13 มี.ค. 2020 เวลา 09:54 • ข่าว
Insight Fact ข้อเท็จจริงเชิงลึก : สื่อในหลายประเทศรายงานว่า Coronavirus อาจมีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐฯ อเมริกา
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
1. สำนักข่าว RT รัสเซียรายงานว่า Coronavirus อาจมีต้นกำเนิดจากสหรัฐฯ
มีการพาดหัวข่าวว่า "Where was your patient zero?’ Chinese official speculates AMERICANS may have infected Wuhan at army games & calls to ‘come clean"
**Dictionary : คำว่า "Patient zero" หมายถึงผู้ป่วยคนแรกที่ติดเชื้อก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดจากคนไปสู่คนเป็นครั้งแรกในประเทศนั้น ๆ อาจกล่าวได้ว่าเป็น "ผู้นำเข้าเชื้อโรค" มายังประเทศนั่นเอง**
แปลได้ว่า "ไหนผู้ป่วยรายที่ 0 ของคุณ?" เจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่าชาวอเมริกันอาจเป็นผู้ที่นำการแพร่ระบาดเข้ามาสู่ Wuhan โดยกิจกรรมแข่งกีฬาทหาร (เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว) และเรียกร้องให้ออกมา "ยอมรับความจริง"
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน Lijian Zhao เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยความจริงที่พวกเขาซ่อนไว้เกี่ยวกับต้นของ Coronavirus โดยระบุว่าไวรัสชนิดนี้อาจถูกนำเข้ามาสู่จีนโดยกองทัพสหรัฐฯ
เขาได้แนบวิดีโอที่ Robert Redfield ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดของสหรัฐฯ ออกมายอมรับว่า อเมริกามีผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิตด้วย Coronavirus ก่อนที่พวกเขาจะมีความสามารถในการตรวจสอบได้
ในวิดีโอ Redfield ได้ยอมรับว่ามีบางกรณีของผู้ป่วย "Coronavirus" ที่ได้รับการวินิจฉัยผิดพลาดว่าเป็น "ไข้หวัดใหญ่" เนื่องจากทางการแพทย์ของเรายังไม่มีความแม่นยำในการตรวจหาเชื้อ Coronavirus ในตอนนี้ ซึ่งเขาไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดที่ว่า "การวินิจฉัยที่ผิดพลาดเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน"
นอกจากนี้ เขายังได้โพสท์ข้อความผ่าน Twitter ไปถึงผู้สังเกตการณ์ชาวอเมริกันทุกคนให้ออกมายอมรับความจริง ด้วยข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "ผู้ป่วยคนแรกที่ติดเชื้อในสหรัฐฯ เกิดขึ้นเมื่อไหร่? มีผู้ติดเชื้อมากแค่ไหน? และโรงพยายาบที่รับการรักษาชื่อโรงพยาบาลอะไร ? มันอาจเป็นกองทัพสหรัฐฯ ที่นำโรคระบาดนี้มาสู่ Wuhan. โปร่งใสหน่อย ! เปิดเผยข้อมูลของคุณสู่สาธารณะ ! สหรัฐฯ กำลังติดค้างเราในการอธิบายเรื่องนี้ !
จนถึงปัจจุบัน ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ยังไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของผู้ป่วย Coronavirus รายที่ 0 ในประเทศได้ และไม่มีหลักฐานทางการใด ๆ ที่เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม แต่ในขณะเดียวกันข้อมูลจากหลาย ๆ ประเทศ กำลังส่อเค้าว่าโรคนี้อาจมีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐฯ
โดยขาดข้อมูลของผู้ป่วยไปแม้แต่รายเดียว รวมถึงลำดับเหตุการณ์ในการเสียชีวิตต่าง ๆ ความสงสัยนี้ก็จะยังวนเวียนอยู่อย่างไรต่อไป ซึ่งทฤษฎีของ Lijian Zhao นั้นมุ่งเน้นไปที่ Military World Games ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาสำหรับทหารทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้นทุก 4 ปี (อารมณ์แบบกีฬาโอลิมปิคนั่นแหละ)
โดยล่าสุดการแข่งกีฬานี้ได้จัดขึ้นที่ Wuhan ในเดือนตุลาคมปีที่แล้วนี้เองครับ ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่เมือง Wuhan จะประกาศยืนยันการแพร่ระบาดในเดือนธันวาคม 2562 โดยการจัดงาน Military World Games แต่ละครั้งจะมีเหล่ากีฬาทหารชาวอเมริกันกว่า 300 คนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน
Lijian Zhao ไม่ได้เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองคนเดียวที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับระยะเวลาของ Military World Games และจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดใน Wuhan
อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Matthias Chang ให้ข้อสังเกตที่ว่าการแข่งขันกีฬาครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามชีวภาพของสหรัฐฯ และจีน
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้รายงานอย่างเป็นทางการว่าการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของ Coronavirus ในขณะนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศจีนในเมือง Wuhan โดยยืนยันการแพร่ระบาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งการเสาะหาต้นกำเนิดของการแพร่ระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง (เอาง่าย ๆ คือที่แรกที่บันทึกการแพร่ระบาดอย่างเป็นทางการคือจีน แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าต้นกำเนิดไวรัสมาจากไหน)
โดยทฤษฎีต่าง ๆ ที่กล่าวอ้างกันเช่น การค้าค้างคาวในเมือง Wuhan, การติดเชื้อจากตัวลิ่น และทฤษฎีอื่น ๆ ทั้งหมดก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์และยืนยันอย่างเป็นทางการ
ทฤษฎีที่ว่าสหรัฐฯ อเมริกาอาจเป็นต้นกำเนิดของ Coronavirus มีต้นฉบับมาจากคำกล่าวของผู้นำของอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวเอาไว้ว่า "Covid-19 อาจเป็นการโจมตีทางชีวภาพโดยสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มแพร่ระบาดในประเทศจีน มายังอิหร่านหลังจากนั้น และต่อไปที่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก"ฃ
ในปัจจุบัน ทุกทฤษฎีที่มีการกล่าวอ้างกันบนโลกถึงจุดกำเนิดของ Coronavirus ไม่ว่าจะเป็นการโยนความผิดไปยังสัตว์หรือมนุษย์ ล้วนยังไม่มีข้อมูลหลักฐานใด ๆ ที่ยืนยันได้อย่างแท้จริง แม้แต่ผู้ป่วยรายที่ 0 ของจีนก็ยังไม่ชัดเจน
วอชิงตันเองก็เช่นกัน...แม้ Steve Wozniak คนสนิทของ Steve jobs และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple จะออกมากล่าวว่าพวกเขาอาจเป็นผู้ป่วยรายที่ 0 เมื่อพวกเขาเริ่มมีอาการไออย่างรุนแรงหลังจากเดินทางกลับมาจากจีนเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งตอนนั้นภรรยาของเขาได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าป่วยเป็น "โรคไซนัส" แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันแต่อย่างใด
Steve Wozniak
2. งานวิจัยของจีนระบุว่า Coronavirus มีถิ่นกำเนิดนอกประเทศจีน
หลังจากมีการสะสมตัวอย่างของจีโนมในจีน งานวิจัยทางการแพทย์ได้ข้อสรุปแรกออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไวรัสไม่ได้มีต้นกำเนิดจากตลาด Seafood ในประเทศจีน แต่มีต้นกำเนิดมาจากหลายแหล่งซึ่งระบุที่มาไม่ได้ (กล่าวคือ อยู่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาในที่ ๆ นั้นโดยไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าในหลายประเทศยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ป่วยรายที่ 0 ได้)
อ้างอิงจาก Global Times : ผลการศึกษาใหม่ของนักวิจัยจีนชี้ว่า Coronavirus อาจเริ่มติดเชื้อจากคนสู่คนเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 จากแหล่งที่มาซึ่งระบุตัวตนไม่ได้เข้ามายังตลาด Seafood ในเมือง Wuhan
การศึกษาครั้งนี้ถูกเปิดเผยโดย ChinaXiv ซึ่งเป็นสมาคมวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศจีน มีเนื้อหาสำคัญว่า "Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ถูกนำเข้ามาสู่ตลาด Seafood จากที่อื่น และหลังจากนั้นมันแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจากตลาดโดยการสัมผัสกันของผู้คนจำนวนมาก การค้นพบครั้งนี้เป็นผลมาจากการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของจีโนม แหล่งที่มา รวมถึงเส้นทางและรูปแบบการแพร่กระจายตัว จากทั้งในและนอกประเทศจีน
"เชื่อว่าผู้ป่วยรายที่ 0 ส่งต่อเชื้อไวรัสผ่านทางคนงานและพ่อค้าแม่ค้าในตลาด และด้วยความแออัดของผู้คนยิ่งส่งเสริมให้ไวรัสแพร่กระจายได้โดยง่ายดาย สู่ผู้มาจำจ่ายใช้สอยในตลาด เป็นผลให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2562"
เจ้าหน้าที่การแพทย์ของจีนและหน่วยสืบราชการลับกล่าวว่า การศึกษาการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางของเราได้ทำการเก็บตัวอย่างเกือบ 100 ตัวอย่างของจีโนม จาก 12 ประเทศ และ 4 ทวีปทั่วโลก ซึ่งช่วยระบุถึงทุกสายพันธุ์ รวมถึงการกลายพันธุ์ของไวรัส พวกเขากล่าวว่าการแพร่ระบาดของไวรัสได้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นนานมาก อาจเป็นในเดือนพฤศจิกายน ไม่นานหลังจากมีการแข่ง Military World Games
ซึ่งตรงกับข้อสรุปจากนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่กล่าวว่า "ไวรัสไม่ได้เริ่มขึ้นในประเทศจีน แต่มันถูกนำเข้ามาจากภายนอก"
Zhong Nanshan แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจของจีนกล่าวเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2562 ว่า "ถึงแม้ COVID-19 จะถูกเปิดเผยครั้งแรกในประเทศจีน แต่ไม่ได้หมายความว่ามันเกิดขึ้นจากประเทศจีน แต่มันมาจากที่อื่น ในประเทศอื่น"
นี่เป็นเหตุผลให้เกิดคำถามมากมายในขณะนี้...มีการศึกษาและวิเคราะห์ราว ๆ 100 จีโนม จาก 12 ประเทศทั่วโลก พวกเขาควรจะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น ซึ่งระบุถึงแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น และนี่ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมหลาย ๆ ประเทศถึงต้องมีการค้นหา "ผู้ป่วยรายที่ 0" กันให้ว่อน
3. สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า Coronavirus มีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกา
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 สำนักข่าว Asahi ของญี่ปุ่น เปิดเผยรายงานซึ่งระบุอย่างชัดเจนว่า Coronavirus มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐฯ ไม่ใช่ประเทศจีน และมีชาวอเมริกันกว่า 14,000 คนที่เสียชีวิตโดยถูกวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วอาจเป็นผลมาจาก Coronavirus
รายงานของญี่ปุ่นครั้งนี้ที่ว่า "ชาวอเมริกันอาจไม่รู้ตัวว่าพวกเขาสัมผัสกับไวรัส" ได้กลายเป็นคำพูดยอดฮิตในสื่อ Social Media ของประเทศจีน สร้างความหวาดกลัวและพุ่งข้อสงสัยของชาวจีนไปยังสหรัฐฯ
Asahi ยกเอกสารพิเศษเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของพวกเขา นำเสนอประเด็นที่ว่า "ปัญหาที่รุนแรงขึ้นโดยไม่มีใครรู้สาเหตุเกิดมาจากการที่สหรัฐฯ ละเลยที่จะทดสอบ หรือไม่ก็ล้มเหลวในการวินิจฉัยผลลัพธ์"
อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงที่จะถามคำถามในประเด็นเกี่ยวกับ "ไวรัสกำเนิดมาจากธรรมชาติหรือเป็นการสร้างโดยฝีมือมนุษย์" และ "การแพร่ระบาดเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือมีคนตั้งใจให้มันเกิด" เพียงแต่นำเสนอในประเด็นที่ว่า "การระบาดเกิดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐฯ" ซึ่งแน่นอนว่าสื่อตะวันได้ออกมาโต้แย้งข้อมูลดังกล่าว แต่ในสื่อของจีนยังมีการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง
Shen Yi ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัย Fudan ในเซี่ยงไฮ้กล่าวว่านักไวรัสวิทยาทั่วโลกกำลังทำงานเพื่อติดตามต้นกำเนิดของไวรัสรวมถึงสำนักข่าวกรอง ชาวเน็ตได้รับการสนับสนุนให้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการอภิปราย แต่ควรเป็นแบบมีเหตุผล
"อาการและโรคติดต่อของ COVID-19 นั้นชัดเจนสำหรับทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิดต้นกำเนิดของโรค" Shen Yi กล่าวเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาพึ่งพากับข้อเท็จจริงมากขึ้น
การระบาดครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ของระบบและสื่อต่าง ๆ ซึ่งควรเปิดเผยข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนและถูกต้อง สิ่งเหล่านี้ย้ำเตือนให้ประชาชนหันมาใส่ใจและตระหนักว่าการระบาดอาจรุนแรงกว่าที่ปรากฏในอเมริกา
4. สื่อของไต้หวันรายงานว่าการแพร่ระบาดของ Coronavirus ในไต้หวันที่ต้นกำเนิดมาจากอเมริกา
ชายในรูปและวิดีโอข้างล่างเป็นนักไวรัสวิทยาชั้นนำ และเป็นเภสัชกรผู้ทำการค้นหาแหล่งที่มาของไวรัสอย่างละเอียด ซึ่งเขาใช้ส่วนแรกของวิดีโอเพื่ออธิบาย haplotypes ต่าง ๆ รวมถึงหลักการเบื้องต้น เช่น มาได้อย่างไร กลายพันธุ์อย่างไร มีการติดเชื้อจากอีกที่ไปสู่อีกที่ได้อย่างไร
แต่ส่วนหนึ่งในประเด็นสำคัญของเขาได้กล่าวว่า "ชนิดของไวรัสที่ไต้หวันมีการติดเชื้อ พบแค่ใน ออสเตเรียและสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ไต้หวันไม่ได้ติดเชื้อจากออสเตเรีย ดังนั้นแล้วการแพร่ระบาดในไต้หวันสามารถมาได้จากสหรัฐฯ เท่านั้น"
เหตุผลพื้นฐานก็คือตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่มีความหลากหลายมากที่สุดของสายพันธุ์ไวรัสจะต้องเป็น "แหล่งดั้งเดิม" (ในที่นี้หมายถึงแหล่งกำเนิด) เพราะสายพันธุ์เดียวของไวรัสไม่สามารถโผล่ออกมาความว่างเปล่าได้ และเขาแสดงให้เห็นว่ามีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีไวรัสครบทั้ง 5 สายพันธุ์ที่รู้จัก ในขณะที่หวู่ฮั่นและจีนมีเพียงเชื้อเดียว รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวัน, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม, สิงคโปร์, อังกฤษ, เบลเยียม และเยอรมนี
เกาหลีและไต้หวันมีเชื้อไวรัสชนิดที่แตกต่างจากจีน ซึ่งมีการแพร่ระบาดของเชื้อมากกว่า แต่อัตราการเสียชีวิตน้อยกว่ามาก คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตเพียง 1 ใน 3 ของประเทศจีน
ทั้งอิหร่านและอิตาลีไม่ได้รวมอยู่ในข้อมูลงานวิจัยของเรา แต่ทั้งสองประเทศได้ถอดรหัสจีโนมที่แพร่ระบาดในท้องถิ่นและได้ประกาศสายพันธุ์ที่แตกต่างจากในประเทศจีน นั่นหมายความว่า "พวกเขาไม่ได้ติดเชื้อจากประเทศจีน" แต่มันถูกนำเข้ามาจากแหล่งอื่น
เป็นที่น่าสังเกตว่าการระบาดในอิตาลีนั้นมีอัตราการเสียชีวิตใกล้เคียงกับประเทศจีน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่น ๆ ถึงสามเท่า ในขณะที่รูปแบบ haplotype ในอิหร่านดูเหมือนจะมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ระหว่าง 10% ถึง 25%
ก่อนหน้านี้สื่อตะวันตกจำนวนมากมุ่งเน้นไปที่ประเทศจีน และประชากรโลกส่วนใหญ่เชื่อว่า Coronavirus แพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ทั้งหมดจากประเทศจีน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น
นักไวรัสวิทยากล่าวเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯ พิ่งมีผู้ป่วยโรค "ปอดพังผืด” มากกว่า 200 รายที่ส่งผลให้เสียชีวิตเนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้ แต่มีลักษณะและอาการแสดงที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคปอดทั่วไป
เขากล่าวว่า เขาได้เขียนบทความที่แจ้งให้หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐอเมริกาพิจารณาการเสียชีวิตเหล่านั้นอย่างจริงจัง ว่าเป็นผลมาจาก Coronavirus แต่พวกเขาตอบโต้ด้วยการกล่าวว่าผู้เสียชีวิต "ตายเพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้า"
แพทย์ชาวไต้หวันกล่าวว่า การระบาดของไวรัสเริ่มต้นก่อนที่เราคิด โดยกล่าวว่า "เราต้องดูย้อนไปจนถึงเดือนกันยายนปี 2019"
เขากล่าวถึงกรณีในเดือนกันยายนปี 2019 ที่ชาวญี่ปุ่นบางคนเดินทางไปฮาวาย และพบว่าติดเชื้อหลังจากกลับมา ซึ่งเขาไม่เคยไปเดินทางไปยังประเทศจีนเลย
นี่เป็นสองเดือนก่อนเกิดการแพร่ระบาดในประเทศจีน และไม่กี่วันหลังจากที่ CDC ประกาศปิดห้องปฏิบัติการอาวุธชีวภาพ Fort Detrick ทั้งหมดอย่างกระทันหัน โดยอ้างว่าโรงงานมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอที่จะป้องกันการรั่วไหลเชื้อโรค
นอกจากนั้นเขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบต่าง ๆ ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังมาก ๆ (ซึ่งเป็นข้อสรุปเดียวกับนักไวรัสทิยาของญี่ปุ่น) "นี่อาจชี้ว่าไวรัสได้แพร่กระจายในอเมริกาแล้ว แต่อาการของโรคที่จะปรากฎนั้นขึ้นอยู่กับอาการของโรคอื่น"
วิเคราะห์โดย World Maker : ตรงนี้เหมือนเป็นโรคแทรกซ้อน ที่อาการของผู้ป่วยแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวของบุคคลนั้น
Huanqiu สำนักข่าวชื่อดังของประเทศจีนเปิดเผยกรณีที่ญาติของหญิงสาวรายนึงเสียชีวิต โดยแพทย์บอกกับหญิงสาวคนนั้นว่าญาติของเธอเสียชีวิตจากโรค "ไข้หวัดใหญ่" แต่ในใบชันสูตรผลการตายระบุว่า "เสียชีวิตจาก Coronavirus"
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักข่าว ABC News ร่วมกับ KJCT8 News Network รายงานว่า "หญิงสาวคนนั้นพึ่งจะบอกกับสื่อว่าญาติของเธอเสียชีวิตจากการติดเชื้อ Coronavirus"
"ก่อนเริ่มมีอาการญาติของฉันนั่งเครื่องบินจาก Grand Junction ไปลาสเวกัสและพักที่ Arizona และเป็นระยะเวลาหนึ่งในช่วงสัปดาห์ต่อมา ญาติของฉันถูกสงสัยว่าป่วยเป็น "ไข้หวัดใหญ่" จำเป็นต้องไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการทดสอบต่าง ๆ ในระหว่างที่อาการป่วยทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว"
โดยเธอได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์แจ้งกับพวกเราว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากไข้หวัดใหญ่ แต่เราได้รับใบยืนยันผลการชันสูตรในภายหลังจากนั้น ซึ่งระบุว่าสาเหตุการตายมาจาก Coronavirus"
อย่างไรก็ตามในขณะนี้เรายังไม่ทราบจำนวนผู้ป่วยในสหรัฐฯ ที่ชัดเจน เนื่องจาก CDC ยังไม่มีชุดทดสอบที่เชื่อถือได้และกำลังเร่งทำการทดสอบไวรัสเพียงจำนวนเล็กน้อยหรืออาจไม่มีเลย
บทสรุปจาก World Maker
จะเห็นได้ข่าวสารจากแต่ล่ะแหล่งข่าวในขณะนี้ดูเหมือนจะวุ่นวายและขัดแย้งกันไปหมด จนเราไม่รู้ว่าจะเชื่อข่าวไหนดี แต่สิ่งที่เรารู้แน่ ๆ คือ "ต้นกำเนิดของ Coronavirus ในขณะนี้ยังระบุไม่ได้อย่างเป็นทางการ" ซึ่งในช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวายเช่นนี้การเสพข่าวนั้นสมควรอย่างมากที่ต้องใช้ "วิจารณญาณ" ในการวิเคราะห์และพิจารณาอย่างเหมาะสม ถึงความเป็นไปได้ แหล่งที่มาของข่าว รวมถึงการเตรียมการสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น "ถ้าเราไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร การรับรู้ข้อมูลในหลาย ๆ ด้านให้มากพอก็จะดีกว่าการที่ไม่รู้อะไรเลย"
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา