Movietalk: ย้อนรอยมนุษย์กลายพันธุ์ X-Men Wolverine & Deadpool
Wolverine & Deadpool
สองตอนที่แล้ว ย้อนรอยเรื่องราวของ X-Men ทั้งรุ่นใหญ่ และรุ่นแรกกันไปแล้ว ซึ่งถือเป็นจักรวาลหลัก และในตอนสุดท้ายนี้จะเก็บตกเรื่องราวของแคแร็กเตอร์สำคัญที่มีหนังนำเดี่ยวของตนเอง จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ วูล์ฟเวอรีน และ เดดพูล เกรียนแสบกวนโอ๊ย
ฟ็อกซ์คิดที่จะสร้างหนังนำเดี่ยวของบรรดาแคแร็กเตอร์ในเอ็กซ์-เมน และที่ดูจะมีศักยภาพได้ไปต่อแบบนำเดี่ยวก็ต้องเป็น วูล์ฟเวอรีน ซึ่งทั้งหมดมาจากพลังดาราของพี่ฮิวจ์ แจ็กแมน ที่ทำให้วูล์ฟเวอรีนกลายเป็นแคแร็กเตอร์ที่น่าจดจำของคนดู และคนดูก็รักที่จะติดตามชีวิตเจ้าของกรงเล็บอดาแมนเทียมคนนี้
ขณะที่โปรเจ็กส์ X-Men: The Last Stand ขับเคลื่อน ฟ็อกซ์ก็เตรียมแผนงานสร้างหนังนำเดี่ยวของวูล์ฟเวอรีน และ แมกนีโต กระทั่งปี 2004 เดวิด เบนิออฟ ได้ร่างบทหนังวูล์ฟเวอรีน โดยอ้างอิงจากคอมิกส์ Weapon X ซึ่งเคยตีพิมพ์เมื่อปี 1991, Wolverine ตีพิมพ์ปี 1992 และ Origin ตีพิมพ์ปี 2001 มาผสมผสานกัน โดยบทหนังแรกนั้นถือว่ามีความรุนแรงในระดับเรท R แต่ฟ็อกซ์อยากได้ที่ซอล์ฟกว่านั้นเพื่อเหตุผลทางการตลาดให้ขยับมาเหลือแค่ PG-13 บทหนังของเบนิออฟเลยถูกบรรดาเพื่อนนักเขียนบทอีกหลายคนมาขัดเกลากันใหม่ สกิ๊พ วู้ดส์ จากหนังมือปืนหัวล้าน Hitman ตามด้วย เดวิด เอเยอร์ จากหนังซิ่งทะลุนรก The Fast and the Furious, เจมส์ แวนเดอร์บิลท์ จากหนังผจญภัยของเดอะร็ฮก The Rundown ปิดท้ายด้วย สก็อตต์ ซิลเวอร์ จากหนังดราม่าขาแร็ป 8 Mile จนได้บทหนัง X-Men Origins: Wolverine
มีผู้กำกับอย่าง เลน ไวส์แมน จาก Underworld และ อเล็กซานเดร อาจา จาก Hautetension เป็นตัวเลือกแรก ก่อนที่โผจะมาปิดจ็อบกันที่ แกวิน ฮู้ด ที่มีดีกรีออสการ์ผู้กำกับหนังภาษาต่างประเทศจากหนังเรื่อง Tsotsi (2005) โดยที่พี่ฮิวจ์ของเราก็เห็นดีเห็นงามว่าเหมาะมาก แต่กลายเป็นดราม่าระหว่างถ่ายทำเมื่อความเห็นแบบอาร์ตตัวพ่อของฮู้ดไม่สามารถลงรอยกับสตูดิโอฟ็อกซ์ได้จน ริชาร์ด ดอนเนอร์ โปรดิวเซอร์ต้องเข้ามาหย่าศึก
นั่นยังไม่ใช่ปัญหาเดียวของหนังเดี่ยววูล์ฟเวอรีน เมื่อปรากฏว่ามีไฟล์หนังบางส่วนหลุดไปบนโลกอินเตอร์เน็ตจนเป็นเรื่องราวให้คนดูได้โหลดมาดูก่อนหนังฉาย จนภายหลังฟ็อกซ์ออกมาบ่นว่า ถ้าไม่มีไฟล์หลุดหนังน่าจะทำเงินไปมากกว่านี้ สุดท้าย X-Men Origins: Wolverine เดี่ยววูล์ฟเวอรีน ปิดรายรับรวมทั่วโลกอยู่ที่ $374 ล้าน
แม้จะความนิยมจะกลาง ๆ แต่วูล์ฟเวอรีนก็ยังได้สิทธิ์ไปต่ออีกใน The Wolverine ซึ่งอาศัยเส้นเรื่องจากคอมิกส์ Wolverine: Limited Series ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1982 จากผลงานของ คริส แคลร์มองต์ (เขียนเรื่อง) และ แฟรงค์ มิลเลอร์ (วาดภาพ) โดยคราวนี้ให้วูล์ฟเวอรีนเป็นมิวแทนต์พลัดถิ่นไปโผล่ในแดนอาทิตย์อุทัย พบรักกับลูกสาวยากูซ่า
The Wolverine ได้ผู้กำกับคุณภาพ เจมส์ แมนโกลด์ ที่เคยพา ทอม ครูซ กับ แคเมรอน ดิอาซ มาผจญภัยสายลับใน Knight and Day มารับหน้าที่กำกับภายใต้บทหนังจาก คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รี่, มาร์ค บอมแบ็ค (Die Hard 4.0), สก็อตต์ แฟรงค์ (Minority Report) โดยหนังเล่าเรื่องราวหลังเหตุการณ์ใน The Last Stand ที่วูล์ฟเวอรีนทนทุกข์กับความรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องสังหาร จีน เกรย์ ผู้หญิงที่เขารัก จนต้องเดินทางไปไกลถึงญี่ปุ่นเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมรบ
มาถึงหนังปิดฉากวูล์ฟเวอรีน ที่ เจมส์ แมนโกลด์ กับมาแท็กทีมกับ พี่ฮิวจ์ อีกครั้ง ใน Logan (2017) ที่หนังตั้งใจจะไปให้สุดพรมแดนของหนังซูเปอร์ฮีโร่ หนังมีความรุนแรงในระดับเรท R เข้ม ๆ เกือบหลุดเรท หนังมีทั้งความเป็นหนัง Road Movie หนังครอบครัว หนังตะวันตก และมีความเป็นหนังฟิล์มนัวร์ มากกว่าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ โดยอ้างอิงจากเรื่องราวในคอมิกส์ชุด Old Man Logan และดัดแปลงเป็นบทหนังโดย สก็อตต์ แฟรงค์, ไมเคิล กรีน (ซีรีย์ส Hero) และแมนโกลด์เอง โดยแมนโกลด์มองว่า โลแกน ก็เหมือนกับ บิลล์ มันนี่ คาวบอยชราที่แสดงโดยปู่คลิ้นท์ อีสต์วู้ด ใน Unforgiven ชายชรากรำศึก ผ่านโลกเส็งเคร็งมายาวนาน พอ ๆ กับบาดแผลในใจที่กัดกินไม่มีวันหยุด
ถือเป็นการปิดตำนานวูล์ฟเวอรีนที่สมเกียรติ อันที่จริงต้องบอกว่าระดับการสูญเสียมันหนักหนากว่า โทนี่ สตาร์ค เสียอีก แต่อาจจะเพราะ Logan เป็นหนังดราม่าซูเปอร์ฮีโร่มากกว่าทำให้เข้าถึงคนดูวงกว้างน้อยกว่า หนังได้รับคำชมเชยว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุด ควรค่าแก่การเข้าชิงออสการ์ (แต่ก็ไม่ได้แม้แต่จะติดรอบสุดท้าย)
หันมาทางฝั่ง เดดพูล ที่เป็นหนึ่งแคแร็กเตอร์ระดับต้น ๆ ในคอมิกส์ X-Men แต่ในการขึ้นจอครั้งแรกโดยเป็นส่วนหนึ่งในหนังนำเดี่ยววูล์ฟเวอรีนใน X-Men Origins: Wolverine กลับกลายเป็นตัวละครที่ง่อยและใบ้ (ใบ้จริง ๆ เพราะถูกใช้ CG ลบปากออกไป) ทั้ง ๆ ที่ เดดพูล ถือเป็นตัวละครที่ ไรอัน เรย์โนลด์ส ชื่นชอบมาก ๆ และพี่แกคงแค้นฝังหุ่นมากกับการทำให้ตัวละครที่ตนรักออกมาได้แย่ถึงเพียงนั้น
เรย์โนลด์สถึงขนาดลงทุนแต่งชุดเดดพูล และปล่อยคลิปในอินเตอร์เน็ตจนสร้างกระแส Deadpool จนในที่สุดฟ็อกซ์ยอมเรียกเจ้าตัวมาคุยเรื่องทำหนังนำเดี่ยว Deadpool กันดูสักเรื่อง นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ เรย์โนลด์ส กับ ทิม มิลเลอร์ ได้แท็กทีมกันพาฮีโร่กวนโอ๊ยขึ้นจอเป็นผลสำเร็จ ภายใต้งบสร้าง $58 ล้าน น้อยเสียยิ่งกว่า X-Men ภาคแรก ($75 ล้าน) เสียอีก เรียกว่าเหมือนให้เรย์โนลด์ส กับ มิลเลอร์ ทำหนังอินดี้ซูเปอร์ฮีโร่ว่างั้น หนังเดี่ยว Deadpool จึงเกิดขึ้นภายใต้บทหนังของ เรต์ต์ รีส กับ พอล เวอร์นิก
แต่ Deadpool ที่ออกฉายในปี 2016 กับการเป็นหนังนอกสายตาของฟ็อกซ์ตั้งไกล กลับทำเงินถล่มทลายมากถึง $783 ล้านจากทั่วโลก เรียกว่าทำกำไรให้ฟ็อกซ์มากกว่าทุนสร้างถึง $700 กว่าล้านเหรียญ ซึ่งคงไม่ต้องบอกนะว่า เดดพูลกลายเป็นลูกรักของฟ็อกซ์ไปในทันที
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จมาจากการผสมผสานที่ลงตัว และสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การให้เดดพูลหันมาพูดกับคนดูได้ตลอดเวลา การที่ตัวละครไม่ได้ต้องดูดี ดูเท่ นึกอยากเกาก้นก็ทำ (ขออภัย ต้องใช้คำนี้เพื่อให้เห็นภาพ) แถมหนังยังจัดหนักเรื่องความรุนแรง และที่ขาดไม่ได้จนถือเป็นเสน่ห์ของเดดพูลคือการอำหนังเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น X-Men หรือการระบายความแค้นครั้งเก่าที่ถูกหลอกไปเป็นกรีนแลนเธอร์ของ เรย์โนลด์ส
แล้วจะไม่มีภาคต่อได้อย่างไร เดดพูล ก็บอกเองในหลัง End Credit ว่าจะมี เคเบิล และก็มีจริง ๆ โดยคนที่รับบทไม่ใช่ใครที่ไหน ทานอส จอช โบรลิน ขอพ่วงอีกหนึ่งตัวละคร โดยเล่าเรื่องราวที่มีการย้อนเวลา (อีกแล้ว) จากอนาคตมายังยุคปัจจุบันของเคเบิ้ลเพื่อสังหารเด็กคนหนึ่งซึ่งต่อมาจะกลายเป็นมิวแทนต์จอมวายร้าย (พล็อตคุ้น ๆ เนอะ) มาถึง Deadpool 2 ฟ็อกซ์เลยใจดีให้งบสร้างเพิ่มเป็น $110 ล้าน แต่ก็ต้องเสีย ทิม มิลเลอร์ ไปจากโปรเจ็กส์ และ เดวิด ลีทช์ ผู้กำกับร่วมจากหนัง ใครฆ่าหมากรู John Wick มารับหน้าที่กำกับ Deadpool 2 ปิดตัวเลขรับทั่วโลกที่ $785 ล้าน ยังคงเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ทุนต่ำที่ทำกำไรมหาศาลให้แก่ฟ็อกซ์ต่อไป เมื่อเทียบกับ X-Men ที่มีแต่ใช้ทุนสร้างเพิ่มขึ้นในแต่ละภาค
หลังปิดดีลสนั่นลั่นโลก ดีสนีย์เทคโอเวอร์ฟ็อกซ์ได้สำเร็จ ยังไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งเรย์โนลด์สเองก็เถอะ กับชะตากรรมของหนัง Deadpool 3 นั่นเพราะสไตล์หนังดีสนีย์มันไม่เข้ากับเรท R ห่ามแตกของเดดพูล แต่เชื่อเถอะว่ายังไง ๆ Deadpool 3 ก็ต้องมี เพราะตัวเลขกำไรแบบนี้ ในแง่การลงทุนดีสนีย์ก็คงปล่อยให้เรย์โนลด์ส ทำต่อโดยไม่ปะยี่ห้อดีสนีย์ก็เท่านั้น
X-Men Origin: Wolverine (2009)
X-Men Origin: Wolverine (2009) Directed: Gavin Hood
โลแกน และวิคเตอร์ สองพี่น้องที่มีพลังพิเศษจนต้องหลบหนี ทั้งสองมีชีวิตที่ไม่แก่เฒ่า และกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Weapon X ของ วิลเลียม สไตร์เกอร์ส แต่เพราะความเบื่อหน่ายกับการฆ่าฟัน โลแกนจึงหาทางฉีกตัวออกมา และใช้ชีวิตสุขสงบก่อนที่ความเลวร้ายจะมาเยือนอีกครั้ง จนเขาต้องกลับไปสู่ความรุนแรงและการฆ่าฟัน
หนังเดี่ยววูล์ฟเวอรีน ที่เล่าเรื่องราวที่คนดูสงสัย ไม่ว่าจะเป็น ที่มาของวูล์ฟเวอรีน กรงเล็บอดาแมนเทียม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซเบอร์ทูธ หนังเต็มไปด้วยตัวละครเด่นในจักรวาลเอ็กซ์-เมน ไม่ว่าจะเป็น แกมบิต, เดดพูล แต่หนังใช้ประโยชน์จากตัวละครเหล่านี้แบบสิ้นเปลือง สิ่งเดียวที่หนังทำได้ดีคือการถ่ายทอดการเป็นผู้ชายที่ต้องพบเจอแต่ความสูญเสียของโลแกน อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของวูล์ฟเวอรีน
The Wolverine (2013)
The Wolverine (2013) Directed: James Mangold
โลแกนที่ต้องทนทุกข์กับบาดแผลในใจหลังจากการตายของจีน เกรย์ ได้รับการติดต่อจากเพื่อนเก่าสหายเคยร่วมรบ ยาชิดะ โลแกนจึงเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อรับวัคซีนที่ลบล้างพลังพิเศษของตนเองได้ แต่กลายเป็นว่าโลแกนติดอยู่ตรงกลาระหว่างศึกยากูซ่าสองแก๊ง ที่ใครบางคนมีวาระซ่อนเร้น
ถือเป็นหนังที่แปลกแยกที่สุดในเฟรนไชส์เอ็กซ์-เมน ไม่ว่าจะเป็นการให้โลแกนไปอยู่ในวัฒนธรรมตะวันตก พบรักกับหญิงต่างถิ่น และการสูญเสียพลังที่ตนเองเคยมีจนยากเย็นกับการต่อกรกับบรรดายากูซ่า
Logan (2017)
Logan (2017) Directed: James Mangold
ในอนาคตอันใกล้ บรรดามิวแทนต์ต่างล้มหายตายจาก และกลายเป็นเพียงแค่ตำนานในสายลม โลแกนในวัยชราที่เป็นเพียงคนขับรถรับจ้างที่ต้องทำหน้าที่ดูแลชาร์ลส์ เซเวียร์ ศจ.เอ็กซ์ในวัยชราที่เป็นอัลไซเมอร์ โลแกนต้องเข้าไปพัวพันกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อ ลอว์ร่า ถูกตามล่าโดยกองกำลังติดอาวุธ ที่น่าตกใจคือ เด็กสาวมีพลังพิเศษในการรักษาตนเอง และกรงเล็บอดาแมนเทียมเหมือนกับโลแกน ลอว์ร่าตั้งใจจะไปให้ถึงดินแดนพันธสัญญาของเหล่ามิวแทนต์ การผจญภัยของมิวแทนต์สามรุ่นเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับภัยร้ายที่ตามติดทั้งสาม
หนังปิดฉากวูล์ฟเวอรีนที่ดีเยี่ยมที่สุด ทั้งในแง่ดราม่า ความเป็นตัวตนของวูล์ฟเวอรีน ชายผู้เต็มไปด้วยบาดแผลทางกายและทางใจ หนังถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าหดหู่แต่ก็ทำให้คนดูได้เห็นอีกแง่มุมของโลแกน เซเวียร์ และลอว์ร่า ในฐานะ พ่อ ปู่ หลาน ในระหว่างการผจญภัย ใครไม่ได้ดูถือว่า ผิด และไม่ควรบอกว่าเป็นสุดติ่งวูล์ฟเวอรีน
Deadpool (2016)
Deadpool (2016) Directed: Tim Miller
เวด วิลสัน อดีตทหารรับจ้างที่รับหน้าที่ตีหัวหมาด่าแม่เจ๊ก ฝีมือดีแต่ปากหมาน กามเทพทำให้เวดได้พบกับ วาเนสซา แต่โชคชะตาก็เล่นตลกให้เวดเป็นมะเร็งและมีชีวิตอีกไม่นาน เพื่อจะได้อยู่กับคนรักต่อไป เวดขอเข้าโครงการ Weapon X ก่อนที่จะถูกกำจัดในภายหลัง แต่กลายเป็นว่าเวดมีพลังคืนชีพได้ และออกตามล่าทวงหนี้ได้พวกชั่วเหล่านี้ในนาม เดดพูล
ถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่นำความสดใหม่มาให้ และแคแร็กเตอร์สุดแสบกวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงแบบปล่อยของเต็มที่ของ ไรอัน เรย์โนลด์สคือสีสันของหนังอย่างแท้จริง
Deadpool 2
Deadpool 2 (2018) Directed: David Leitch
เดดพูลกลับมาแล้วพร้อมกับเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียคนรัก และการมาของมิวแทนต์จากอนาคตเคเบิ้ล ที่ย้อนเวลามาเพื่อฆ่ามิวแทนต์อ้วนคนหนึ่งที่วันข้างหน้าจะกลายเป็นจอมวายร้าย และเดดพูลต้องหยุดยั้งให้ได้
หนังยังคงทำหน้าที่เกรียนและกวนอย่างสนุกและมันมือ ด้วยงบที่เพิ่มขึ้นทำให้หนังมีโอกาสเล่นอะไรได้มากขึ้น ที่สำคัญเห็นจะเป็นการที่มีนักแสดงอย่าง แบรด พิตต์ ปรากฏตัวในหนังด้วยนะ ส่วนจะเป็นตอนไหน และแสดงเป็นใคร คนที่ยังไม่ได้ดูไปหาดูเอาเองนะไม่อยากสปอยล์
ปิดท้ายด้วย Box Office X-Menทั้งหมดมาให้ดูกัน นีคือเฟรนไชน์ขึ้นหน้าขึ้นตาที่สุดของฟ็อกซ์
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoe
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoe, ComingSoon.net, Forbes, Pinterest, yahoo.com, io9 – Gizmodo, Amazon.com, hollywoodreporter.com, entertainment.kompas.com, Instituto San Fernando, YouTube, Vox, Esquire
"Movietalk" บทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่อยู่ในความสนใจ พร้อมเกร็ดหนังหลังฉาก
ถ้าชอบ อย่าลืมกด Like กดแชร์และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับ คนคอหนัง Movietalk
ขอบคุณครับ
May the Force be with you.
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
