20 ต.ค. 2020 เวลา 11:00 • ยานยนต์
Carman ยินดีนำเสนอ
EP25 : วิเคราะห์ Honda Accord 1.5 Turbo เจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย "ถึงตังพี่น้อย เเต่ใจพี่พร้อมนะ!"
*คำเตือน : บทความนี้มีการใส่ความคิดเห็นของผู้เขียนเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมเเละให้เห็นเเง่มุมอีกมุมหนึ่ง มิได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม หากผิดพลาดประการใด ขออภัยครับ
เเบบสรุปสั้นกระชับ
ข้อดี
+มีอัตราเร่งที่ดีที่สุดในกลุ่มเบนซิน
+มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่ารุ่นเดิมมาก
+มีวัสดุเเละการประกอบภายในดีกว่า Honda ทุกรุ่น
+ระบบมัลติมีเดียเเละการดีไซน์ตำเเหน่งของอุปกรณ์ต่างๆใช้งานง่าย
+เบาะคู่หน้านั่งสบาย พนักพิงศีรษะไม่ดันหัว
+มีพื้นที่วางขาเบาะหลังกว้างที่สุดในกลุ่ม
+การเก็บเสียงผิดนิสัยปกติของ Honda
+ราคาถูกกว่า Toyota Camry 2.5G มาก
ข้อเสีย
-ช่วงล่างเเม้ดีขึ้น เเต่ยังไม่นุ่มหนึบเท่าที่ควร
-มุมเอียงของเบาะรองนั่งเเถวสองไม่ดี
-เบาะนั่งเเถวสองควรพับเเบบ 60:40 ได้
-การตกเเต่งบางจุดดูไม่หรูหราเหมือน G9 เเละคอลโซลกลางเบียดเข่า
-เเอบลดต้นทุนงานประกอบบางอย่าง
-งกออพชั่นหลายจุดมากเกินไป
-ขาดอุปกรณ์สำหรับรถผู้บริหารหลายอย่าง
-มีทางเลือกให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียว
เเม้ในยุค 2020 ตลาดรถยนต์ในเมืองไทยหรืออาจรวมถึงหลายประเทศในโลกนั้นลูกค้าส่วนใหญ่เทใจไปหากลุ่มรถอเนกประสงค์ SUV กันมากขึ้น ในกลุ่มรถยนต์นั่ง Passenger Car ก็ถูกลดความนิยมลงเรื่อยๆ เนื่องจากอรรถประโยชน์ในการใช้สอยของ SUV ที่มีมากกว่านั่นเอง
โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง Midsize Car หรือ D-Segment ซึ่งในบรรดารถญี่ปุ่นต้องถือว่าเป็นพี่คนโตสุดในห่วงโซ่อาหารของรถญี่ปุ่น
ความนิยมของรถกลุ่มนี้ลดลงมากที่สุด เเต่ละรุ่นค่อยๆหายตายจากไปตามกาลเวลา หรืออย่างล่าสุด Nissan Teana ก็ยังถึงคราวอวสาน ต้องโบกมือลาพวกเราไป
จนทำให้กลุ่มนี้เหลือรถขายอยู่เเค่ 2 รุ่น ซึ่งก็คือ Toyota Camry เเละ Honda Accord
ทั้งคู่ถือเป็นเจ้าตลาดของกลุ่มนี้เเละตลาดรถยนต์นั่งภาพรวมมานาน เเม้เมื่อก่อน Camry จะมียอดขายที่ดีกว่า Accord เเต่นับตั้งเเต่ปี 2013 มา ยอดขายของทั้งคู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน สลับกันเเพ้-ชนะทั้งในเรื่องยอดขายเเละประสิทธิภาพตัวรถ
เเต่ทั้งคู่ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ครับ
โดยอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดนี้ Honda Accord เเซง Toyota Camry ขึ้นไปอยู่อันดับ 1 เล็กน้อย อาจเนื่องจาก Camry ใกล้จะ minorchange นั่นเองครับ
ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึง Accord กันครับ
Honda Accord กำเนิดเมื่อปี 1976 ถือเป็นรถยนต์ Honda ที่เก่าเเก่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ Honda ที่ยังขายอยู่จนถึงทุกวันนี้ เป็นรองเพียงเเค่ Civic เท่านั้น เเละเป็นรถ Honda ที่มียอดขายสะสมทั่วโลกสูงเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียงเเค่ Civic เช่นกัน
คลิกอ่านประวัติ Civic ได้ที่นี่
1
สำหรับ Accord ถ้าท่านใดอยากทราบประวัติก็สามารถคอมเม้นมาได้นะครับ เดี๋ยวผมจะจัดให้ครับ เเต่ตอนนี้ขอข้ามประวัติไปสู่รุ่นปัจจุบันกันก่อนนะครับ
โดยในทุกวันนี้เนี่ยก็ถือเป็น Gen10 เเล้วนะครับ เปิดตัวที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการช่วง Motor Show 2019 ที่ผ่านมา
จุดเด่นของ Gen10 คือการเปลี่ยนโครงสร้าง Platform ตัวถังใหม่ซึ่งใช้ร่วมกับ Civic FC เเละ CRV Gen5 เน้นปรัชญา Low&Wide คือ เตี้ยเเละกว้าง ตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อได้สมรรถนะ อัตราสิ้นเปลือง เเละการขับขี่ที่ดีขึ้น เเต่ยังได้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น
1
เเละไฮไลต์คือการยกเลิกเครื่องยนต์ 2.0 เเละ 2.4 ลิตรที่ใช้มาตั้งเเต่สมัย Gen7 ทิ้งไป มาเเทนด้วยตัวเลือกใหม่ downsizing คือ เครื่องยนต์ 1.5 Turbo ที่ให้อัตราเร่งดีกว่า 2.4 เดิม เเละประหยัดกว่า 2.0 เดิมด้วย!!!
เพื่อที่จะได้เสียภาษีสรรพสามิตเเค่ 20% เพราะปล่อยมลพิษไม่เกิน 150 g/km
2
รวมถึงระบบส่งกำลังก็ยกเลิกเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะที่ลากใช้มานานมาเป็น CVT เเล้ว
ขณะที่ทางเลือกเครื่องยนต์นั้นนอกจาก 1.5 Turbo ใหม่เเล้ว ก็ยังมี 2.0 Hybrid ที่ถูกปรับปรุงใหม่เป็น version ที่ 3 ด้วยครับ
ราคาหลังการเปิดตัว มีดังนี้ครับ
รุ่น 1.5 Turbo EL CVT 1,475,000
รุ่น 2.0 Hybrid CVT 1,639,000
รุ่น 2.0 Hybrid Tech CVT 1,799,000
2
วันนี้เราจะมาเจาะลึกข้อดี-ข้อเสียกันในรุ่น 1.5 Turbo กันก่อนนะครับ
ข้อดี
-เครื่องยนต์ใหม่นี้ 1.5 Turbo รหัส L15BG เป็นบล็อคเดียวกับที่อยู่ใน Civic เลยครับ หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไม Accord เอาเครื่อง Civic มา เเต่จริงๆเเล้วบูสต์เทอร์โบต่างกันครับ โดย Accord จะถูกเซตเครื่องให้เเรงขึ้นเเปรผันตามน้ำหนักของตัวถังที่
มากกว่า Civic เเละมีการปรับจูนต่างๆที่เเตกต่างกัน ทำให้มีกำลังเเรงม้าถึง 190
เเรงม้า เเรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร(ขณะที่ Civic มี173 เเรงม้า 220 นิวตันเมตร/เครื่อง 2.4 เดิมมีเเค่ 174 เเรงม้า 225 นิวตันเมตร)ประกอบกับน้ำหนักตัวถังที่ลดลงจากโครงสร้างใหม่จนทำให้เบากว่าเดิมราวๆ 85 kg ทำให้ Accord Turbo มีอัตราเร่งที่ดุเดือดเลือดพล่านมากๆ
เเต่ไหนเเต่ไรมา Accord 2.4 จะเเพ้ Camry 2.5 ประจำเรื่องอัตราเร่ง เเต่มาคราวนี้ผมว่าไม่ใช่เลยครับ ตอบสนองได้ดีมาก บุคลิกเครื่องเหมือน Civic เลย คือ ช่วงต้นมีรอรอบนิดนึง เเต่หลังพ้น 50 km/h เเล้ว ก็จะไหลลื่นต่อเนื่อง รวมถึงเกียร์ CVT ใหม่นี้ก็ฉับไวฉลาด มีอาการรอบตกเวลาเปลี่ยนเหมือน Civic Turbo เลยครับ เเละยังมี Paddle Shift มาช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการอีกโดยที่เเทบจะไม่ต้องใช้ Sport Mode เลยครับ เมื่อเทียบกับ Camry 2.5 ถือว่าตัวนี้อัตราเร่งดีกว่าครับ อาจจะเพราะ Camry เสียเปรียบที่ใช้ล้อ 18 นิ้ว เเละการตอบสนองเครื่องเหมือนจะเน้นที่รอบปลายมากกว่า ส่วน Camry 2.0 ไม่ต้องพูดถึงครับ Accord Turbo กินขาดสุดๆ
1
-เนื่องจากเป็นเครื่องใหม่ที่เน้นการ downsizing เพื่อลดมลพิษ ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองรุ่นนี้ดีกว่า 2.4 เดิมมากครับ เช่น ถ้าขับทางไกลรุ่นเดิมอาจได้ 14 km/l เเต่นี่มี 16 km/l ได้เลยครับ เเม้อาจไม่ต่างจาก Camry 2.5 ขนาดนั้นในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเพราะทาง Camry ก็ได้เกียร์ 8 จังหวะมาช่วยส่วนหนึ่งครับ เเต่นี่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าก่อนมากเลยครับ
-ถ้าท่านใดจำกันได้หรือเคยได้สัมผัสก็จะรู้เลยครับว่า Honda เขาขึ้นชื่อเรื่องงานประกอบภายในห้องโดยสาร ตั้งเเต่ City, Jazz ไล่ขึ้นมา Civic, HRV ไม่เว้นเเม้เเต่ CRV งานประกอบค่อนข้างมีความไม่เเน่นหนา อย่างคอลโซลกลางที่เวลาโยกทีนึงส่ายระบำเลยครับ เเต่สำหรับ Accord ต้องบอกว่าเป็นพี่คนใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องครับ งานประกอบเเน่นหนามาก ไม่โยกเลย รวมถึงวัสดุต่างๆทั้งเเผงประตูเเละคอลโซลหน้าบุนิ่มไว้อย่างดี พลาสติกต่างๆไม่ก็อกเเก็ก เเละหนังที่หุ้มเบาะ ในภาพรวมวัสดุผมให้ดีกว่า Camry เล็กน้อยด้วยซ้ำครับ
-มีภายในที่เรียบง่ายสวยงามเเละใช้งานง่ายมากครับ ไล่ตั้งเเต่การที่หน้าจอเครื่องเสียงเป็นจอ 8 นิ้วที่ดูชัดดีกว่า Camry มากๆครับ ทั้งไหลลื่นทันนิ้วมือมากกว่า ตัวอักษรมีขนาดใหญ่เห็นได้ชัด เรียกว่าใช้จอคุณภาพดีรองรับ Apple Carplay เเละ Andriod Auto เเถมเเต่เดิมเนี่ยมันจะเป็น Touchscreen ล้วนถูกมั้ยครับ คราวนี้เขาปรับมามีปุ่มด้านข้างให้กดได้เเล้วรวมถึงการปรับเพิ่ม-ลดเสียงเเบบหมุนที่ใช้งานง่ายกว่าการสัมผัสจอ หรือจะเป็นสวิตซ์เเอร์(ที่หน้าตาเหมือน City)เเยกปุ่มหมุนไว้ 3 ปุ่มทั้งอุณหภูมิ 2 ฝั่งเเละพัดลมทำให้ง่ายต่อการใช้งานกว่า Camry เเถมมีลูกเล่นเวลาปรับเเอร์ร้อนขึ้น มีไฟสีเเดงขึ้น เวลาปรับเเอร์เย็นลง มีไฟสีฟ้าขึ้น กันการสับสนครับ ขณะที่พวงมาลัยนั้นเเยกสวิตซ์ชัดเจนครับว่าควบคุมเครื่องเสียงเเละหน้าจอต่างๆอยู่ฝั่งซ้ายเเละด้านขวาเป็น Criuse Control ไม่ใช่ปนมั่วไปหมดเหมือนของ Camry อีกทั้งมาตรวัดยังคงใช้เป็นเเบบเข็มอนาล็อคฝั่งขวา ฝั่งซ้ายเป็นดิจิตอลใช้จอ TFT 7 นิ้วที่เนียนตามากครับ เเยกไม่ออกว่าเป็นฝั่งไหนเป็นเข็ม ตัวเลขเเละตัวอักษรมีขนาดใหญ่เห็นชัด ภายในโดยรวมดูทันสมัยเเถมใช้งานง่ายมากครับ
-มีเบาะนั่งคู่หน้าที่สบายสุดๆครับ เพราะเบาะรองนั่งยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม รองรับต้นขาดีขึ้น พนักพิงหลังนั้นออกเเนวสปอร์ตขึ้น คือ กระชับขึ้น เเต่ยังคงความสบายเเบบเดิม ยิ่งถ้าเป็นฝั่งคนขับจะปรับดันหลังไฟฟ้าได้ 4 ทิศทางด้วย ทำให้นั่งนานๆเเล้วหลังไม่จม รวมถึงเบาะมีขนาดใหญ่ไปจนถึงส่วนบนทำให้รองรับไหล่ได้ดี เเละที่ผมชอบมากๆคือพนักพิงศีรษะครับ นุ่มเเน่น มีขนาดใหญ่รองรับหัวได้พอดีเเละไม่ดันหัว เพราะของ Camry จะดันหัวมากจนทำให้นั่งเเล้วไม่สบายส่วนหัวเลยครับ
-จากการขยายฐานล้อเป็น 2830 มม.(เพิ่มขึ้น 55 มม.)ทำให้ Accord มีพื้นที่วางขาเบาะหลังที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิมเเละใหญ่กว่า Camry เสียอีกครับ legroom นี่สามารถยืดเเข้งยืดขาได้สบายเลย รวมถึงเเม้ท้ายรถจะดูลาดเเละเตี้ย เเต่ยังคงให้พื้นที่ headroom ได้ใกล้เคียงกับรุ่นเดิมเเละ Camry เลยครับ มาจากการปรับตำเเหน่งเบาะนั่งให้ต่ำลงนั่นเอง ใช้วิธีเดียวกับ Civic รวมถึงมีกระจก opera ที่เสา C-Pillar ทำให้ทัศนวิสัยเบาะหลังดูปลอดโปร่ง ผิดจากภายนอกครับ
-ปกติเเล้ว Honda ในอดีตมักขึ้นชื่อเรื่องการเก็บเสียงครับ เก็บเสียงดีมาก "เก็บเข้ามาทุกเสียง"เเต่คราวนี้ Accord ทำได้ดีจนน่าประหลาดใจเลยครับ ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างใหม่รวมถึงการประกอบส่วนหลังคาที่มีการใช้เลเซอร์เบรดเชื่อมระหว่างเฟรมรถกับตัวถังเเทนที่จะใช้ยางสีดำ
เเบบดั้งเดิมเชื่อม เเละมีระบบควบคุมเสียงเข้าห้องโดยสาร ANC โดยระบบนี้จะสร้างคลื่นเสียงมาหักล้างกับเสียงรบกวนภายนอก เเละมีการฉีดอัดโฟมเพิ่มตามจุดต่างๆโดยเฉพาะท่อนล่างของรถที่เป็นจุดอ่อนของ Honda ทำให้ภาพรวมห้องโดยสารเงียบมาก เก็บเสียงได้ดีกว่า Camry ครับ
-ด้วยความที่มีรุ่นย่อยเดียวซึ่งราคาอยู่ที่ 1,475,000 ทำให้เมื่อเปรียบเทียบราคากับ Camry เเล้ว Accord ถูกกว่ามากๆครับ หากเทีบบกับ 2.0G เเล้วนั้นมีราคาอยู่ที่ 1,459,000 เเต่เรื่องอัตราเร่งสมถรรนะห่างกันมากครับ หรือถ้าอยากเอารุ่นที่อัตราเร่งใกล้เคียงกันก็ต้องเป็น 2.5G ซึ่งราคาอยู่ที่ 1,599,000 ต่างกันถึง 124,000 บาท ทำให้ Accord ดูราคาเข้าหาง่ายกว่ามากๆเลยครับ
ทีนี้เรามาดูข้อเสียกันบ้างดีกว่า
1
-เเม้รุ่นนี้จะใช้โครงสร้างใหม่ตามปรัชญา low&wide เหมือน Civic เน้นหลักอากาศพลศาสตร์เพื่ออัตราเร่งเเละอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นรวมถึงความสปอร์ตเเละการขับขี่ที่สนุกสนานมั่นใจ ถ้าถามว่า Accord Gen10 ดีกว่า Gen9 มั้ย คำตอบ คือ ดีกว่ามากๆครับ ทั้งในเเง่การซับเเรงสั่นสะเทือนที่ดีขึ้น อาการตึงตังเเบบรถ C-Segment อย่างที่รุ่นก่อนเป็นลดลงชัดเจน เเละมีความมั่นใจในการเล่นบทบู๊หรือการเข้าโค้งที่ดีกว่าเดิมมาก เพียงเเต่ถ้าเทียบกับ Camry ที่ใช้โครงสร้างใหม่เเบบ TNGA นั้น Accord ยังคงตามหลังเขาอยู่ครับ ใน Accord นั้นช่วงล่างด้านหลังจะยังหลงเหลืออาการส่ายเเละยวบยาบอยู่เมื่อถนนไม่เรียบเเละเล่นบทโหด เเละความตึงตังก็ยังคงมีให้รู้สึกได้มากกว่า Camry อยู่นิดนึง ตรงนี้ก็ฝากให้รุ่นต่อไปปรับจูนตรงนี้อีกเล็กน้อยช่วงล่างก็จะสมบูรณ์เเบบครับ
-เเม้เบาะเเถวสองจะมีพื้นที่กว้างขวางมากที่สุดเเละตัวเบาะก็เหมือนกับว่าจะทำออกมาดีเเล้ว ทว่าจุดที่ต้องปรับปรุงคือมุมเงยของเบาะรองนั่งครับ ไม่รู้จะตรงไปไหน ทำให้ไม่รองรับต้นขาเลย ซึ่งปัญหานี้เป็นเหมือน CRV Gen5 เป๊ะเลย สงสัยอาจเป็นโรคติดต่อมาครับ เนื่องจากตัวเบาะถูกกดให้ต่ำลงเพื่อที่จะคงพื้นที่ headroom เอาไว้ เเต่เบาะรองนั่งกับไม่เชิดขึ้นทำให้นั่งเเล้วเมื่อยขาครับ เเต่ถ้านั่งเเบบไถลตัวไปข้างหน้าก็จะเเก้ปัญหานี้ได้ครับ(เเต่หลังน่าจะมีปัญหาเเทน)
-ปกติเเล้ว Honda เป็นรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความอเนกประสงค์เเละอรรถประโยชน์ในการใช้สอยนะครับเเต่ว่าทำไม Accord นั้นไหนๆก็อุตส่าห์ทำเบาะหลังให้พับได้เเล้ว ทำไมถึงไม่ทำให้มันพับเเบบ 60:40 ได้ละครับ อันนี้มีเเต่เเบบพับ 100 คือพับทีเดียวทั้งชิ้นเลย เป็นมากี่ Gen เเล้วเนี่ย โอเคละ เเม้ Camry พับเบาะหลังไม่ได้เลย หรืออย่างรุ่นน้อง Civic/City ก็พับไม่ได้ เเต่ในเมื่อ Accord ทำให้มันพับได้ก็ต้องเเยกฝั่งสิครับ เเบบนี้สมมติว่าไปกัน 4 ท่านเเล้วเกิดต้องขนของ เช่น ไม้กระดานโต้คลื่น เเทนที่จะพับเบาะส่วน 40 เเล้วนั่งได้ 4 ท่าน กลายเป็นว่านั่งได้เเค่ 2 ท่าน สรุปคือออกเเบบมาดีไม่สุด
-ใน Gen9 นั้นผมค่อนข้างชอบภายในห้องโดยสารมากเลยครับเพราะมันดูอลังการงานสร้างมาก มีจอเเสดงผล 2 จอ คอลโซลมีเส้นสายพริ้วเเถมการตกเเต่งลายไม้เเละ piano black เเบบมันวาว(เเบบที่เป็นรอยเลอะได้ง่าย)ทำให้ห้องโดยสารดูมีสีสันที่สุดใน segment มาวันนี้ Gen10 มีภายในที่ผมว่าก็ยังคงสวยกว่า Camry อยู่ดีครับ เเต่ว่าความอลังการมันถูกเเทนที่ด้วยความเรียบง่ายเเละความเป็นสไตล์ยุโรป ถ้าเป็นภายในสี
เบจก็ถือว่าสวยครับ เเต่ถ้าเป็นภายในสีดำนี่ผมมองว่าจืดสนิทเลยครับ(สีภายในตามสีภายนอก ถ้าภายนอกสีเงินหรือขาว ได้ภายในสีดำ ถ้าภายนอกสีดำหรือเทา ได้ภายในสีเบจ พูดง่ายๆว่าข้างนอกเข้มข้างในอ่อน)
ส่วนหนึ่งเพราะงานออกเเบบที่เอาใจชาวอเมริกันที่เป็นกลุ่มตลาดหลักมากขึ้น ส่งผลให้ภายในไม่อลังการเท่าเดิม ซึ่ง Camry เองก็เจอปัญหานี้เช่นกันครับ เเต่ Accord ใช้ลายไม้เเบบด้านเเละพลาสติกสีเงินเข้ามาโดยเฉพาะคอลโซลกลางครับที่ดูไม่หรูหราเท่ารุ่นก่อน รวมถึงคอลโซลกลางกว้างขึ้นจนมาเบียดเข่าคนนั่งหน้าครับ เเม้จะมีการบุนุ่มคอลโซลกลางเเล้วก็ตามเเต่ก็ยังถือว่ายังไม่สบายเข่าครับ รุ่นต่อไปคอลโซลกลางควรจะลดความกว้างลงหรือไม่ก็กดให้ต่ำลงครับ จะทำให้การโดยสารด้านหน้าทำได้ดีขึ้นอีก
1
ภาพบน คือ Accord Gen9 Hybrid เเละภาพล่าง คือ Accord Gen10 1.5 Turbo ครับ
-ถึงงานประกอบภายในห้องโดยสาร Accord จะดูดี เเต่ห้องเครื่องนี่ไม่ไหวเลยครับ555 อย่างกะ Civic ที่ผมเคยตำหนิไปเลย ดูค่อนข้างรกรุงรัง เเถมไม่มีฝาครอบเครื่อง รวมถึงรถราคาขนาดนี้ ให้ล้ออะไหล่เเบบล้อชั่วคราวไม่ใช่ล้อเเม็กที่ติดรถมาด้วย ลดต้นทุนไปหน่อยนะครับ เเต่คาดว่าอาจเป็นเพราะถ้าใส่ล้ออะไหล่ใหญ่มาอาจทำให้มลพิษเกิน 150 g/km จนเสียภาษีอีกเรตนึงหรือเปล่า เขาเลยไม่ใส่มาให้ครับ
-ออพชั่นนั้นอย่างที่บอกครับว่าการที่ราคาถูกกว่า Camry 2.5G ขนาดนี้ก็เเลกกับออพชั่นที่หายไปเยอะมาก ตั้งเเต่
-ไฟตัดหมอกคู่หน้า
-Memory กระจกมองข้างเชื่อมต่อกับเบาะ
-กระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำเเละปรับมุมมองอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง -Sunroof
-Wireless Charger
-ไฟภายในห้องโดยสารเเบบ LED
-กระจก One Touch ทั้ง 4 บาน
-ถุงลมนิรภัยหัวเข่าคนขับ
-เซนเซอร์กะระยะถอยจอดด้านหน้าเเละหลัง
-ระบบตรวจวัดเเรงดันลมยาง TPMS
-ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านด้านหลัง RCTA
เเม้จะชดเชยมาด้วย Engine Remote Start, ระบบ Easy Entry/Exit เเละระบบหน้าจอที่ดีกว่ารวมถึงรองรับ Apple Carplay เเละ Andriod Auto เเต่ภาพรวมก็ถือว่าออพชั่นน้อยกว่าเขาอยู่ดีครับ
-ข้อนี้ผมก็ไม่เข้าใจนะครับ คือ ออพชั่นหลายๆอย่างที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ล้วนเป็นสิ่งที่รถผู้บริหารควรมี หรือพูดง่ายๆว่าเป็นออพชั่นพื้นฐานของรถ D-Segment ซึ่งใน Gen9 รุ่น 2.0 เเละ 2.4 EL ยังมีสิ่งเหล่านี้เลยครับ ได้เเก่
-ม่านบังเเดดที่ด้านข้างประตูหลัง
-ม่านบังเเดดที่กระจกหลังเเบบไฟฟ้า
-กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลังเเละลดการเกาะตัวของหยดน้ำ(2.4 EL มี)
-ไฟเเต่งหน้าที่เเผงบังเเดดคู่หน้า(2.4 EL มี)
-กระจกมองหลังปรับลดเเสงอัตโนมัติ
-สวิตซ์ปรับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านหลังได้
-ไฟตัดหมอกคู่หน้าเเบบ LED
มันเป็นสิ่งที่รถ Segment นี้ควรจะมีอยู่
เเล้วนะครับ เพื่อที่จะได้อำนวยความสะดวกต่อผู้บริหารหรือใครก็ตามเเต่ เเถมสิ่งใหม่ๆที่ Gen9 ไม่มีเเละ Gen10 ควรจะเพิ่มเข้ามาก็ดันไม่เพิ่มเข้ามา เช่น เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าเเค่ 4 ทิศทาง ทำไมไม่ทำ 8 ทิศทางสักที หรืออย่างช่องชาร์จไฟสำหรับผู้โดยสารตอนหลังก็ไม่มี ทำให้จุดนี้ Camry กินขาดเเบบไม่เห็นฝุ่นครับ
-ผมเข้าใจนะครับว่าด้วยต้นทุนของเครื่องยนต์เเละเกียร์ใหม่ค่อนข้างสูง เลยทำให้ต้องตัดออพชั่นเหล่านั้นไป คำถาม คือ เเล้วทำไมคุณพี่ไม่ทำรุ่น Top มาด้วยละครับ เช่น ทำรุ่น 1.5 Turbo Tech เพิ่มออพชั่นเหล่านั้นเข้าไป เเละตั้งราคาสักราวๆ 1.525-1.545 ล้าน ทีนี้ละครับจะสู้กับ Camry 2.5G ได้สนุกขึ้นเพราะออพชั่นเทียบได้เเล้วเเถมราคายังถูกกว่าอีกต่างหาก เเบบนี้ดท่ากับบีบบังคับให้ลูกค้าไปซื้อ Hybrid มากเกินไป
เพราะออพชั่นเอาไปกองที่ Hybrid หมดเลย
เสียกลุ่มลูกค้าที่อยากได้ออพชั่นเยอะเเต่ไม่เอา Hybrid ไปโดยใช่เหตุครับ
สรุป-ถึงเสื้อผ้าดูธรรมดา เเต่ผิวพรรณงดงาม เเถมนิสัยน่ารักด้วย
ต้องบอกเลยว่าเมื่อเรากางโบรชัวร์ดูออพชั่น Accord Turbo เเล้ว หลายท่านอาจส่ายหน้าเบินหนี ไม่ว่าจะจากหน้าตาในเเคตตาล็อคหรือจะเรื่องออพชั่นหลายจุดที่เเห้งเเล้งกว่ารุ่นเดิมเเละ Camry เเถมเครื่องก็เเค่ 1.5 เเบบ Civic ทั้งๆที่รถคันใหญ่ขนาดนี้ บลาๆๆๆ
เเต่รถยนต์ก็เหมือนคนนี่เเหละครับ ดูเเค่รูปบนปกไม่ได้ ต้องลองเจอตัวจริง หรือลองคุยกันก่อนว่าเขาเป็นยังไง หรืออย่างอาหารต้องสั่งมาทานก่อน อย่าดูเเค่ในเมนูเเล้วตัดสินใจไปก่อนว่าเป็นยังไง
เมื่อเรามาดู Accord Gen10 ต้องบอกว่าเขาทำการบ้านมาได้ดีมากๆนะครับ เเก้จุดบกพร่องใน Gen9 ไปได้เยอะมากเลย เพราะในรุ่นก่อนนั้นนอกจากเเผงหน้าปัดที่ดูอลังการเเละดีไซน์รถทั้งคันที่ดูสวยใช้
งานง่ายเเล้ว หลายๆด้านของตัวรถก็สู้กับคู่เเข่งกับ Camry ไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะเรื่องสมถรรนะอัตราเร่งที่เเพ้มาตลอดตั้งเเต่ไหนเเต่ไร ไหนจะบุคลิกการขับขี่ที่ดูคล้าย C-Segment มากจนเสียภาพลักษณ์หมด
จุดที่ผมชื่นชอบหลักๆ คือ เครื่องยนต์ใหม่นี้ครับ ที่ให้สมรรถนะดีกว่า 2.4 เดิมมาก จนเเอบเเซง Camry 2.5 เเล้วด้วยซ้ำ ตอบสนองทันใจ กดเเค่ครึ่งคันเร่งก็สามารถพารถทะยานไปได้เเล้ว เกียร์ CVT ใหม่ก็ทำตัวไม่น่าเบื่อเลยครับ ถึงเเม้ตอนเเรกหลายท่านอาจจะกังวลว่าถ้าเปลี่ยนจากเกียร์ 5
สปีดมาเป็น CVT เเล้ว อารมณ์ความรู้สึกจะยังคงความสนุกมั้ย คำตอบ คือ มีครับ มีอาการรอบตกเวลาเปลี่ยนเกียร์สร้างความเร้าใจเหมือนเกียร์ออโต้เเบบดั้งเดิม เเถม
การมี Paddle Shift ก็ช่วยในเรื่องการเร่งเเซงเเละการเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการมากขึ้นครับ เเถมเราได้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นมากด้วยจากเครื่องที่เล็กลง ส่งผลไปถึงอัตราการเสียภาษีสรรพสามิตในเรตที่ถูกลงจากการที่ปล่อยมลพิษน้อยลง เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
เเละอีกจุด คือ ภายในห้องโดยสารที่เเม้ว่าจะลดทอนความอลังการลงไป เเต่ชดเชยมาด้วยความเรียบง่ายเเละ user friendly ที่ผมชอบมากๆครับ ตั้งเเต่หน้าจอเครื่องเสียงใหม่ที่เปลี่ยนจากเเบบสัมผัสทั้งจอมาเป็นปุ่มควบคุมใช้งานง่ายขึ้นมาก เเผงเเอร์ก็ใช้งานง่าย ไหนจะมาตรวัดที่ทันสมัย ดูง่าย
พวงมาลัยก็มีตำเหน่งสวิตซ์ที่ดี เรียกได้ว่าในเเง่ของการใช้งานจริงเนี่ยครับ เขาทำการบ้านมาอย่างดีเยี่ยม รวมถึงพื้นที่โดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายมากๆ
ขณะที่จุดอ่อนเดิมเรื่องช่วงล่าง พวงมาลัยเเละการเก็บเสียงก็ถูกปรับปรุงให้มีความเป็นรถ D-Segment มากขึ้น ทั้งพวงมาลัยหนืดเเละนิ่งขึ้น ไม่เบาโหวงเหวงเเบบเดิม ช่วงล่างลดเเรงสั่นสะเทือนเเต่เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น จนใกล้เคียง Camry มากขึ้นกว่าเเต่ก่อน(เพราะ Camry เองก็ก้าวกระโดดเช่นกัน)อีกทั้งการเก็บเสียงก็ยังยอดเยี่ยมผิดวิสัย Honda เพราะเพิ่มระบบ ANC จนการโดยสารเเละการขับขี่ทำได้ดีสมราคามากขึ้น
อย่างไรก็ตามยังมีจุดที่ยังต้องปรับปรุง คือ ในเรื่องของออพชั่นครับ ผมไม่เข้าใจว่าหลายๆอย่างเนี่ยมันน่าจะมีอยู่เเล้วในรถกลุ่มนี้ อย่างเช่น ม่านบังเเดด กระจกตัดเเสงอัตโนมัติ ช่องชาร์จไฟเบาะหลัง ปุ่มเลื่อนเบาะหน้าจากด้านหลัง เเละอื่นๆอีกมากมายที่หาไป ผมว่ามันเป็นพื้นฐานอะครับ หลายๆอย่างรุ่นเดิมก็มี เเต่ทำไมรุ่นนี้เหมือนลดทอนสิ่งเหล่านี้ออกไป ทั้งๆที่รุ่นนี้ก็เสียภาษีสรรพสามิตเพียง 20% เพราะมลพิษต่ำกว่า 150 g/km เเถมเติม E85 ได้ ก็น่าจะใส่ออพชั่นพวกนี้เข้ามาได้บ้าง เเม้ว่าเครื่องยนต์ต้นทุนอาจจะสูงก็ตาม
หรือถ้าจะเป็นออพชั่นนี้จริงๆ ทำไมไม่ทำรุ่นท็อปออกมาละครับ อย่างทำรุ่น 1.5 Turbo Tech เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ อุดช่องว่างทางการตลาด เเละจะได้ไม่มีข้อกังขาเวลาเทียบกับ Camry 2.5G ว่าเห้ยรุ่นนี้ออพชั่นน้อยกว่า เเละจะได้วัดได้ด้วยว่าลูกค้าไทยชอบเครื่อง Turbo หรือ Hybrid มากกว่ากัน
ไม่ใช่กะจะขายเเต่ Hybrid อย่างเดียวเพียงเพราะว่า Hybrid เสียภาษีสรรพสามิตเพียงเเค่ 4% เลยอัดออพชั่นเยอะๆที่ Hybrid หมด
ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆครับ เช่น มุมเอียงของเบาะรองนั่งด้านหลัง ทำไมเบาะหลังพับเเยกไม่ได้ คอลโซลกลางเบียดเข่าไปนิดนึง เเละอื่นๆอีกเล็กน้อยที่ยอมรับได้
ถ้าถามว่าเหมาะกับใคร เเน่นอนครับเหมาะกับท่านที่อยากได้รถขนาดใหญ่ ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ชอบภายในที่เรียบหรูใช้งานง่าย ฟังก์ชันต่างๆทันสมัย อยากได้สมถรรนะที่เเรงเล่นสนุกได้เเละความเงียบสบายในการเดินทาง พูดง่ายๆว่าขับรถไปกับครอบครัวได้ เเละพอพาลูกกับภรรยาลงจากรถเเล้ว ก็สามารถเอาไปซิ่งได้ หรือจะเอาไปเเต่งต่อก็ได้ ประหยัดน้ำมันอีกต่างหาก เเต่อาจจะไม่ใช่สายเน้นออพชั่นหรืออุปกรณ์จุกจิกมากนัก เเละที่สำคัญ คือราคาเข้าหาง่ายกว่า Camry 2.5G มากครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้นละก็
Accord Turbo คือ คำตอบครับ
สุดท้ายนี้เหมือนเดิมครับ ทุกครั้งที่เจาะลึกรถ Honda ขอฝากถึงทาง Honda ครับที่ผ่านมานั้นในเรื่องของ defect ต่างๆของตัวรถนั้นเรารู้ว่าทาง Honda มีความพยายามในการเเก้ไขเเล้ว เเต่ต้องยอมรับว่าในช่วงตั้งเเต่ปี 2012 ขึ้นมานั้น รถ Honda มี defect จุกจิกค่อนข้างเยอะ มีข้อผิดพลาดในเรื่องที่ไม่ควรเกิด เช่น ยางขอบประตูติดมาไม่ดี การประกอบที่ดูไม่เนี๊ยบ รวมถึงศูนย์บริการที่ดร็อปลงกว่าเมื่อก่อน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยากให้ทาง Honda นำไปปรับปรุงเเก้ไขให้ดีเหมือนยุค 1990 ที่ Honda เข้ามาตลาดเมืองไทยใหม่ๆโดยชูจุดขายเรื่องบริการหลังการขายเเละความทนทานครับ Honda มีวันนี้ได้เพราะวันนั้น ซึ่งอยากให้ Honda ไม่ลืมอดีตของตัวเองครับว่าทำไมถึงมีวันนี้ ย้อนกลับไปดูรากเหง้าของตัวเองสมัยก่อนเเละไม่ละทิ้งมัน ในฐานะที่เป็นเเฟน Honda คือ ไม่อยากให้ Honda ด้อยลงเพราะเรื่องเเบบนี้ครับ อยากให้ Honda นำไปเเก้ไข ดู
จากเเฟนของ Honda อย่าง Izuzu เป็นตัวอย่างที่เขามีศูนย์บริการที่ดีมากที่สุดเลยก็ว่าได้ในทุกเเบรนด์ เรื่องของความทนทาน ไว้ใจได้ เเละเอาใจใส่ลูกค้า เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เขาเป็นยักษ์ใหญ่เบอร์ 2 ในตลาดรวมมาหลายสิบปีจนถึงทุกวันนี้ คนซื้อก็พากันติดอกติดใจ ส่วน Honda ที่ทุกวันนี้รถขายได้เพราะตัวรถครับ รวมถึงความเชื่อเรื่องศูนย์บริการดี เเต่ถ้าในอนาคต Honda ไม่ได้ปรับปรุงเรื่องนี้อาจทำให้ตำเเหน่งยักษ์เบอร์ 3 ในตลาดรวมที่ตัวเองครองมาตั้งเเต่ช่วงปี 2000 เเละเจ้าตลาดรถเก๋งสูญเสียไปเเบบกู่ไม่กลับเหมือนยี่ห้ออื่นๆในสมัยก่อนครับ ถ้าปรับปรุงเรื่องบริการเเละความทนทานได้เเละตัวรถยังคงทำมาดีขึ้นเรื่อยๆต่อไปเเบบที่กำลังทำอยู่จะทำให้ Honda ยั่งยืนเเข็งเเกร่งในเมืองไทยตลอดกาลครับ
เเละทั้งหมดนั่นละครับ คือ การเจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย Honda Accord 1.5 Turbo EL
อย่าลืมนะครับ ถ้าชอบบทความเเบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดเเชร์ กดฟอลโลว์กันนะครับ
1
ติดตามบทความย้อนหลังของ Carman ที่นี่
ใครมีความรู้สึกยังไง, มีข้อเสนอเเนะสามารถคอมเม้นลงมาที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ
วันนี้ Carman ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา