เหตุใดไมโครซอฟต์จึงกลายเป็นยักษ์หลับอยู่หลายปี????
เหตุการณ์มันเริ่มตั้งแต่ บิล เกตส์ วางกลยุทธ์ให้ไมโครซอฟต์เป็นผู้นำและยึดครองตลาดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และแน่นอนว่าเขาทำสำเร็จ
แต่นั่นกลับสร้างศัตรูและความเกลียดชังให้กับตัวเขาเองและผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟต์ จนเขาต้องลงจากตำแหน่ง และแต่งตั้ง สตีฟ บอลเมอร์ เพื่อนรักของเขาจากฮาร์วาร์ดขึ้นมาแทน
นับแต่นั้นมาวัฒนธรรมการทำงานในไมโครซอฟต์ก็เปลี่ยนไป ด้วยความที่บอลเมอร์มาจากสายบริหาร ไม่ใช่สายคอมพิวเตอร์หรือไอทีแบบ บิล เกตส์ วิสัยทัศน์ในการมองเกมทางธุรกิจจึงต่างกัน
บอลเมอร์พาขุนพลของไมโครซอฟต์ออกสู้ในทุกสนามรบ แต่ไม่เคยได้ชัยชนะกลับมาเลย พวกเขากลายเป็นผู้ตามและอยู่รั้งท้ายสุดของเกม
เกตส์สร้างไมโครซอฟต์มาด้วยความรักและหลงใหลในการเขียนโปรแกรม พร้อมกับวิสัยทัศน์ที่ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกในเวลานั้น
พนักงานในยุคแรกๆ ของไมโครซอฟต์ล้วนต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลก พวกเขาต่างทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าพวกเขาคือทีมงานชั้นยอดและเป็นผู้นำในโลกของคอมพิวเตอร์
แต่เมื่อไมโครซอฟต์เติบโตมากขึ้นจนมีพนักงานนับหมื่นนับแสนคน วัฒนธรรมในองค์กรก็เปลี่ยนไป จากการทำงานด้วยใจรักโดยมุ่งหวังที่ผลสำเร็จของงาน กลายมาเป็นการทำงานเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพและรายได้ของตนเอง
แน่นอนว่าความก้าวหน้าต้องมาจากการสร้างผลงาน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ขัดขวางหน่วยงานอื่นในองค์กรไม่ให้มีผลงานแซงหน้าตัวเอง
ถึงขนาดมีนักวาดการ์ตูนล้อเลียนวาดแผนผังองค์กรของไมโครซอฟต์ ออกมาเป็นแก๊งต่างๆ ที่หันปืนเข้ามาต่อสู้กันเอง ไมโครซอฟต์จึงไม่เกิดการพัฒนาและล้าหลังในหลายปีที่ผ่านมา
และอีกอย่างที่ทำให้ไมโครซอฟต์หยุดอยู่กับที่คือ การยึดติดกับกรอบความคิดแบบเดิมๆ ยึดติดกับความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ของระบบปฏิบัติการวินโดว์
การจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาจึงมักจะเอาไปผูกกับวินโดว์ ทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างยากลำบาก ไม่เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างแท้จริง
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาจากภายในองค์กร เรียกได้ว่าไม่มีใครทำให้ไมโครซอฟต์อ่อนแอ หากแต่พวกเขาทำร้ายตัวเองมากกว่า
ไมโครซอฟต์อยู่ในสถานการณ์ที่มืดมนตั้งแต่โลกก้าวเข้าสู่ยุคของโมบายและอินเตอร์เน็ต ยอดขายแอปเปิ้ลที่ใช้ระบบ iOS และสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ของกูเกิลเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ยอดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟต์กลับไม่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้กูเกิลยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโฆษณาออนไลน์ที่ไมโครซอฟต์ไม่สามารถสู้ได้เลย และอเมซอน ก็เติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจออนไลน์
ว่ากันว่าบอลเมอร์เป็นผู้นำที่กระฉับกระเฉงและมีความรู้ทางธุรกิจเป็นอย่างดี แต่ขาดวิสัยทัศน์ทางด้านเทคโนโลยี
บอลเมอร์ถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนปี 2013 บีบีซีเสนอชื่อให้เขาเป็นผู้บริหารที่แย่ที่สุด ซึ่งส่งผลให้เขาถูกกดดันจนต้องประกาศลงจากตำแหน่ง
สัตยาเข้ามาที่ไมโครซอฟต์ตั้งแต่ปี 1992 ยุคที่ บิล เกตส์ ยังเป็นซีอีโอ เขาช่วยงานหลายอย่างที่ไมโครซอฟต์ และเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี เขารู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และควรจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
แต่เนื่องจากเขาเป็นคนเอเชีย ถึงแม้สังคมอเมริกาจะเปิดกว้างแต่การจะให้คนเอเชียขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดยังเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากพอสมควร เขาจึงไม่มุ่งหวังมากนักกับตำแหน่งผู้นำสูงสุดนี้
เขาคิดว่าในที่สุดผู้บริหารคงเลือกคนที่เหมาะสมขึ้นมาเอง และไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำเขาก็พร้อมทำงานด้วยเสมอ
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เย็นวันที่ 24 มกราคม 2014 ขณะที่เขากำลังเล่นคริกเก็ตกีฬาสุดโปรดของเขาอย่างผ่อนคลาย
จอห์น ทอมพ์สัน กรรมการอิสระและผู้นำในการสรรหาซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟต์โทรหาเขาเพื่อแจ้งให้ทราบว่าซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟต์เป็นใคร
มันสร้างความประหลาดใจให้เขาเป็นอย่างมาก เขาคิดอะไรไม่ออกได้แต่เพียงตอบกลับไปว่าเขารู้สึก ถ่อมตัว เป็นเกียรติ และตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน
สัตยาทำอย่างไรบอร์ดบริหารของไมโครซอฟต์รวมถึง บิล เกตส์ ถึงยกตำแหน่งแม่ทัพใหญ่นี้ให้เขา และอาณาจักรนี้ก็อ่อนแอเต็มที สัตยา จะทำอย่างไรต่อไปกับความคาดหวังต่าง ๆ ที่เขาต้องแบกรับ
อยากรู้เรื่องราวการเดินทางของเด็กหนุ่มจากอินเดีย ผู้ที่ชีวิตพลิกผันจนกลายเป็นผู้นำของอาณาจักรใหญ่ในโลกไอทีอย่างไมโครซอฟต์ตอนต่อ ๆ ไป
📌ฝากกดติดตาม ❤กดไลค์ 💞กดแชร์ 💓เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
- 25
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
