VR ความจริงเสมือน ในโลกเสมือนจริง
เนื่องจากเมื่อวานได้เขียนถึงเรื่องราวและ Use Case ต่างๆของ AR ไป วันนี้ทางผมจึงจะมาแนะนำเทคโนโลยีที่มักจะมาคู่กันเสมอกับ AR นั่นก็คือ VR (Virtual Reality) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีให้ผู้ใช้เข้าสู่โลกเสมือนจริงได้แบบเป็นเต็มรูปแบบ ไม่ได้เป็นเพียงวัตถุทับซ้อนเหมือนกับ AR ดังนั้นมันจึงเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งรอบตัวชนิดสามร้อยหกสิบองศารอบตัว ตั้งแต่พื้นจรดท้องฟ้า ตามแต่ผู้สร้างโลกเสมือนจริงนั้นจะใส่รายละเอียดมากน้อยเพียงใด
ถ้าจะถามว่า Concept VR นั้นมาจากอะไร และเมื่อไหร่ ก็ต้องย้อนกลับไปประมาณช่วงทศววรรษ 1960 ซึ่งได้มีการสร้างเครื่อง Sensorama ซึ่งเป็นเครื่องฉายหนังสามมิติเครื่องแรกๆของโลกขึ้น ซึ่งก็ตอบว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์และแรงบันดาลใจที่จะทำให้สิ่งแวดล้อมในหนังมาอยู่รอบตัวจริงๆ ไม่ใช่อยู่บนหน้าจอแบนๆเป็นแค่สองมิติ คือจุดเริ่มต้นความฝันของ VR อันยาวนานมาแล้ว
Sensorama เครื่องฉายหนังสามมิติยุคปี 60
ปัจจุบัน VR ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในโรงภาพยนตร์อีกต่อไป อุปกรณ์เริ่มมีราคาถูกลงเพียงพอที่คนธรรมดาจะไปซื้อหามาทดลองได้ที่บ้าน และที่สำคัญผู้ใช้งานยังสามารถมีส่วนร่วมได้อีกด้วยไม่จำเป็นที่จะต้องมองภาพอย่างเดียว ถ้าถึงตรงนี้ท่านใดยังนึกไม่ออกให้นึกถึงภาพยนตร์ Ready Player One ซึ่งฉายไปเมื่อปีที่แล้วของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ดูครับ อันนั้นคือแทบจะเป็นปลายทางของ VR ที่เข้าสู่ผู้ใช้งานแต่ละบ้าน มีแว่นตาครอบหัว (HMD-Head Mounted Display) มีอุปกรณ์เป็นชุดสวมใส่ที่จะวัดระดับการสัมผัสของโลก VR มาโลกจริง และมีรางเลื่อนสำหรับเดิน เพื่อให้ผู้ใช้สัมผัสได้ถึงความเสมือนจริงมากกว่าที่ตาเห็น
ขนาดดูแค่ในภาพยนตร์เรายังรู้สึกอยากลองสวมใส่อยากลองเข้าไปในโลก VR บ้าง แน่นอนสิ่งที่ VR จะมาเปลี่ยนหรือมาช่วยสิ่งแรกก็คือเรื่องอุตสาหกรรมบันเทิงก่อนเลย รูปแบบด้านภาพและการมีส่วนร่วมจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการชมภาพยนตร์และการเล่นเกมแน่นอน
มาดูจากตัวเลขของเกมกันก่อนเลยว่า VR ใหญ่เพิ่มขึ้นขนาดไหน จากข้อมูลของ Statista ในปี 2015 นั้นมูลค่าของ VR ในอุตสาหกรรมเกมมีเพียง 660 ล้านเหรียญ โดยในปี 2019 ปีปัจจุบันซึ่งผ่านไปเพียงสี่ปีประมาณการว่า ตลาด VR ในส่วนอุตสาหกรรมเกมใหญ่ขึ้นมีมูลค่าถึง 15,100 ล้านเหรียญ หรือเกือบ 23 เท่า ไม่น่าประหลาดใจเท่าไหร่เมื่อราคา Hardware มันลดลงในราคาที่พอจับต้องได้ คนก็อยากซื้อหามาทดลองเป็นธรรมดา ที่สำคัญหลายๆค่ายก็นำทั้งเกมเก่าเกมใหม่มาใส่โหมด VR ให้ผู้เล่นได้มีโอกาสัมผัสเกมในรูปแบบใหม่ ทำให้เกมเก่าที่มีโหมด VR กลับมาขายได้อีกครั้ง
จากตัวเลขในอุตสาหกรรมเกม VR กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ
ตัวอย่าง VR เกมครับ
แม้อุตสาหกรรมบันเทิงจะเป็นตลาดมูลค่าใหญ่ แต่ประโยชน์ของ VR มันก็มีอย่างอื่นอีกมากมาย เรามาดูกันครับ
การฝึกอบรม บริษัทใหญ่ๆเริ่มนำ VR เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรมแล้ว ถ้าจะให้วิเคราะห์ก็คือ โดยระยะยาวต้นทุนการฝึกอบรมจะถูกกว่า เพราะเราไม่จำเป็นต้องสร้างโรงงานหรือสถานที่จำลองสำหรับช่าง แล้วเราก็ยังสามารถเปลี่ยนฉากหรือจำลองเหตุการณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยโดยไม่ต้องกลัวว่าคนจะได้รับบาดเจ็บหรือสิ่งของจะได้รับความเสียหายจริงอีกด้วย
มาดูการฝึกอบรมของ KFC ผ่าน VR กันครับ
อันนี้ของ TOYOTA ครับ ถ้าดูอันนี้จะเข้าใจครับว่าซ้อมเสี่ยงได้ โดยไม่ต้องเอาตัวเข้าเสี่ยงคืออะไร
จากข้อมูลของ eMarketer ในปี 2016 บริษัทใหญ่ๆได้นำ VR มาเป็นส่วนหนึ่งในการอบรมถึง 39% เลยทีเดียว
บริษัทใหญ่ๆเริ่มนำ VR มาเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรม
มาดูเรื่องงานขายกันบ้างครับ อันนี้คือการสร้างห้างสรรพสินค้าจำลองไปเลย ต่อไป สามารถไปเดินห้างโดยไม่ต้องออกจากบ้านแล้วครับ เดินในโลก VR จับจ่ายซื้อของสนุกได้ ไม่ต้องไถหรือเลื่อนโทรศัพท์เฉยๆแล้ว ;-)
ไปดู VDO ของ Alibaba Group กันครับ
ดู VDO สนุกกันไปหลายเคสครับ มาถึงเคสสุดท้ายแล้วไม่มี VDO ครับ แต่มีข้อมูลมาให้อ่านกันครับ ไม่ใช่ว่า VR จะทำได้ดีเฉพาะด้านความบันเทิงหรือการฝึกอบรมนะครับ ในทางการแพทย์ก็ได้รับการยอมรับเช่นกัน โดยในปี 2016 ทางมหาวิทยาลัย Duke ก็มีการยืนยันว่า VR นั้นสามารถช่วยผู้ป่วยที่มีอาการ Spinal Cord Injuries หรืออาการบาดเจ็บไขสันหลังสามารถฟื้นตัวในกลับมาเคลื่อนที่ได้ครับ
ก่อนจากกันไป อยากชวนให้คิดกันว่าเทคโนโลยีใหม่ๆเริ่มก้าวเข้ามามีบทบาทส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันกันอย่างรวดเร็วแล้วนะครับ แม้ประเทศไทยอาจจะออกตัวช้ากว่าประเทศอื่นๆ แต่ซักวันเทคโนโลยีพวกนี้ก็จะมาถึงไม่ช้าก็เร็วครับ ดังนั้นจึงอยากชักชวนท่านผู้อ่านหันมาติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อพร้อมรับมือกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ครับ สวัสดีครับ
อ้างอิง
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
