Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
3kokstartup
•
ติดตาม
8 ก.พ. 2019 เวลา 10:53 • ธุรกิจ
บทที่ 20 วิสัยทัศน์ มังกรหลับ (zhuge liang's vision)
เหตุการณ์สำคัญ
ค.ศ.207 เล่าปี่อายุ 47 ปี โจโฉอายุ 53 ปี ซุนกวนอายุ 26 ปี ขงเบ้งอายุ 27 ปี
เล่าปี่ได้ขงเบ้งเป็นที่ปรึกษา
ตั้งแต่ได้ร่วมงานกับตันฮก เล่าปี่ก็รู้ซึ้งว่าการมีกุนซือ ที่ปรึกษาเป็นนักปราชระดับด็อกเตอร์เลยนั้นสามารถสร้างความแตกต่างในการวางกลยุทธิ์การแข่งขัน กับองค์กรอื่นได้อย่างมากมายมหาศาล
แม้นจะมีขุนผลมือหนึ่งเป็นยอดนักขายอยู่หลายคนแต่ก็ไม่สามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ถ้าขาดกลยุทธ์และแผนการณ์ที่ดี
ดังนั้นหลังจากได้ยินถึงความเก่งกาจและทราบถึงที่อยู่ของนักปราชมังกรหลับขงเบ้งแล้ว เล่าปี่ก็อดจะตื่นเต้นกระสันอยากจะได้ตัวมาร่วมงานจนเนื้อเต้นไปหมด
แม้นจะอยู่ในฤดูหนาวของประเทศจีน ที่หนาวจนแม้นการศึกสงครามก็ยังต้องพักรบไม่เดินทัพกันในช่วงนี้เพราะสภาพอากาศโหดร้ายทารุณมาก แต่เล่าปี่ก็อดทนรอจนผ่านหน้าหนาวไม่ไหว
แม้จะอายุมากแล้วก็ยังดั้งด้นออกไปฝ่าหิมะปีนเขาไปหาขงเบ้ง ทั้งๆที่น้องชายทั้งสองกวนอูและเตียวหุยก็ห้ามเล่าปี่ไม่ให้ลำบากเดินทางไป ทั้งยังจะให้ทหารไปตามตัวขงเบ้งมาแทน
แต่เล่าปี่ก็รู้ดีว่าถ้าอยากจะได้ของดีต้องมีความพยายาม อยากจะได้คนดีคนเก่งต้องรู้จักซื้อใจ การจะได้นักปราชระดับด็อกเตอร์มังกรหลับขงเบ้งมาทำงานในองค์กรครอบครัวเล็กๆของเล่าปี่ ถ้าไม่ไปหาไปชักชวนด้วยตัวเองย่อมไม่มีวันสำเร็จ
ถ้าทำตามกวนอูเตียวหุยว่า ให้นำทหารไปนำตัวขงเบ้งมาย่อมได้แต่ตัวขงเบ้งไม่ได้ใจขงเบ้งการใหญ่ของเล่าปี่ย่อมไม่มีวันสำเร็จ
เมื่อคิดได้ดังนี้เล่าปี่ก็ไม่สนการทักท้วงของน้องทั้งสอง แล้วก็อุตสาหะเดินทางฝ่าฟันในฤดูหนาวขึ้นเขาไปหาขงเบ้งถึงสามครั้ง
ซึ่งขงเบ้งก็ทดสอบความอดทนของเล่าปี่ ครั้งแรกก็ให้เด็กบอกว่าตนไม่อยู่ ครั้งสองก็ไม่อยู่ จนครั้งสามขงเบ้งให้เด็กรับใช้ไปบอกว่าตนนอนอยู่ ซึ่งเล่าปี่ก็แจ้งเด็กรับใช้ว่าไม่ต้องไปรบกวนปลุกอาจารย์ขงเบ้งหรอก ตนขอยืนรอจนขงเบ้งตื่น
ขงเบ้งก็แกล้งนอนอยู่นาน จนยอมรับในความอุตสาหะและจริงใจของเล่าปี่ที่มีให้กับตน ติดที่ขงเบ้งเองก็คิดได้ว่าการจะไปทำงานกับเล่าปี่นั้นจะเป็นการละทิ้งชีวิตที่สุขสบายเรียบง่ายบนเขา ไปทำงานพลักดันองค์กรเล็กๆที่จวนจะเจ๊ง(เพราะโจโฉกำลังจะบุกมาตี)ของเล่าปี่
นับเป็นภาระที่หนักมาก แต่ด้วยน้ำใจและความอดทนของเล่าปี่ก็ชนะใจขงเบ้งไปแล้ว ว่าแล้วก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวออกไปต้อนรับเล่าปี่
เมื่อได้เจอขงเบ้งแม้จะยังอายุน้อย แต่เล่าปี่ก็ชื่นชอบในบุคลิกภาพที่ภูมิฐานของขงเบ้งประกอบกับชื่อเสียงที่ได้ยินมานานก็ก้องอยู่ในหัวเล่าปี่ก็ทำให้เล่าปี่เลื่อมใสในตัวขงเบ้งมากจนเรียกเป็นอาจารย์มังกรหลับ โดยไม่สนถึงอายุขงเบ้งที่น้อยกว่าตนมาก
ขงเบ้งเองก็ถ่อมตนว่าตัวเองเป็นเพียงชาวนาธรรมดาๆแล้วก็ชวนเล่าปี่เข้าไปพูดคุย job description รายละเอียดของงาน ภายในห้องกันสองคน
เล่าปี่ก็พรรณาว่า ตนเป็นเชื้อพระวงศ์ตระกูลเล่าตอนนี้ส่วนแบ่งการตลาดในแผ่นดินฮั่นนั้นแตกกระจายออกเป็นหลายส่วน ตัวฮ่องเต้เองก็ตกในเงื้อมมือโจโฉ ตนเองนั้นมีนโยบายกอบกู้คุณธรรม เป้าหมายสูงสุดคือทำให้ราชวงศ์ฮั่นกลับมาเป็นปึกแผ่นยิ่งใหญ่อีกครั้ง
แต่ตนนั้นตอนนี้เป็นเพียงองค์เล็กๆแม้นจะมีขุนพลยอดนักขายอยู่หลายคนแต่ก็คิดหาทางกอบกู้องค์กรฮั่นกลับมาไม่ได้ จึงอยากจะเชิญอาจารย์ดอกเตอร์มังกรหลับมาเป็นที่ปรึกษากลยุทธ์ทางการตลาดให้กับองค์กรเล็กๆของเรา
พอได้รับฟังเรื่องราวซึ่งขงเบ้งเองก็รู้สถานการณ์ดีอยู่แล้วขงเบ้งก็ทำทีบ่ายเบี่ยงว่าตนเองคงไม่สามารถช่วยเหลือท่านเล่าปี่ได้
เมื่อเจอจงขงเบ้งปฎิเสธเถ้าแก่อย่างเล่าปี่ก็งัดมุกร้องไห้คร่ำครวญออกมาใช้ ร่ำไห้ว่าถ้าอาจารย์ขงเบ้งไม่ช่วยองค์กรฮั่นมหาชนที่เคยยิ่งใหญ่คงถึงกาลอวสารแล้ว ร้องอยู่ซักพักขงเบ้งก็ใจอ่อน แล้วก็ยอมรับในชะตากรรมของตนที่ต้องมารับเผือกร้อนทำงานยากของเล่าปี่ให้สำเร็จ
เมื่อตกลงรับงานแล้ว ขงเบ้งก็เริ่มแสดงวิสัยทัศน์ของดอกเตอร์มังกรหลับแก่เล่าปี่ เริ่มด้วยการกางแผนที่ประเทศจีนในตอนนั้นเพื่อดูส่วนแบ่งการตลาดและวิเคราะห์สถานะการปัจจุบัน
ขงเบ้งวิเคราะห์สถานะการตอนนั้นไว้ว่า
1 ภาคเหนือ
โจโฉกำลังแข็งแกร่ง หลังจากรวมพื้นที่ทั้งหมดทางภาคเหนือได้ ทั้งยังมีองค์ฮ่องเต้เป็นประกันตราสินค้าว่าโจโฉมีความชอบธรรมทุกอย่างในอณาเขตภาคเหนือทั้งหมด มีครบทั้งเงินทุนบุคลากรและความชอบธรรม เวลานี้เราจะสู้กับโจโฉไม่ได้
2 ภาคใต้
ตระกูลซุนปกครองดินแดนกังตั๋งได้เป็นอย่างดีมายาวนานถึงสามรุ่นประชาชนผู้บริโภคมีความสุขรักใคร่ในตระกูลซุน ทั้งยังมีแม่น้ำใหญ่เป็นพรมแดนธรรมชาติทหารกังตั๋งยังเก่งการรบทางน้ำยากที่จะเข้ายึดครอง ควรจะผูกมิตรมากกว่า
3 ภาคกลาง
เกงจิ๋วของเล่าเปียวกำลังระส่ำ เพราะศึกนอกมีโจโฉที่กำลังจะรุกมาชิงพื้นที่ตลาดภาคกลาง แต่ติดเล่าปี่ที่เป็นเมืองหน้าด่าน ถ้าจะชิงพื้นที่ภาคกลางต้องยึดพื้นที่ตลาดของเล่าปี่ให้ได้เสียก่อน นอกจากเกงจิ๋วจะเป็นพื้นที่อันตรายแล้ว การเมืองภายในองค์กรก็ไม่นิ่ง เนื่องจากเล่าเปียวก็อายุมากแล้วทั้งยังป่วยอยู่ได้อีกไม่นาน ส่วนผู้สืบทอดก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายลูกคนโต(ลูกเมียหลวงที่ตายไปแล้ว) กับลูกคนเล็ก(ลูกเมียน้อย) ความชอบธรรมเป็นของลูกคนโต แต่ลูกคนเล็กยังเด็กแต่แบคอัพดีกว่า แม่ก็คุมฝ่ายใน น้องชายของแม่(ซัวมอ)ยังเป็นแม่ทัพใหญ่คุมการทหารทั้งหมด (เหตุการช่างคล้ายกับขององค์กรฮั่นมหาชน) แม้ตัวอย่างจะมีให้ดูแล้ว แต่เล่าเปียวก็ไม่สามารถแก้ไขสถานะการได้ เมื่อเล่าเปียวตายต้องเกิดปัญหาภายในอย่างแน่นอนเล่าปี่จึงควรเข้าปกครองพื้นที่เกงจิ๋ว ใช้เป็นฐานตั้งตัว
4 พื้นที่ภาคตะวันตกเชียงใต้
ดินแดนเสฉวนหรือเอ็กจิ๋ว ดินแดนที่มีปราการธรรมชาติแข็งแกร่ง ทรัพยากรณ์ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เอื้ออำนวยต่อการคิดการใหญ่ แต่ผู้นำคนปัจจุบันเล่าเจี้ยงไม่มีความสามารถพอ ในภายหน้าหลังจากได้เกงจิ๋วแล้วควรเข้ายึดเอ็กจิ๋วต่อ เพราะหากช้าก็จะตกเป็นของโจโฉไป
เมื่อวิเคราห์สถานะการปัจจุบันเสร็จแล้ว ขงเบ้งก็แสดงวิสัยทัศว่า โจโฉแข็งแก่ง กังตั๋งสงบสุข เกงจิ๋วสับสน เอ็กจิ๋วอ่อนแอ สิ่งที่เล่าปี่ต้องทำคือ เข้ายึดเกงจิ๋ว จากนั้นยึดเอ็กจิ๋ว แบ่งแผ่นดิน(ส่วนแบ่งการตลาด) ออกเป็นสามส่วน ผูกมิตรกับซุนกวนไว้ ต่อสู้กับโจโฉ การใหญ่ภายหน้าจะสำเร็จได้ก็ด้วนแนวทางนี้
เมื่อได้เห็นวิสัยทัศและแผนการตลาดของขงเบ้งแล้ว เล่าปี่ก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เหมือนคนติดอยู่ในหมอกมองไม่เห็นทางจน ขงเบ้งเข้าช่วยมาปัดเป่าหมอกและชี้ทางสว่างให้
จากนั้นเล่าปี่ก็คำนับขงเบ้งเป็นอาจารย์ตั้งให้เป็นกุนซือที่ปรึกษา พร้อมทั้งนำแก้วแหวนเงินทองมามอบให้ขงเบ้ง แม้นขงเบ้งจะไม่รับ เล่าปี่ก็บอกว่าสิ่งของเหล่านี้หาใช้สินจ้างแต่เป็นของบูชาครูขงเบ้งจึงรับ
หลังจากนั้นขงเบ้งจึงสั่งงานแก่เด็กรับใช้ให้เรียบร้อย และจากกระท่อมมังกรหลับเพื่อไปทำงานกับเล่าปี่ โดยในใจก็ทราบดีว่าการจากไปครั้งนี้จะเป็นการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ชีวิตต่อไปในภายหน้าจะมีแต่งานหนักรออยู่ จะไม่มีชีวิตที่เงี่ยบสงบอีกต่อไป
สรุป บทที่ 20
เหตุการณ์ตอนนี้ นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในช่วงชีวิตของเล่าปี่ทั้งต่อตัวของเล่าปี่และองค์กรของเล่าปี่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาชีวิตเล่าปี่ก็มีแต่การต่อสู้สร้างตัวมาตลอด แต่ชีวิตของเล่าปี่ก็ประสบความสำเร็จสลับกับล้มเหลวอยู่เรื่อยๆ
ด้วยความที่เล่าปี่เป็นคนสู้ชีวิต ตราบที่ยังมีชีวิตแม้จะล้มซักกี่ครั้งจะแพ้สูญเสียเมืองไปซักกี่ครั้ง แต่ชีวิตยังรักษาไว้ได้เล่าปี่ก็สามารถสร้างตัวได้ใหม่ทุกครั้ง แต่การที่เล่าปี่ไม่สามารถรักษาความสำเร็จไว้ได้ในระยะยาวนั้นเป็นเพราะเล่าปี่ไม่มีวิสัยทัศน์ ที่ชัดเจน ที่ผ่านๆมาเล่าปี่มีเพียงเป้าหมายและอุดมการณ์ ที่จะฟื้นฟูราชวงค์ฮั่น เชิดชูฮ่องเต้ รวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง
แต่สิ่งที่เล่าปี่ไม่มีก็คือ วิสัยทัศน์ แผนการตลาดที่ถูกต้อง เล่าปี่จึงต้องล้มลุกคลุกคลานมาจนอายุห้าสิบก็ยังเป็นเพียงองค์กรครอบครัวเล็กๆ ยังไม่สามารถตั้งตัวขึ้นเป็นองค์กรใหญ่ได้ สิ่งที่ขงเบ้งนำมามอบให้เล่าปี่ในวันแรกเจอนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เล่าปี่ขาดหายนั่นคือ
วิสัยทัศน์ พันธ์กิจ และแผนการตลาด เป้าหมายระยะสั้น เป้าหมายระยะกลาง เป้าหมายระยะยาว (vision mission and marketingplan short plan&goal middle plan&goal long plan&goal) สำหรับเล่าปี่ ทำให้เล่าปี่พบทางสว่างที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของตนเอง
ขอบพระคุณที่ติดตามอ่าน
รังสรรค์ ใจอารีย์
@3kokstartup
บันทึก
6
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สามก๊ก ฉบับ startup
6
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย