11 เม.ย. 2019 เวลา 01:50 • การศึกษา
กับดักความคิด V2.(ทางออก) ไม่ขอรวยเร็วแต่ขอ "รวยจริง"
ขอนำเสนอบทความใหม่ ให้ชื่อเป็น V2 ของซีรี่กับดักทางความคิดแล้วกันนะครับ บทความนี้ก็ยังว่าด้วยเรื่อง กับดักทางความคิดคล้ายบทความ V1 ของผมนั่นแหละแต่ผมลองมานั่งอ่านดู ในบทความเก่าผมให้ทางออกไว้ไม่ค่อยเคลียร์ วันนี้ขออนุญาติตามเก็บแบบ double Kill ไปเลยแล้วกันติดตามชมครับ
ทางออกที่ดูจะ Make Sense สำหรับผมมากที่สุดคือการย้อนศรความคิด พูดง่ายๆคือแก้ที่เหตุครับ ฟังดูอาจยาก แต่ถ้าหาเหตุเจอก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ คนส่วนใหญ่รู้ทั้งรู้นะครับว่าเหตุคืออะไร แต่ยังหาอุบายใจสะกดความโลภไม่เจอ เริ่มกันเลยครับ
เริ่มจากเปลี่ยนความคิด(ซึ่งยากที่สุด)
สิ่งแรกที่คุณต้องเปลี่ยนคือต้นเหตุของความจนของคุณนั่นแหละครับ "คือความคิดอยากรวยลัด รวยเร็ว" ในโลกแห่งทุนนิยมนี้เต็มไปด้วย ฝูงแร้งฝูงกาไม่ว่าสวมบทบาทใดแม้แต่เพื่อนรักก็ยังเคยหัดเหลี่ยมโหดกันมาแล้ว ซึ่งความโลภนั่นแหละคือกุญแจสำคัญ วันนี้หากคุณริเริ่มจะทำธุรกิจหรืองานใหม่ๆสักอย่าง ถามใจตัวเองดีๆ ว่า"ฉันโลภหรือเปล่า" เอาเวลามาชี้วัดการทำงานของคุณ ไม่ใช่ให้คนอื่นมาชี้วัดว่าทำเท่านี้ ได้ตั้งเท่านั้น มันไม่ Make Sense และคุณก็จะตกเป็นเครื่องมือของเขาได้ง่าย เปลี่ยนความคิดซะให้เป็น "ไม่ขอรวยเร็ว แต่ขอรวยจริง"
อยากอยู่เฉยๆแล้วได้เงินน่ะมีมั้ย?
ตอบว่ามีครับ แต่ผมว่าถึงจุดๆนั้นคุณก็ไม่ได้ต้องการอยู่เฉยๆจริงๆหรอก ถ้ามีคนมาให้เงินเดือนคุณเดือนบะ2แสนแลกกับการให้คุณอยู่บ้านเฉยๆทำได้แค่ กิน ขี้ x นอน ห้ามออกไปไหน 10ปี คุณเอาเหรอครับ
ไอ้การอยู่เฉยๆแล้วได้เงินน่ะมันเป็นความคิดของคนที่ไม่คิดจะทำอะไรเลย หวังรวยทางลัด แล้วคนที่คิดแบบนี้น่ะมันไม่เคยรวยครับจริงๆ
ส่วนที่ผมตอบว่ามี คือคุณต้องสร้างมันขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่มี จนกลายเป็นมีแบบอยู่เฉยๆก็ได้เงินแล้วซึ่งเป็น Lv รายได้ในระดับที่สูงมากย้ำ สูงมาก สูงกว่าการทำ Passive Income ซะอีก(โอกาสหน้าผมจะมาเล่าให้ฟัง) คำถามคือแล้วคุณมีทักษะที่จะได้รายได้แบบอยู่เฉยๆก็ได้เงินแล้วหรือยัง? บิลเกตทำเงิน 250 เหรียญสหรัฐต่อวินาที มีจริงครับ นั่นคือจุดที่สูงกว่า Passive Income แบบที่เรารู้จัก
ออกแบบชีวิตที่คุณอยากได้
ก่อนออกแบบรายได้หรืองานที่คุณอยากทำ คุณต้องออกแบบชีวิตที่คุณต้องการจะได้ก่อน เพราะรูปแบบชีวิตมีน้ำหนักกว่าการตั้งเป้าเป็นเงิน เช่นถ้าวันนี้คุณอยากเป็นเจ้าของร้านเหล้าชิวๆสักร้าน คุณควรศึกษาชีวิตของเขาเหล่านั้นก่อน เขานอนกี่โมง เขาตื่นเมื่อไหร่ สุขภาพเขาเป็นยังไง ไปธนาคารทันมั้ย มีปิดร้านพักร้อน Long Weekend หรือเปล่า แล้วคุณก็มาคิดเทียบกับตัวเองดูสิครับ ว่าคุณทนใช้ชีวิตแบบนี้อย่างแฮปปี้ ได้หรือไม่ ถ้าได้ก็เริ่มหาช่องทางศึกษาการลงทุน ความเสี่ยง ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ตามสเตป หาเอาจากพันทิพย์ก็ได้เยอะแยะครับ ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกเหอะครับมันไม่ทำให้คุณมีความสุขหรอก
ทำไมต้องเลือกความสุข? มีเงินเด๋วก็มีความสุขเองแหละ?
ผมก็เคยเชื่อมาตลอดว่าพอมีเงินแล้วจะมีความสุข แต่สาบานให้ตายเถอะ ไอ้มีเงินแล้วมีความสุขคุณเคยถามตัวเองไหมว่าต้องมีเท่าไหร่? ต้องทำงานอะไรถึงจะมี? แล้วใช้เวลานานไหมกว่าจะได้มา? เกินครึ่งประเทศตอบว่า ไม่เคย!! ความคิดนี้มันใช้ไม่ได้จริง ผมเล่าอะไรให้ฟัง เพราะผมเคยคิดแบบนั้นมาก่อน สุดท้ายคุณจะเจอทางเดินไปสู่ความร่ำรวยแบบที่คุณอยากจะตายคาสนามรบ มันเต็มไปด้วยความโหดร้าย,เล่เหลี่ยม, และสิ่งที่คุณไม่ต้องการเต็มทางเดิน เรื่อง ครอบครัว เพื่อนเอาไว้ก่นขอกูรวยก่อน อย่ามายุ่ง แล้วที่ได้มามันคืออะไรครับ ยังไม่ถึงเป้าหมายคุณก็ตายกลางทางเสียแล้ว ถ้าคุณยังไม่เคยลอง แนะนำให้เจอครับแล้วคุณจะขอบคุณบทความนี้
หาสิ่งที่รัก(ชอบ) และตอบใจตัวเอง
สรุปง่ายๆ ระหว่างถ้าทางคุณยังไม่มีความสุข คุณจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนเดินไปสู่ความสำเร็จ? ความรวย และความสำเร็จมันไม่ใช่การเดินไปซื้อสโม้คกี้ไบต์ ที่ Seven Eleven นะครับ มันไกลจนคุณแทบมองไม่เห็น ไกลจนคุณอยากเลิกทำมัน แต่ความสุขและความชอบระหว่างทางนี่แหละจะเป็นเครื่องช่วยพยุงคุณให้ไปถึงจุดหมาย โดยที่คุณไม่เลิกล้มมันกลางคัน!! เพราะถ้าคุณทำในสิ่งที่ไม่ชอบคุณก็ไม่มีทางมีความสุข แล้วเดี๋ยวคุณก็เลิกทำมัน แล้วพอเลิกทำจะไปถามหาความสำเร็จจากที่ไหนล่ะครับ!!
เขียนเป้า
ไม่ใช่เป้าสายัน นะครับ !! เชื่อหรือไม่การเขียนเป้าหมายหรือไอเดียร์ต่างๆ ออกมา มีสถิติที่น่าตกใจว่า เกิน60 เปอร์เซ็น เป็นจริง! ไม่ได้บอกให้เชื่อ แต่ไปลองเอง หากวันนี้ความฝันคุณยังไม่กล้าเขียนก็เลิกคุยกันตรงนี้เลยครับ เพราะการเขียนเป็นการประมวลผล จากนามธรรมเป็นรูปธรรม ให้จับต้องได้เมื่อจับต้องได้มันจะมีตัวตน เมื่อมีตัวตนมันจะยิ่งชัด เป้าชัดทางเดินจะเริ่มมา ไม่เชื่อ ไปลอง!!
ฝึกฝนและหาเวทีแสดงออกมา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
เชื่อไหมว่าถ้าเป็นสิ่งที่ชอบ คุณจะพร้อมพัฒนาตัวเองมากกว่า คุณจะฝึกฝนแม้ว่ายังไม่ทันแข่งจริง และยิ่งซ้อมหนัก ผลลัพธ์คือระหว่างทางมันโคตรสนุกเวลาเจออุปสรรค การอ่านการเรียนรู้ของคุณจะเปิดกว้างมาก และจักรวาลทั้งหมดมันจะช่วยคุณ (เหลาเอี้ยป๋อห่อ) จากเคยอายคุณจะเริ่มไม่อาย เมื่อคุณคิดว่าคุณพอจะลงสนามได้แล้ว ควรลุยเลยเพราะการซ้อมมันไม่สู้เล่นจริงเจ็บจริง ค่า Exp มันสูงกว่ากันเยอะ ซึ่งการหาเวทีแสดงออกนั้นหาได้ง่ายมากๆ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน โลกเราหมุนไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีที่มีให้เลือกควรเลือกใช้ สมัยนี้ไม่มีใครเขาใช้ ไม้มาสีกันจุดไฟแล้วใช่มั้ยครับ ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะแสดงตัวออกมา เพราะความรู้ความเจ๋ง ไอเดียร์ต่างๆ หากมัวแต่เก็บไว้โม้ มันก็แค่เพ้อฝันสำหรับคนอื่น
1
สุดท้ายความรักและความชอบ บวกกับเวทีที่คุณแสดงออก มันจะคอยผลักดันคุณเอง คุณจะพบกับ Connection ใหม่ๆ คนที่มีทัศนคติที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่คุณทำมันจะดึงดูดคนสำเร็จเข้ามาหา และทางคุณจะค่อยๆเปิดกว้างออกๆ ยิ่งเดินยิ่งสนุก ยิ่งมีความสุข จุดนี้เขาเรียกว่า ติดลมบน แล้วมันจะใช้พลังไม่เยอะเท่าตอนแรกๆ แม้ทางเดินยิ่งลำบาก ยิ่งหนัก แต่หนักแบบมีความหวังเต็มใจ เหมือนกับคนนึงแบกนุ่น 10กิโลไปขายที่ไหนไกลๆก็ไม่รู้ แบกไปมีคนซื้อหรือป่าวยังสงสัยว่าจะแบกไปทำไมหว่า? นุ่น 10 กิโลก็เปรียบได้กับเหล็ก1ตันเลยก็ว่าได้ แต่อีกคนแบกเหล็ก10กิโลเดินไกลเท่ากัน แต่ในใจมันชัดว่าถ้าเดินถึงมีคนซื้อหมดแน่ๆ ขายหมดรวยแน่ๆ ความรู้สึกมันเหมือนกับแบกนุ่นแค่ 2 กิโลก็ไม่ปาน ทั้งๆที่เป็นเหล็ก เทียบได้เท่านี้เข้าใจไหมครับ ไม่เชื่อ...ไปลอง
กับดักทุนนิยม ตอน 1 https://www.blockdit.com/articles/5ca303778b316f1b343de751
กับดักทุนนิยม ตอน 2 https://www.blockdit.com/articles/5ca38e7e2ed28e4ab6e660a6
โฆษณา