Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มนุษย์กล่อง
•
ติดตาม
23 ก.พ. 2019 เวลา 02:40 • ไลฟ์สไตล์
แชร์ประสบการณ์ งบน้อยก็เป็นเด็กนอกได้ กับ โครงการ
Work and Holiday ประเทศ Australia 🇦🇺
ตอนที่ 4 ชีวิตจริงของการทำงาน
ตอนที่แล้วเล่าถึงตอนที่ตกงานแบบกระทันหัน
ดังนั้นเราก็ต้องเดินหน้าหางานใหม่ต่อไปค่ะ
Photography by J.Mahaudomchab
หางานคราวนี้เราต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างแท้จริง connection ที่มีก็โดนเท พร้อมเรานี่แหละค่ะ
ตอนแรกนึกว่าจะมีงานให้เราทำหลายเดือน
เราก็วางแผนไว้ว่าจบงานนี้เราจะเอาเงินที่ได้มาไปลงเรียน Course Barista กับ UIT University ค่ะ หวังว่าเรียนจบมาเราจะได้หางาน Barista ต่อ และได้วิชาติดตัวมาสร้างอาชีพตอนกลับมาไทยได้ด้วย หากเราไม่อยากกลับไปเป็นมนุษย์ออฟฟิศอีก
แต่แผนที่เราวางไว้ก็พังลงเนื่องจากถูกเลิกจ้างกระทันหัน
เราตกงานอยู่หลายอาทิตย์กว่าได้งานใหม่
แต่กว่าจะได้งานใหม่เราต้องเจอคนเอาที่พร้อมจะเอาเปรียบเราหลายครั้งค่ะ
ครั้งแรก
ร้านแรกที่เจอ เป็นร้านสปาค่ะ
เราสมัครงานตำแหน่ง Reception ไปค่ะ
ที่สมัครงานนี้เพราะเรามีประสบการณ์สายงานสปาที่ไทยมาก่อนจึงคิดว่าสมัครงานสายเดิมน่าจะมีโอกาสได้งานมากกว่างานอื่นๆ
จากนั้นร้านก็ติดต่อเรากลับมา ถามว่าเราทำสคับตัวกับนวดหน้าเป็นไหม เราตอบไปว่าไม่เป็นค่ะ เป็นแต่นวดเท้า
ร้านตอบเรากลับมาว่า ถ้าอย่างนั้นขอพิจารณาคนอื่นก่อนนะ เพราะเขาต้องการ Reception ที่ทำสคับตัวกับนวดหน้าได้
เราก็ตอบไปว่ายินดีค่ะ
ไม่กี่วันถัดมา ร้านโทรหาเราอีก คราวนี้บอกว่ายินดีสอนสคับตัวกับนวดหน้าให้เรา
เราก็เลยถามเงื่อนไข และรายละเอียด เพราะเคยอ่านเจอมาว่ามีบางร้านติดสัญญาเรื่องสอนนวดให้เรา
รายละเอียดที่เขาแจ้งมีดังนี้ค่ะ ทำงาน Reception ให้ชั่วโมงละ 15$ และมีค่า commission 10% ให้จากการนวดแต่ละครั้ง
ไม่เป็นยินดีสอน แต่ต้องเซ็นสัญญาทำงานกับร้าน 6 เดือน ค่าเรียนหักเป็นรายสัปดาห์จากค่าแรง สัปดาห์ละ 40$ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ และจะคืนเงินส่วนนี้ให้เมื่อทำงานครบ 6 เดือนตามกำหนดสัญญา จ่ายค่าแรงเป็นเงินสด และที่สำคัญขอ Tax Fund Number เราด้วย
พอเราได้ยินว่าขอ Tax Fund Number เราเท่านั้นแหละ ขอบายเลย
เหตุผลที่เราปฏิเสธงานนี้เพราะว่า ค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมาย
กฎหมายกำหนดอยู่ที่ 18$ ร้านนี้ให้ค่าแรงต่ำกว่ากฎหมายกำหนด จ่ายเงินสด แถมขอ TFN เราอีก และต้องเซ็นสัญญาทำงานอีก เราว่าเขาเอาเปรียบเกินไปค่ะ
ไม่กี่วันถัดมาร้านนี้มาเสนอเงื่อนไขเราใหม่ค่ะ ให้เราชั่วโมงละ 13$ ให้เรานวดเท้า commission 10%
ไม่ต้องมีสัญญา แต่ขอ TFN เราก็ยังยื่นยันปฏิเสธอยู่ดี
ไม่กี่วันถัดมาอีก ร้านส่ง Text มาขอให้เราไปทำงาน รอบนี้ให้ทำ Reception อย่างเดียว เขาต้องการคนด่วนมากๆ
เราก็ไม่สนใจค่ะ ในความคิดเรา เขาขาดคนด่วนแบบนี้แสดงว่าร้านจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ ขอตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่าค่ะ ไม่อยากมีปัญหาตามหลัง
Tax Fund Number หรือ TFN
เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับตัวเรา อารมณ์เหมือนเลขประจำตัวประชาชนค่ะ เราจึงซีเรียสเรื่องนี้มาก
TFN สำคัญอย่างไร?
เงื่อนไขวีซ่าเราคือเสียภาษี 15% ตั้งแต่ดอลลาร์แรกที่หาได้
คนที่เป็นนายจ้างเราต้องเป็น Employer of working holiday makers ด้วย คือสำหรับไว้จ้างวีซ่าแบบเราทำงานถูกต้องตามกฎหมาย
เวลาเงินเดือนออกนายจ้างจะหักส่วน 15% ไว้ และจ่ายภาษี + Superannuation ให้เราเลยค่ะ
Superannuation ก็คล้ายๆกับกองทุนประกันสังคมบ้านเราค่ะ
ถ้านายจ้างเราไม่ได้เป็น Employer of working holiday makers เราจะเสียภาษีเรท 32.5% ค่ะ
เรืองภาษีนี่ต้องระวังให้ดีเราอาจจะต้องเสียเงินเพิ่มฟรีโดยไม่รู้ตัว
และจากการจ่ายเงินค่าแรงมี 2 แบบค่ะ
1) Cash in hand คือ จ่ายเงินสด
2) Payslip คือ โอนเงินเข้าบัญชี
เท่าที่เรารู้มา การจ่ายเงินสดถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องด้วยไม่มีหลักฐานในการ รับ-จ่ายเงิน
เราจึงไม่จำเป็นต้องให้ TFN กับนายจ้างที่จ่างเงินสดค่ะ
นายเจ้าพวกนี้เมื่อได้ TFN เราไปแล้ว เขาจะเอาไปทำอะไรก็ได้ค่ะ แต่เท่าที่รู้มาเขาจะเอาไปลดหย่อนภาษีร้านของตัวเอง
เท่ากับว่าในความเป็นจริงให้เงินเราต่ำกว่ากฎหมายกำหนดแล้วร้านสามารถเมคได้ว่าเขาจ่ายให้เราเท่านั้นเท่านี้นะ และร้านไม่ได้หักภาษี 15%จากเราไว้
ดังนั้นเราต้องจ่ายภาษีเอง ร้านไม่จ่ายให้เรา
ก็หลักฐานไม่มีเขาจะทำอะไรก็ได้ใช่มั้ยล่ะ เราไม่รู้เลย
พูดง่ายๆคือให้ค่าแรงต่ำไม่พอ แถมเราต้องเสียภาษีเองอีก
และเอา TFN เราไปลดหย่อนภาษีร้านตัวเองเนื่องด้วยจ้างเราถูกกฎหมาย (ฟังดูแล้วโคตรถูกเอาเปรียบเลยอ่ะ)
นั่นแหละค่ะสิ่งที่เจอจริงๆ
สิ่งเราทำได้คือปกป้องผลประโยชน์ตัวเราเองค่ะ
Photography by J.Mahaudomchab
ร้านที่ 2 ที่เจอ เป็นโรงงานของคนไทยค่ะ อยู่ชาญเมือง ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นโรงงานแล้วจะจ่ายค่าแรงเราตามกฎหมาย
แต่เปล่าเลย กดค่าแรงเรายิ่งกว่างานแรกอีกค่ะ
เขาเสนอให้เราแบบนี้ค่ะ
ทำงาน 8.00-16.30น. ทำ 7 วัน ต่ออาทิตย์ ไม่ผิดหรอกให้เราทำ ทุกวันเลย แบบไม่ต้องหยุดพักซักผ้ากันเลย 😶
ให้ค่าแรงชั่วโมงละ 10$ ทดลองงาน 1 เดือน ผ่านทดลองงานให้เพิ่มเป็น 13$ ถ้าทำงานดีเป็นที่น่าพอใจและช่วยเก็บรักษาความลับให้เขาจะพิจารณาเพิ่มให้เป็น 18$
และมีงานร้านอาหารต่อให้อีก 17.00-03.00น. ถ้าอยากทำ จ่ายเงินสด ขอ TFN ด้วยและทั้งหมดที่คุยกันขอให้เป็นความลับ
เราฟังจบก็สตั้นไปหลายวิ
คำถามในหัว ทำไมต้องเป็นความลับด้วยอ่า กลัวคนอื่นรู้หรอว่าให้กดค่าแรงและเอาเปรียบขนาดนี้
กลัวคนรู้เยอะแล้วจะหลอกคนอื่นให้ไปทำงานด้วยไม่ได้หรอ เราไม่โอเคมากๆ จึงปฏิเสธไปค่ะ
ร้านที่ 3 เป็นร้านนวดค่ะ ร้านนี้ไม่ได้เอาเปรียบเรานะคะ
เขารับสมัครงานนวดไม่มีประสบการณ์ยินดีสอน ช่วงทดลองงาน 1 เดือน ให้ชั่วโมงละ 25$ ผ่านแล้วให้ 30-35$ จ่ายเงินสด และ ไม่ขอ TFN เรา ดูเหมือนจะดีแล้ว เราก็ไปเทสมือ พอไปถึงเจอเป็นร้านเปิดใหม่ แทบไม่มีลูกค้าเลย แล้วเขาก็ดูไม่มีความรู้เท่าไหร่ด้วย เขาเล่าให้เราฟังว่าเขาซื้อร้านต่อมาจากคนรู้จัก ก่อนซื้อเจ้าของเดิมบอกว่าร้านนี้เปิดถูกกฎหมาย สามารถทำต่อไปเลย แต่พอเอาเข้าจริงเป็นร้านที่ไม่ถูกกฎหมายค่ะ มีการนวดแอบแฝง แต่เขาก็ปรับร้านใหม่ พวกลูกค้าเดิมที่เคยมาซื้อเขาก็ปฏิเสธให้ แต่ในมุมของเรามันก็ไม่ปลอดภัยกับตัวเราอยู่ดี เลยขอปฏิเสธไปค่ะ
ร้านที่ 4 เป็นร้านอาหารค่ะ เราเป็นมือแกง รายละเอียดเราไม่ได้คุยเลย ชื่อร้านก็ไม่บอกด้วยนะคะ เรามารู้จากพี่เจ้าของบ้านที่เราแชร์ทีหลังว่าการที่ไม่บอกชื่อร้านเพราะเขาต้องการปิด ไม่ให้รู้ ถ้าร้านไหนที่ขึ้นชื่อ คนก็จะบอกปากต่อปากว่าร้านนี้ไม่โอเคนะ ร้านก็จะหาคนทำงานได้ยากขึ้น
ด้วยความที่เราตกงานมานานเราต้องหาเงินเพื่อจ่ายค่าบ้านก่อน เราเลยไม่ได้สนใจอะไรมา แค่ไม่ขอ TFN เราก็โอเคแล้ว
เราไปทดลองงาน ช่วงทดลองงาน 3 วัน ให้ เป็นชิพแบบเหมาจ่าย 50$ ผ่านทดลองงานให้ 70$ เราก็ไปทำค่ะ ทำไปสักพักเขาขอ TFN เราด้วย แต่เราออกก่อนจะให้ค่ะ
เจ้าของร้านมี 2 คน คนที่ติดต่อเราดูแลหน้าร้าน อีกคนที่อยู่ในครัวคนนี้เขาบ้าอำนาจค่ะ
เรานี่จำได้แม่นไม่มีลืมเลย เราโดนว่าด้วยคำพูดแรงๆทุกครั้งที่ทำงานและโดนด่าว่าตลอดตั้งแต่ทำงานวันแรกจนวันที่เราออก
เหตุการณ์ที่เรามีลืมเลยคือ เราหั่นมะเขือเทศเตรียมสำหรับใช้ตกแต่งจานเมนูที่เราดูแล ในช่วงระหว่างที่ไม่มี order
จขร. อยู่ๆก็หันมาตะคอกใส่เราว่า ไปเช็คเตาเดี๋ยวนี้!!
เราก็รีบเก็บมะเขือเทศใส่กล่อง ตามด้วยเก็บมืดเข้าที่จะได้ไม่เป็นอันตราย
แต่ จขร. ก็ตะคอกเราใส่อีกว่า สั่งให้เช็คเตาเดี๋ยวนี้ทำไมไม่หันกลับมาที่เตาอีก!!
เราก็บอกว่าขอเก็บตรงนี้ให้เรียบร้อยก่อนค่ะ
ทีนี้เขาด่าว่าเราชุดใหญ่เสียงดังเลยจ้า
พูดว่า “ทำไมเป็นคนนิสัยแบบนี้ล่ะ พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรอว่าห้ามเถียงเจ้านายอ่ะ ทำไมเป็นคนนิสัยแบบนี้ มีนิสัยชอบเถียงเจ้านายหรอห๊ะเราอ่ะ ผมจ้างมาให้ใช้แรงงาน ไม่ได้ให้ใช้สมอง ไม่ต้องคิด ไม่มีสิทธิ์คิดเอง มีหน้าทำตามคำสั่งเท่านั้น สั่งก็ต้องทำ ต้องทำเดี๋ยวนี้ เข้าใจมั้ย!!”
พอเราได้ยินก็ตกใจอึ้งไปเลยค่ะ ทำไมต้องด่าว่าเราแรงขนาดนี้ เราทำผิดมากขนาดต้องด่าว่า พ่อแม่ไม่สั่งสอนเลยหรอ
ยังมีที่เขาด่าว่าเราอีกเยอะค่ะ แต่จำได้แค่นี้ เราไม่อยากใส่ใจ แต่ประโยคนี้ทำเราเจ็บช้ำใจมากที่สุดค่ะ เราลืมไม่ลงจริงๆ
ในสมองเราตอนนั้นคิดแค่ว่าเราจะลาออกให้เร็วที่สุด เราทำงานกับคนแบบนี้ไม่ไหวแล้ว
น้องๆที่ทำงานในครัวด้วยกัน ก็ให้กำลังใจ
บอกว่าสู้ๆนะพี่ และก็เล่าให้เราฟังว่าคนก่อนหน้าเราเขาก็โดนแบบนี้กันแหละ
น้องปลอบใจเราว่า พี่น่ะโดนน้อยแล้วนะ พี่ก็สู้ๆนะ
เราคิดใจใน ถ้าคนอื่นเขาทนได้ งานคงไม่มีว่างตกมาถึงเรา
เราเองก็ทนไม่ได้ค่ะ
เราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทฟัง เพื่อนเราพอรู้ชื่อร้าน
รีบให้เราไปลาออกเลยค่ะ
เพื่อนเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ เพื่อนเขาที่เป็นผู้ชาย(เราไม่รู้จัก) ไปทำร้านนี้
จขร. คนนี้ก็ทำแบบพฤติกรรมแบบนี้ใส่ค่ะ แต่หนักกว่าเราตรงที่มีพูดจามึงกูและปาข้าวของใส่เลยที่เดียว 🤭
และต่อจากนั้นไม่นานโชคก็เข้าข้างเราค่ะ
พี่เจ้าของบ้านฝากงานให้เรากับโรงแรมที่เขาทำอยู่ และโชคดีเขาขาดคนเราเลยได้งานใหม่
เป็นงานคลีนโรงแรมให้ค่าแรงชั่วโมงละ 25$ แต่เป็นงานลูกจ้างชั่วคราว
เราก็เอาวะ งานหนักเหมือนกัน แต่ค่าแรงเยอะกว่านะ สู้ๆ
เราไม่รอช้ารีบไปขอเบิกเงินเดือนและขอลาออกกับร้านนี้เลยค่ะ
บอกเหตุผลไปตรงๆว่าได้งานใหม่เป็นงาน Full Time ทำ 5 วัน ค่ะ
ตอนบอกขอลาออกเราโดนกว่าอีก เท่าที่จำได้เขาพูดกับเราว่า
รู้ไหมว่าทำไมคนไทยกว่า 80% ถึงไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะทุกคนเป็นแบบคนแบบคุณไงความอดทนต่ำ ที่ผมทำทั้งหมดนั้นผมทำเพื่อให้คุณมีความอดทน
และคุณก็ไม่มี loyalty ในองค์กร เป็นคนที่มีนิสัยเลือกงาน
ในความเป็นจริงคือองค์กรเป็นคนเลือกคุณเข้าทำงานไม่ใช้คุณเลือก
กว่าเขาจะประสบความสำเร็จมีร้านอาหารมีรายได้ 6-7 หลักต่อเดือนเช่นทุกวันนี้ เขาต้องผ่านนั่นนี้มามากมาย
เริ่มต้นจากเด็กล้างจานอยู่หลายปีในร้านอาหารนั้นจนได้เป็นเชฟใหญ่ เขาถูกโรงแรมดังซื้อตัวด้วยเงินเดือนที่สูงมากแต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ที่เดิม เพราะเขารักในองค์กรที่เขาทำ
ในความคิดเรา คุณมีรายได้ 6-7 หลักต่อเดือน แต่คุณกดขี่ลูกน้องโดยจ่ายค่าแรงต่ำๆงี้หรอ 🤔
เขาพูดกับเราเยอะมากค่ะ มีทั้งได้แง่คิดที่มีประโยชน์กลับไปพิจารณาต่อและถูกว่าเหน็บแนมปนๆกันไป
เราจำประโยคปิดท้ายของเขาได้แม่นเลย
เขาพูดว่าก็ดีที่เรากล้าพูดตรงๆกับเขาว่าจะลาออกเพราะอะไร ไม่หนีหลายไป แต่เมื่อเราพูดออกมาแล้วว่าเราไม่ไอเคกับที่นี่
เขาเองก็ไม่อยากได้เราไว้ทำงานต่อเช่นกัน
พูดไปพูดมาสรุปเรากลายเป็นคนผิดที่ลาออก
แต่ก็ชั่งเถอะ เราถือเป็นประสบการณ์ชีวิตเรา เราอยู่นี่ไม่นานหรอก วีซ่าหมดเราก็กลับไทยแล้ว สู้ๆ
Photography by J.Mahaudomchab
ร้านที่ 4 นี้ เป็นร้านไทยร้านแรกและร้านเดียวที่เราทำค่ะ จากนั้นมาเราก็ทำงานที่จ่ายตามกฎหมายค่ะ
ร้านไทยดีดีก็มีนะนะคะ เพื่อนสนิทเราเองก็ทำกับร้านไทยที่จ่ายเงินเป็น Payslip ให้ค่าแรงตามกฎหมาย
สำหรับเราวิธีที่ดีสุดคือหางานที่ นายจ้างเป็น Employer of working holiday makers และจ่ายเงินเป็น Payslip ค่ะ
ตอนต่อไปเราจะแชร์ประสบการณ์งานคลีนโรงแรมค่ะ เพื่อนร่วมงานเราส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป
ทั้งตื่นเต้นที่ได้เจอสิ่งใหม่ ทั้งสงสารตัวเองในเวลาเดียวกันเลย 😂
ขอบคุณที่ติดตาม และอ่านจนจบนะ
เรื่องราวทั้งหมดที่แชร์มาจากเรื่องจริงที่เราเจอในปีที่ผ่านมา ผ่านมุมมองความรู้สึกและความคิดเห็นส่วนตัวของเราค่ะ
หากผิดพลาดปราการใดขออภัยด้วยนะคะ
ปล.ตอนนี้เรากลับไทยมาแล้วนะคะ
ถามว่าอยากกลับไปอีกมั้ย ตอบเลยว่าอยากกลับไปค่ะ
แต่ขอแค่ไปเที่ยวนะ ให้ไปทำงาน ไปใช้ชีวิตที่นั่นเราขอแค่นี้พอค่ะ 😅
#มนุษย์กล่อง
สามารถย้อนอ่านตอนอื่นๆได้ตามลิ้งค์ด้านล่างค่ะ
ตอนที่ 1
https://www.blockdit.com/articles/5c6d353927e76348eb4d6613
ตอนที่ 2
https://www.blockdit.com/articles/5c6e310818df4b029592ffee
ตอนที่ 3
https://www.blockdit.com/articles/5c6e87d65c5af815895e0cb5
3 บันทึก
15
2
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Work and Holiday Visa พาฉันไป Australia 🇦🇺
3
15
2
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย