25 พ.ค. 2019 เวลา 06:07 • ประวัติศาสตร์
อาณาจักร CP (ตอนที่ 3) จุดเริ่มต้นของ เจี่ย ก๊กหมิน
เจี่ย ก๊กหมิน (คุณธนินท์ เจียรวนนท์) เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2482 ในย่านเยาวราช ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่สายหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่มีชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยสำนักงานใหญ่และบ้านพักบนถนนฝั่งตรงข้ามกับร้านเจียไต๋ โดยชั้น 1 เป็นสำนักงาน และที่เก็บของ ชั้น 2 และชั้น 3 เป็นที่พักอาศัย ส่วนชั้นดาดฟ้าเอาไว้ตากเมล็ดพันธุ์
ในสมัยนั้นยังไม่มีรถยนต์ ทำให้ถนนเงียบมาก แต่ชาวจีนแต้จิ๋วที่เข้ามาในเมืองไทยนั้น มีจำนวนมากที่เปิดร้านอาหารจีนแต้จิ๋ว ร้านขายใบชา และขายสินค้าจากเมืองจีน ป้ายร้านค้าข้างถนนก็ยังเป็นป้ายเดิมที่เขียนด้วยภาษาจีน การอาศัยอยู่ในย่านถนนเยาวราชจึงคล้ายกับอยู่ในเมืองจีน
พ่อแม่และคนในครอบครัวของ
เจี่ย ก๊กหมิน ต่างก็พูดภาษาจีนแต้จิ๋วได้ ดังนั้นชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ย่านเยาวราช หากพูดไทยไม่ได้ก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะพ่อค้าและลูกค้าต่างเป็นคนจีนแต้จิ๋วทั้งนั้น การพูดภาษาจีนแต้จิ๋วไม่ได้ต่างหากที่จะทำให้ค้าขายลำบาก
ดังนั้นถนนเยาวราชของกรุงเทพฯ จึงเหมือนเมืองแต้จิ๋วในจีน
ในวัยเด็ก เจี่ย ก๊กหมิน ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า วันหนึ่งจะได้มาเป็นนักธุรกิจตอนที่ยังเป็นเด็กอยู่นั้น ฝันอยากจะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เพราะหลงใหลหนังฮ่องกง ชอบดูหนังแอ๊คชั่น เคยลองเขียนบทภาพยนตร์เองด้วย และยังเคยแสดงละครที่ตัวเองเขียนบทขึ้นให้คุณครูและเพื่อนๆ ได้ชม
นอกจากนี้ยังชอบมายากล สมัยนั้นยังไม่มีโทรทัศน์ ดูการแสดงมายากลครั้งแรกที่โรงละคร จึงขอให้นักมายากลสอนเล่นมายากลบ้าง
พอกลับมาบ้านก็ฝึกเล่นมายากลเอง จนสามารถเสกนกพิราบออกจากกล่องได้ และยังเสกข้าวสารออกจากกระป๋องเปล่าได้ด้วย
โรงเรียนแห่งแรกที่ เจี่ย ก๊กหมิน เข้าเรียนคือชั้นประถมโรงเรียนจีนที่เปิดสอนในกรุงเทพฯ การเรียนการสอนใช้ภาษาไทยเป็นหลัก ส่วนภาษาจีนสอนวันละ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น 1 ปี ก็ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนคริสเตียนประจำในจังหวัดราชบุรี
และนี่เป็นครั้งแรกที่ต้องจากบ้าน ต้องดูแลรับผิดชอบเกือบทุกสิ่งด้วยตนเอง
ปีพ.ศ. 2488 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงด้วยความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นถอยทัพกลับ ภายหลังจีนก็เกิดสงครามในประเทศซึ่งลุกลามขยายเป็นวงกว้าง เป็นสงครามระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับชัยชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋ง และประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนใน ปีพ.ศ. 2492
คุณเจี่ย เอ็กชอ (คุณพ่อ)ของ เจี่ย ก๊กหมิน ถามว่าจะไปเรียนที่ซัวเถาไหม เจี่ย ก๊กหมิน ตอบตกลงทันที ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น
ในปีพ.ศ. 2495 เข้าไปเรียนชั้น ป.4 ที่ซัวเถา เพื่อจะเขียนภาษาจีนให้คล่อง ต้องเอาตำราต่ำกว่า ป.4 มาศึกษาเพิ่มเติม ตั้งใจเรียนภาษาจีนโดยซื้อพจนานุกรมภาษาแต้จิ๋วมาจากร้านขายหนังสือ และขอยืมหนังสือเรียนของเพื่อน ป.1 และ ป.2 เพื่อมาศึกษาด้วยตนเองที่บ้านตอนหลังเลิกเรียน
ช่วงอยู่ชั้น ป.5 ผลการเรียนดีขึ้นตามลำดับ สอบได้ที่ 2 และ 3 ของห้อง พอเริ่มรู้หนังสือจีนแล้ว ก็เรียนได้ดีขึ้นมาก วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ถนัดที่สุด
รูปภาพจาก nikkei
ช่วงมีเวลาว่างเจี่ย ก๊กหมิน ก็เลี้ยงไก่ชนและก็ชอบนำไก่ชนไปฝึกฝีมือกับไก่ชนของคนแถวบ้าน
มีครั้งนึง เจี่ย ก๊กหมิน ได้ไก่ตัวเมียมาจากสวนของคุณพ่อ จึงเริ่มเลี้ยงไก่ตัวเมีย เพื่อนๆ ที่โรงเรียนมักผลัดเปลี่ยนกันมาให้อาหารไก่ที่บ้าน เมื่อไก่ออกไข่ ก็แบ่งไข่ให้เพื่อนๆ เอากลับไปบ้าน
ที่ระเบียงบ้านยังมีกรงนกอีกด้วย ในกรงมีนกพิราบสีขาวหลายสิบตัว ให้อาหารนกพิราบทุกวัน และเริ่มฝึกนกพิราบ เคยปล่อยให้พวกมันบินไป แต่มีหลายตัวไม่ได้บินกลับมา ก็เลยไปขอความรู้จากเพื่อนข้างบ้านที่ชำนาญการเลี้ยงนกพิราบ ให้สอนเคล็ดลับการเลี้ยง
1
ซึ่งการที่ เจี่ย ก๊กหมิน ได้มาทำธุรกิจสัตว์ปีก ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผูกพันกับไก่และนกมาตั้งแต่วัยเด็กก็เป็นได้
ขณะเรียนอยู่ที่ซัวเถา เจี่ย ก๊กหมิน ได้พบคุณครูผู้หญิงที่จะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต ท่านเป็นคุณครูประจำชั้นตอนเรียนที่ซัวเถา คุณครูท่านนั้นชื่อ เฉิน ซือฟู่ (Chen Shifu) ตอนที่มาซัวเถาใหม่ๆ
รูปภาพจาก nikkei
ครูเฉินรักนักเรียนเหมือนรักลูกของท่านเอง คุณครูอ่อนโยนและใจดีกับนักเรียนทุกคนในห้อง ตอนที่ครูเป็นครูประจำชั้น ครูไม่เคยลางานเลยสักวันเดียว ถึงแม้ว่าคุณครูจะเป็นหวัด ไม่สบาย มีไข้ คุณครูก็ยังมาสอน
ครูเฉินเป็นห่วงนักเรียนที่เรียนไม่ดีจะตามเพื่อนในห้องไม่ทัน ครูจึงให้นักเรียนในห้องช่วยกันติวหนังสือ มีนักเรียนบางคนซึ่งที่บ้านยังไม่มีไฟฟ้า ตอนกลางคืนจึงอ่านหนังสือ และทำการบ้านไม่ได้
บ้านของ เจี่ย ก๊กหมิน ค่อนข้างกว้างขวาง จึงรวมกลุ่มเพื่อนๆ มาติวหนังสือที่บ้านในตอนกลางคืน
โดยแบ่งหัวข้อวิชาต่างๆ ให้เพื่อนๆ ผลัดกันมาติว วิธีการนี้ทำให้เราครอบคลุมเนื้อหาวิชาได้ทุกสาขาและยังทำให้เพื่อนๆ สนใจการเรียนมากขึ้น
1
และยังให้เพื่อนที่คะแนนการเรียนไม่ดีค้างคืนที่บ้านด้วย ตอนเช้าตื่นมาอ่านหนังสือกัน เพื่อนๆ เหล่านั้นเริ่มมีผลการเรียนดีขึ้น สุดท้ายผลคะแนนรวมของชั้นเรียนของ เจี่ย ก๊กหมิน ได้เป็นอันดับ 1 ของโรงเรียน
1
ความเป็นผู้นำของ เจี่ย ก๊กหมิน เริ่มฉายแววตั้งแต่นั้น
โดยเริ่มเป็นผู้นำของห้อง และยังได้เป็นหัวหน้าทีมการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล และชักเย่อ โดยเป็นผู้วางแผนการเล่น เพื่อนร่วมชั้นต่างพร้อมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเอาชนะการแข่งขันทั้งสองรายการได้
แม้ว่าตอนนั้นยังเป็นเด็กอยู่ แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จมาจากการสร้างแรงจูงใจคนในทีม ภายหลังก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง
มีอีกเรื่องที่ เจี่ย ก๊กหมิน ไม่เคยลืมคือ ตอนนั้นมีเพื่อนร่วมชั้นที่มีนิสัยเกเรคนหนึ่ง เขามักสร้างปัญหาเป็นประจำ เพื่อนๆ ต่างไม่มีใครอยากคบ แม้แต่พ่อแม่ของเขาก็ไม่สนใจเขา เขาอยู่
เหงาๆ คนเดียว เป็นเด็กที่ไม่มีคนรักและสนใจ ด้วยความสงสารเขามาก มีคุณธนินท์คนเดียวในชั้นที่ยอมคบเขาเป็นเพื่อน ยอมเล่นกับเขา ค่อยๆ เตือนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเขา เขาไม่ยอมฟังใครเลยทั้งคุณครูและพ่อแม่ แต่เขาฟัง เจี่ย ก๊กหมิน คนเดียว
การที่ เจี่ย ก๊กหมิน เรียนรู้การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรานั้น ได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากคุณเฉิน จิน จี้ (Chen Jinji)คุณแม่ของเขานั่นเอง
ทัศนคตินี้เองที่มีส่วนสำคัญในการบริหารธุรกิจของ เจี่ย ก๊กหมิน ในภายหลัง
"ต้องรู้จักคิดในมุมมองของคนอื่นเท่านั้น เราถึงจะได้รับความเคารพจากคนอื่น ในทางกลับกัน ถ้าเรานึกถึงแต่ตัวเองพยายามที่จะยัดเยียดความคิดของเราแต่ฝ่ายเดียว ก็จะไม่มีใครยอมฟังเรา"
ฝากติดตามบทความตอนต่อไปของ อาณาจักร CP (ตอนที่ 4)
เจี่ย ก๊กหมิน ไม่อยากเรียนหนังสือต่อ
อ่านบทความอาณาจักร CP ย้อนหลัง👇
ขอบคุณ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา