12 พ.ค. 2019 เวลา 07:29 • ไลฟ์สไตล์
สิ่งที่คนใกล้ตาย กับกำลังจะตาย
ต้องการแตกต่างกัน!
ใกล้ตาย คือ ยังเหลือเวลาอีก
1 เดือน 3 เดือน ยังพอมีเวลา
แต่กำลังจะตาย คือ แค่วินาทีเดียว
อาจแทบไม่เหลือเวลาให้เลยด้วยซ้ำไป!
2
ภาพที่ฉันตกใจสุดขีด คือ
เหตุการณ์สุดท้าย ก่อนสติ
จะดับวูบลงในทันที
ตอนไหนก็ไม่รู้
เหตุการณ์ทุกอย่าง มันเกิดขึ้นไวมาก
จนฉันไม่ทันได้ตั้งตัว
1
รู้สึกตัวอีกที เหมือนได้ยินเสียงคนเรียก
จึงค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากมาก
มันหนักอึ้งไปหมด พยายามจะลุกก็ลุกไม่ได้
ฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่
เหมือนฝันไป เห็นผู้คนมากมายมา
ยืนล้อมรอบตัวฉัน พยายามจะสื่อสารกับฉัน
ฉันพยายามจะอ้าปากตอบคำถามเขา
แต่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ได้แต่พยายามพยักหน้าช้าๆ
แทนคำตอบอย่างเหนื่อยล้าสุดๆ
ฉันคิดว่าตัวเองกำลังจะตายแล้วแน่ๆ
ฉันอยากร้องไห้ อยากกลับไปหาพ่อกับแม่
มากที่สุด แต่ทำได้แค่นอนนิ่งๆ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ณ วินาทีนั้น
ได้แต่ภาวนาวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในใจ
"ขอร้องล่ะ ...ขอร้อง ฉันยังไม่อยากตายตอนนี้
ได้โปรดให้ฉันมีลมหายใจต่อไปด้วยเถิด"
ก่อนที่สติของฉันจะดับวูบลงไปอีกครั้งนึง
ณ ตอนนั้นเองที่ฉันเข้าใจเลยว่า...
แท้จริงแล้ว ความรู้สึกของคนใกล้ตายจริงๆ
ฉันไม่ต้องการอะไร นอกซะจาก "ลมหายใจ"
ขอเพียงลมหายใจที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปก็พอ
เพราะเราทุกคนอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
ด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยากตาย
ทั้งที่ยังไม่พร้อมหรอกนะ
หลายคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย
อย่างไม่รู้จักคุณค่าของเวลา
ต่างกับอีกหลายคนที่เคยเฉียดตาย
แบบฉันจะเข้าใจเป็นอย่างดี
ว่าแท้จริงแล้ว สิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด
คืออะไร?
ใช่ค่ะ ฉันต้องการแค่ลมหายใจ
คืนมา เพื่อที่จะได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่
กลับไปอยู่กับคนที่ฉันรักแค่นั้นเอง
1
ฉันไม่อยากตายเลยสักนิดเดียว!
หากถามว่าวิญญาณฉันหลุดออกจากร่าง
เหมือนในละครหรือเปล่า?
ไม่เลยค่ะ ไม่ได้หลุด
พอสติดับวูบ ทุกอย่างคือดับหมดแล้ว
ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
และเหมือนกับว่าบุญฉันยังมีอยู่
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา พบว่า
ตัวเองนั่งอยู่บนรถยนต์
เขากำลังพาฉันไปส่งโรงพยาบาล
ฉันจะพยายามตั้งสติอีกที
บอกชื่อโรงพยาบาลที่ฉันมีประกันสังคมอยู่
ให้เขาพาฉันไปที่นั้น
และเริ่มสำรวจร่างกายตัวเอง
คือ มันเลอะเปรอะไปหมด
เศษหิน ดิน ทราย ใบไม้แห้ง
เกาะติดตามตัวฉัน
1
ฉันรู้สึกมึนหัวสุดๆ
หมอเข้ามาถามอาการ
ฉันก็พอมีสติตอบได้
พยาบาลเริ่มทำแผล
ฉันเจ็บไปทั้งตัว
ตั้งแต่หัวยันเท้ามีบาดแผลหมด
หนักสุด คือ ใบหน้า
ฉันเกือบเสียโฉมไปเลยกับเหตุการณ์นั้น
เพราะกระดูกตรงแก้มขวาหักแยกออกจากกัน
ทำให้อักเสบจนหน้าบวมผิดรูป
หมอบอกว่าโชคดีที่กระดูกแค่แยก
ไม่ได้บิดจากกันมาก ไม่เช่นนั้นคงต้อง
ผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าเป็นแน่
และได้พบสาเหตุที่ฉันสลบ
เพราะหัวดันกระแทกอย่างแรงจนหมดสติ
แผลที่หัวมีเลือดซิบออกมา
หมอจึงพาเข้าเครื่องCT สแกน
เพื่อตรวจเช็คศีรษะ และสมองของฉัน
น่ากลัวมาก เป็นลักษณะอุโมงค์สีขาว
ในห้องเงียบสงัด ไม่มีใครอยู่เลย
ฉันหลับตาลง เพื่อลดความกลัวให้น้อยลง
ระหว่างที่เครื่องก็ทำหน้าสแกนสมองไปพร้อมกัน
พ่อแม่กลัวฉันความจำเสื่อม
ก็ถามว่าจำอะไรได้บ้างไหม
ฉันบอกว่าจำได้ ฉันบอกชื่อ
ทุกคนได้อย่างถูกต้อง
ยังจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร
อยู่ที่ไหน
1
ความจริงตั้งแต่เด็กจนโต
ฉันเฉียดตายมาหลายครั้งแล้วนะ
แต่ครั้งนี้หนักที่สุด
เพราะถึงขั้นหมดสติไปเลย
และครั้งที่เห็นภาพคนล้อมรอบครั้งสุดท้าย
ก่อนตาจะปิดลง คิดว่าตัวเองตายไปแล้วสักอีก
1
จึงรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งนึง
เป็นการเกิดใหม่ที่ทำให้ฉันได้รู้ความหมาย
ของการมีชีวิตอยู่ ได้รู้ว่าอะไรคือ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตฉัน
หลายบทความ หรือหนังสือหลายเล่มมักบอกว่า
สิ่งที่คนใกล้ตายเสียใจมากที่สุด คือ
เสียดายกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ
1
แต่เขาคงไม่รู้ว่า สิ่งที่คนกำลังจะตาย
เสียใจและอยากได้มากที่สุด คือ
ลมหายใจ แค่ลมหายใจ
ให้เขากลับไปมีชีวิตอยู่กับคนที่เขารัก
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เพราะฉะนั้น อย่ารอให้เจอเหตุการณ์
เฉียดตายแบบฉันเลย แล้วเพิ่งคิดได้
ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคุณ
1
ให้รีบทำตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่ยัง
ไม่ตายนี่แหละค่ะ ดีที่สุดแล้ว ❤
ฉันจึงจัดการทำทุกอย่างที่อยากทำให้เสร็จ
ก่อนตาย โดยวางแผนชีวิตชัดเจน
ไม่กล้าใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ไร้สาระไปวันๆอีกแล้ว
เพราะไม่อยากรู้สึกเสียใจตอนกำลังจะตาย
แต่อยากมีความสุข แบบพร้อมตาย
โดยไม่ขอทวงลมหายใจคืนมาอีกแล้ว...
1
❤ จงรักษาชีวิต ดูแลร่างกาย
และลมหายใจของคุณให้ดีที่สุด
เพราะนี่คือสิ่งสำคัญ และมีค่า
มากที่สุดในชีวิตของคุณเอง ❤
และทั้งหมดนี้เอง คือ ประสบการณ์ของนีม
โดยตรง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน
ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
และติดตามอ่านบทความของนีมค่ะ😊
-Neemmy BK-
1
โฆษณา