8 ก.พ. 2019 เวลา 11:28 • ธุรกิจ
บทที่ 21 งานแรกของมังกรหลับ (zhuge liang's first job)
ค.ศ.208 เล่าปี่อายุ 48 ปี โจโฉอายุ 54 ปี ซุนกวนอายุ 27 ปี ขงเบ้งอายุ 28 ปี
เหตุการณ์สำคัญ
เล่าเปียวเสียชีวิต เล่าจ๋องบุตรชายคนเล็ก ขึ้นเป็นเจ้าแคว้นเกงจิ๋ว
ขงเบ้งวางอุบายเผาทัพโจโฉที่นำโดยแฮหัวตุ้นที่ทุ่งพกบ๋อง
เล่าจ๋องยกแคว้นเกงจิ๋วให้โจโฉ
หลังจากขงเบ้งรับเผือกร้อนๆมาเป็นที่ปรึกษาอยู่ในองค์กรครอบครัวของเล่าปี่ที่ซินเอี้ย ก็ต้องประสบทั้งปัญหาภายนอกและภายในองค์กร
1 ปัญหาภายนอก
โจโฉที่มีเมกกะโปรเจครวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่ง ได้เตรียมความพร้อมที่จะขยายอณาเขตเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากภาคเหนือลงสู่ภาคกลาง และภาคใต้ตามลำดับ ว่าแล้ว โจโฉก็ทุ่มงบการตลาดเตรียมความพร้อมเป็นทหารกว่า 60 หมื่นคน โดยส่งทัพหน้าไปจัดการตีชิงพื้นที่ของเล่าปี่ 10 หมื่นคน โดยผู้รับผิดชอบโปรเจคนี้คือ แฮหัวตุ้น ขุนผลผู้จัดการฝ่ายขาย ผู้เป็นทั้งญาติและคนสนิทคนหนึ่งของโจโฉ
ก่อนดำเนินโครงการบุกยึดพื้นที่ตลาดภาคกลางนั้น ชีซี(ตันฮก) ได้เตือนโจโฉว่าตอนนี้เล่าปี่นั้นได้ หนึ่งในสองสุดยอดกุนซือที่ปรึกษาแห่งยุค มังกรหลับขงเบ้ง มาอยู่ในองค์กรแล้วนั้น ทำให้โจโฉไม่ประมาทเพราะเดิมก็รู้อยู่ว่าทีมงานของเล่าปี่นั้นล้วนมีคุณภาพ ถึงทุนจะน้อยแต่ประมาทไม่ได้ จึงอนุมัติทัพหน้าด้วยงบมหาศาลถึง 10หมื่นให้แฮหัวตุ้นดำเนินงาน หวังจัดการเล่าปี่ให้สิ้นซากไปเลย
2 ปัญหาภายใน
เนื่องจากขงเบ้งเป็นเด็กใหม่ ทั้งยังอายุน้อยทำให้ไม่ได้รับการยอมรับในองค์กรของเล่าปี ที่มีแต่มือเก๋าคนเก่าคนแก่ โดยเฉพาะกวนอูและเตียวหุย สองพี่น้องผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรขึ้นมา การที่พี่ใหญ่อย่างเล่าปี่มาเชื่อฟังเด็กที่เก่งจริงรึเปล่าก็ไม่รู้อย่างขงเบ้ง ทำให้สองคนนี้ไม่พอใจอยู่ภายใน
3 ความดื้อของผู้นำอย่างเล่าปี่
ถึงแม้เล่าปี่จะปลื้มเป็นอย่างมากที่ได้ขงเบ้งเป็นที่ปรึกษา ทั้งยังสั่งให้ทุกคนเชื่อฟังขงเบ้ง แต่ตัวเองกลับไม่ยอมฟังขงเบ้ง และเป็นคนเดียวที่ขงเบ้งไม่สามารถโน้มน้าวให้ทำตามที่ขงเบ้งต้องการได้
เรื่องแรกเลยก็คือการที่ขงเบ้งแนะนำให้เล่าปี่เข้าสืบทอดองค์กรเกงจิ๋วจากเล่าเปียว เพราะเล่าเปียวก็ต้องการเช่นนั้น เนื่องจากเล่าเปียวสุขภาพเริ่มไม่ดี และเข้าใจสถานะการดีว่าองค์กรของตนไม่ปลอดภัย แม้จะเป็นองค์กรใหญ่ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะเข้มแข็งพอรับมือกับองค์กรที่ใหญ่กว่าของโจโฉ และถ้าตนเองตายแล้วเกิดปัญหาการเมืองภายใน ระหว่างลูกสองคน เมื่อโจโฉบุกมาพื้นที่การตลาดภาคกลางของบริษัทเกงจิ๋วของเล่าเปียวต้องตกเป็นของโจโฉอย่างแน่นอน แล้วถึงตอนนั้นลูกๆและประชาชนผู้บริโภคของตนจะเป็นอะไร
ด้วยความห่วงใยลูกเมียรวมถึงพนักงานในบริษัทตลอดจนประชาชนผู้บริโภคเล่าเปียวจึงต้องการให้เล่าปี่เข้ามาปกครองเป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัทเกงจิ๋วแทนเล่าเปี่ยว เพราะเล่าเปียวมั่นใจว่าเล่าปี่และทีมงานเก่งพอที่จะต่อกรกับโจโฉได้ ลูกเมียและพนักงานตลอดจนประชาชนผู้บริโภคในเขตพื้นที่การตลาดของบริษัทเกงจิ๋วก็จะอยู่รอดปลอดภัย เรื่องทุกอย่างก็จะดูง่ายสำหรับเล่าปี่ ขงเบ้งก็บอกว่าเป็นลิขิตของฟ้าแล้วที่บริษัทเกงจิ๋วจะตกเป็นของท่าน
แต่เล่าปี่ผู้ยึดถือคุณธรรมก็บอกว่า การที่อยู่ๆเราจะไปนั่งเป็นประธานบริษัทเกงจิ๋วเลยเนี่ยมันดูไม่ดี เพราะเล่าเปียวนี่ก็เป็นทั้งญาติและผู้มีพระคุณ แถมเค้ามีลูกชายอยู่ มรดกของพ่อก็ควรจะเป็นของลูกชายคนโตตามธรรมเนียม จะไปยึดเอามาเป็นของตนนั้นหาควรไม่ ลูกเมียของเล่าเปียวรวมทั้งพนักงานและประชาชนผู้บริโภคของบริษัทเกงจิ๋วเองก็อาจจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเล่าปี่จึงไม่ยอมขึ้นนั่งตำแหน่งประธานบริษัทเกงจิ๋วแทนเล่าเปียวอย่างเด็ดขาด
เมื่อเจอลูกยืนกรานอย่างหนักแน่นแถมยังมีเหตุผลอ้างคุณธรรมเข้าไปขงเบ้งเองก็ได้แต่ยอมรับ และก็บอกเล่าปี่ไปว่าเอางั้นก็ได้นายว่าไงก็ว่าตามกัน แต่เราก็อาจจะต้องลำบากอีกหลายปีซักหน่อยถึงจะตั้งตัวได้ จากการที่เล่าปี่ดื้อไม่รับเกงจิ๋วนั้นทำให้งานยากของขงเบ้งที่ว่ายากอยู่แล้วยิ่งยากเข้าไปอีก
หลังจากรับรู้ในความดื้อของนายแล้วขงเบ้งก็ค่อยๆแก้ปัญหาทีละเรื่อง
โดยเริ่มจากปัญหาภายในก่อน สำหรับขงเบ้งแล้วกองทัพสิบหมื่นของแฮหัวตุ้นที่โจโฉเทงบลงมาจัดการเล่าปี่แม้จะเยอะกว่าทัพของเล่าปี่ที่มีเพียงสามพันคนแบบเทียบกันไม่ได้ แต่ขงเบ้งกังวลถึงปัญหาภายในมากกว่า เพราะขงเบ้งมีแผนการที่จะใช้ทหารสามพันคนจัดการทหารสิบหมื่นคนของแฮหัวตุ้นแล้ว แต่แผนการนั้นจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนเก่าคนแก่ในองค์กรของเล่าปี่ว่าจะยอมรับฟังและทำตามแผนการของตนหรือไม่
ขงเบ้งนั้นรู้ว่ากวนอูเตียวหุยเป็นขุนพลยอดฝีมือไร้พ่ายแต่ถึงจะเก่งอย่างไรถ้าไม่สามารถทำตามแผนการที่วางไว้ได้ก็ไร้ซึ่งประโยชน์ จึงทำการขออาญาสิทธิ์จากเล่าปี่ถ้าใครขัดคำสั่งไล่ออก(ประหาร)ได้ทันที ทำให้พนักงานทุกคนตลอดจนขุนพลระดับผู้จัดการทุกฝ่ายต้องเชื่อฟังขงเบ้ง
เมื่อเรื่องภายในองค์กรเคลียร์แล้วก็มาจัดการปัญหาภายนอกต่อ ทัพโจโฉที่ทุ่มงบทหารมาสิบหมื่นกับขุนพลที่คุมโปรเจคแฮหัวตุ้นก็ถูกขงเบ้งอ่านขาดว่า ด้วยความที่งบประมาณมหาศาลต่างกันมาก แฮหัวตุ้นจะต้องประมาทเพราะเร่งสร้างผลงานอย่างแน่นอน
ขงเบ้งจึงวางแผนการดังนี้ ให้ทหารจูล่งนำทหารหนึ่งพันไปสู้สิบหมื่น แกล้งแพ้และหนี ให้เล่าปี่คุมทหารอีกหนึ่งพันไปช่วยจูล่ง แล้วก็แกล้งแพ้แล้วก็หนีอีก ทัพหน้าของแฮหัวตุ้นที่คึกคะนอง+ได้ใจ+ประมาท+เร่งสร้างผลงานก็เร่งไล่ตามทัพน้อยๆของจูล่งกับเล่าปี่ จนทำให้ทิ้งช่วงกับกองหลังที่ขนเสบียง แม้นลูกน้องที่ปรึกษาของแฮหัวตุ้นจะห้ามปรามว่าไล่ตามลึกเกินไป
กว่าแฮหัวตุ้นจะรู้สึกตัวก็สายไปเสียแล้ว ทหารอีกหนึ่งพันขงเบ้งแบ่งให้กวนอูเตียวหุยคนละห้าร้อย จุดไฟเผาตัดทัพหน้ากับกองเสบียง และวางเพลิงเผาเสบียงให้หมด ทำให้ทัพสิบหมื่นของแฮหัวตุ้นสับสนอลม่าน ตกตายอยู่ในกองเพลิง ถึงจะเหลือรอดไปได้ก็ขาดเสบียงอดตายทำการอะไรไม่ได้อีก
เหลือแต่เพียงแฮหัวตุ้นกับทหารคนสนิทอีกไม่กี่นายมัดตัวเองกลับเข้าเมืองไปรอรับอาญาทหารจากโจโฉ เนื่องจากเพราะความประมาท ทำให้สูญเสียทหารสิบหมื่นไปภายในคืนเดียว
ซึ่งทางโจโฉนั้น มีใจนักเลงผ่านการรบมามาก และไม่อยากเสียผู้จัดการใหญ่ขุนพลคนสนิททั้งยังเป็นญาติกันอีกอย่างแฮหัวตุ้น จึงบอกว่าการรบนั้นมีแพ้มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา แฮหัวตุ้นมีความดีความชอบมากมาย ใช้ความดีเก่าลบล้างความผิด เพื่อจะเก็บแฮหัวตุ้นไว้ใช้งานต่อไป พร้อมทั้งให้รางวัลแก่ เหล่าลูกน้องที่คอยห้ามแฮหัวตุ้น ว่าถือว่ามองเหตุการณ์ได้ดี
กลับมาฝากบริษัท 3 พี่น้อง จำกัดของเล่าปี่บ้าง หลังจากกลยุทธ์ สามพัน รับศึก สิบหมื่น ใช้ทุนน้อยจัดการทุนมาก ของขงเบ้ง สำเร็จบรรลุผลอย่างงดงาม ก็ทำให้สถานะกุนซือของขงเบ้งมั่นคงมาก ได้รับความยอมรับนับถือจากคนเก่าคนแก่ทุกคนในองค์กร
แม้นทุกคนในองค์กรของเล่าปี่จะกำลังยินดีชื่นชมกับผลงานของขงเบ้ง แต่ขงเบ้งก็ไม่ได้ชื่นชมกับความสำเร็จของตน เพราะงานของขงเบ้งนั้นยังไม่จบ เพราะทางโจโฉเองนั้นคงไม่ยอมแค่นี้ อีกเดี๋ยวจะต้องทุ่มงบมหาศาลกว่าเดิมลงมา ทั้งยังจะมาบัญชาการรบด้วยตัวเองเพื่อเอาชนะให้ได้
สรุป บทที่ 21
แนวทางการแก้ปัญหาของมังกรหลับ(สามารถที่จะศึกษาเพื่อนำไปใช้กับองค์กรของทุกท่านได้ครับ)
1 เริ่มที่แก้ปัญหาภายในก่อน สะสางปัญหาต่างๆภายในองค์กรให้เรียบร้อย เมื่อภายในองค์กรเข้มแข็งสามัคคี ก็สามารถที่จะต่อสู้กับภายนอกได้
2 ปัญหาภายนอก แม้นปัญหาจะใหญ่แต่ถ้าภายในเข้มแข็งและมียุทธวิธีที่เหมาะสมก็สามารถเอาชัยชนะแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้
3 ความดื้อรั้นของผู้นำองค์กร แม้นจะทำให้ต้องเดินทางอ้อม แต่ก็สามารถรักษานโยบายบริษัทรักษาชื่อเสียงเรื่องความมีคุณธรรมซึ่งเป็นหัวใจหลักขององค์กรไว้ได้
4 เมื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้แล้ว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ วางแผนการดำเนินการต่อไปเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาใหม่ที่จะเข้ามาอนาคต
ขอบพระคุณที่ติดตามอ่าน
รังสรรค์ ใจอารีย์
@3kokstartup

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา