไหน หน้าตาเป็นยังไงกัน ลองมาอ่านอันนี้ดู
อ่านจบแล้วไม่แน่ใจว่าจะมองเห็นภาพการเล่าผ่านมุมมองบุรุษที่ 3 แบบจำกัดไหม แต่แอบบอกว่าเรื่องข้างบนมีบางจุดที่เปลี่ยนสลับไปมุมมองบุรุษที่ 1 ด้วย ถ้าใคนสังเกตุอย่างละเอียด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องดูกระโดดจนคนอ่านงง ก็ถือว่าไม่ได้ผิดอะไร
แล้วคราวหน้า คงถึงมุมมองบุรุษที่ 3 แบบพิเศษ ที่เรียกว่า "มุมมองพระเจ้า" จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป
สำหรับวันนี้ สวัสดี สวีดัด ไปก่อนนะทุกคน แล้วเจอกันใหม่เมื่อแอดพร้อม 55555
โฆษณา