Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Medium size Pilot
•
ติดตาม
8 พ.ค. 2019 เวลา 04:59 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์การบินโลก
ตอนที่ 4 เมื่อมนุษย์แข่งขันกันบิน
หลังจากสองพี่น้องตระกูลไรท์ทดลองบินได้สำเร็จ ทางยุโรปก็ได้พัฒนาและสร้างเครื่องบินออกมาเช่นกัน
โดยในปี ค.ศ. 1907 เกเบรียลและชาร์ลส ฟัวซิน (Gabriel and Charles Voisin) พี่น้องชาวฝรั่งเศส เป็นคนแรกที่สร้างเครื่องบินได้สำเร็จในฝั่งยุโรป
ภาพซ้าย:เกเบรียล/ภาพขวา:ชาร์ลส
เช่นเดียวกับเครื่องร่อนอื่นๆในยุคนั้น เครื่องบินปีก 2 ชั้นของพวกเขาเป็นชนิดใบพัดหลังเครื่อง
โดยเฮนรี่ ฟาร์แมน (Henri Farman) วิศวกรนักบิน ขับเครื่องบินของฟัวซินไปได้เป็นระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร ในปี ค.ศ. 1908
เฮนรี่ ฟาร์แมน
ในปี ค.ศ. 1909 หลุยส์ ชาร์ลส โยเซฟ เบลเลียต (Louis Charles Joseph Blériot) ชาวฝรั่งเศส ใช้เงินจากการขายไฟและอุปกรณ์รถยนต์ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมาเอง เพื่อมาสร้างเครื่องบิน
หลุยส์ เบลเลียต
จากนั้นเขาก็นำมาบินจากฝรั่งเศสผ่านช่องแคบอังกฤษไปยังเมืองโดเวอร์ ชนะได้รับเงินรางวัลซึ่งทางหนังสือพิมพ์เดลี่เมล ได้ตั้งไว้สำหรับผู้ที่ทำได้สูงถึง 1,000 ฟรังส์
ขณะกำลังสตาร์ตเครื่องยนต์เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1909
เขาได้แสดงให้เห็นว่า การเดินทางจากทวีปยุโรปไปสู่สหราชอาณาจักรโดยเครื่องบิน สามารถทำได้อย่างปลอดภัย
ภาพนี้ถ่ายเมื่อเบลเลียตบินมาถึงเมืองโดเวอร์
ในปี ค.ศ. 1911 เกล็นน์ เคอร์ติสส์ (Glenn Curtiss) ชาวอเมริกัน เป็นผู้บุกเบิกการสร้างเครื่องบินและอุตสาหกรรมการบินอเมริกา ในสงครามโลกครั้งที่ 1
เกล็นน์ เคอร์ติสส์
เครื่องบินจากโรงงานของเขาถูกใช้อย่างกว้างขวาง พวกเราทราบกันดีว่าสองพี่น้องตะกูลไรท์เป็นผู้สร้างเครื่องบินลำแรกของโลก
แต่ความสำเร็จของเคอร์ติสส์นั้นเป็นตัวเปลี่ยนแนวทางการสร้างเครื่องบิน
ถัดจากนั้นมาหลายสิบปี จากเครื่องบินที่ทำจากวัสดุจำพวกไม้ ผ้าและเส้นลวด ก็ก้าวเข้าสู่เครื่องบินสมัยใหม่
แรกเริ่มเคอร์ติสส์มีกิจการผลิตและขายมอเตอร์ไซค์ เขาชื่นชอบความเร็วมาก จนได้ฉายา “ผู้ที่เร็วที่สุดบนโลก” ซึ่งมาจากการขี่มอเตอร์ไซค์เครื่อง V-8 คันแรกของโลก ความเร็ว 136 ไมล์ต่อชั่วโมง
มอเตอร์ไซค์เครื่อง V-8 คันแรกของโลก
ต่อมามีนักบินบอลลูนชื่อว่า โทมัส สกอตต์ โบล์ดวิน (Thomas Scott Baldwin) เขาใช้ชุดเครื่องยนต์ของเคอร์ติสส์ในการรขับเคลื่อนบอลลูนที่เขาประดิษฐ์ขึ้น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เคอร์ติสส์สนใจในเรื่องการบิน
โทมัส สกอตต์ โบล์ดวิน
เคอร์ติสส์เข้าร่วมสมาคมทดลองการอากาศยาน (Aerial Experiment Association : AEA) ซึ่งสมาคมนี้ก่อตั้งโดย อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ นักประดิษฐ์ผู้สร้างโทรศัพท์ขึ้นมาสำเร็จคนแรกของโลก
ซึ่งก็ทำให้เขาได้เข้าร่วมทดลองสร้างเครื่องบินขึ้นหลายลำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เดอะไวท์วิง (The White Wing) หรือแอร์โร่โดรมทู
มีการใช้แอเลอรอน (aileron) ควบคุมแทนวิงแวบปิ้งที่ใช้ในเครื่องบินของพี่น้องตะกูลไรท์เป็นครั้งแรก ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้ใช้บังคับให้ตัวเครื่องบินบังคับเอียงซ้ายหรือขวาได้
ภายหลังเขามีความคิดว่าเครื่องบินต้องใช้พื้นที่เป็นจำนวนมากในการจอด เขาจึงได้ประดิษฐ์เครื่องบินที่สามารถร่อนลงจอดบนผิวน้ำได้ และเป็นเครื่องบินชนิดแรกที่สามารถบินขึ้นและร่อนลงจอดจากดาดฟ้าเรือได้
Curtiss Hydroplane
เกล็นน์ แฮมมอนด์ เคอร์ติสส์ ได้เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1930 ด้วยอายุ 52 ปี
ในปัจจุบัน เครื่องบิน รถมอเตอร์ไซค์ และเครื่องยนต์ต่างๆ ที่เขาได้สร้างขึ้น ได้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์เกล็นน์ เอช เคอร์ติสส์ ในนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
พิพิธภัณฑ์เกล็นน์ เอช. เคอร์ติสส์
เอ. วี. โร (Alliott Verdon Roe) นักสร้างเครื่องบินชาวอังกฤษ
เอลเลียต วี. โร
โรได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาในปี ค.ศ. 1910 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ เพื่อผลิตเครื่องบินโดยเฉพาะ โดยใช้ชื่อว่า A. V. Ro and company
โลโก้บริษัท
ในปี ค.ศ. 1912 เครื่องบินอัฟโฟร อี หรือ รุ่น 500 (Avro E or Avro 500) ก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นรุ่นแรกและมีตามมาอีกหลายรุ่น
โดยรุ่น อัฟโฟร 504 (เป็นรุ่นอัพเกรดของรุ่น 500) เป็นรุ่นที่ถูกผลิตขึ้นมาถึงหนึ่งหมื่นลำ โดยจุดประสงค์เพื่อใช้ในการฝึกบิน และใช้จู่โจมทางอากาศ
AVRO 504
ประเทศแรกที่นำเครื่องบินไปใช้ในกิจกรรมทหารคือประเทศบัลแกเรีย โดยนำไปใช้ในสงครามบัลแกน ในปี ค.ศ. 1912-13
แต่การใช้เครื่องบินเพื่อการรบอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกเกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยใช้เครื่องบินเพื่อโจมตีและป้องกันข้าศึก รวมทั้งใช้ในการสอดแนมความเคลื่อนไหวของศัตรู
นอกเหนือจากกิจกรรมด้านการรบแล้ว ระบบไปรษณีย์ทางอากาศ หรือ “แอร์เมล์” ก็เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลานี้เอง
โดยการส่งไปรษณีย์ทางอากาศครั้งแรกที่ได้รับการรับรองโดยไปรษณีย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1911
Earle Ovington นักบินส่งจดหมายคนแรกของสหรัฐอเมริกา
ในปี ค.ศ. 1913 เฮนรี่ ฟาร์แมน มีผลงานสร้างชื่ออีกครั้ง เมื่อเขาและน้องชาย มัวริช (Maurice Alain Farman) ร่วมกันสร้างเครื่องบิน เอฟ .40 ให้กับกองทัพเพื่อใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 (1914-18) เพื่อลาดตะเวน
แต่ต่อมาได้พัฒนามากขึ้น กลายเป็นเครื่องบินสำหรับทิ้งระเบิดเครื่องแรกของโลก
HF F.40
ในช่วงนี้ได้มีการพัฒนาและสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบมีปีก 2 ชั้นขนาดใหญ่ เครื่องบินรบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 1 คือ เครื่องบินรุ่น Sopwith Camel ซึ่งช่วยให้มีชัยเหนือคู่ต่อสู้ในการรบ
Sopwith Camel by Lego
Sopwith Camel เครื่องยนต์โรตารี่ ติดตั้งปืนกลคู่
และในปี ค.ศ. 1918 Reinhold Platz ชาวเยอรมันเป็นนักออกแบบเครื่องบินของบริษัทฟ็อคเกอร์ ผู้ออกแบบเครื่องบินรบรุ่น ฟ็อคเกอร์ ดี 7
Fokker D.VII
ซึ่งติดตั้งปืนกลไว้ที่ใบพัดเครื่อง กระสุนจึงสาดกระจายไปทุกทิศทาง
เครื่องบินรุ่นนี้ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินรบที่มีอนุภาพมากที่สุดในยุคนั้น เพราะการออกแบบปีกให้มีความหนามากกว่าเครื่องบินแบบอื่นๆ สามารถสร้างแรงยกได้และบินผาดโผนได้อย่างคล่องแคล่ว ยากที่จะมีเครื่องรุ่นไหนตามได้
ตีลังกาโชว์
การเกิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้การพัฒนาเครื่องบินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมนุษย์เริ่มรู้แล้วว่า ผู้ใดครองน่านฟ้าได้ ผู้นั้นเป็นผู้ควบคุมสงครามได้ทั้งหมด
ภายหลังจากสงครามจึงเริ่มมีการประดิษฐ์เครื่องยนต์ชนิดใหม่ นั่นคือเครื่องเจ็ต
และด้วยระบบโครงสร้างและวัสดุแบบใหม่ จึงทำให้เครื่องบินสามารถที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้นได้โดยที่น้ำหนักลดลง และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น
ตอนหน้าจะกล่าวถึงการพัฒนาของเครื่องบินในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
ติดตามได้เร็วๆนี้ครับ
อ่านย้อนหลังได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างครับ
ตอนที่ 1
https://www.blockdit.com/articles/5cc9dc438240810ffd399b99
ตอนที่ 2
https://www.blockdit.com/articles/5ccaec59d0520039023e6a0e
ตอนที่ 3
https://www.blockdit.com/articles/5ccd02b1c7913621ce8112fa
2 บันทึก
22
2
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประวัติศาสตร์การบินโลก by Medium size Pilot
2
22
2
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย