23 ก.ค. 2019 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
ทางรถไฟใต้ดิน (Underground Railroad) เส้นทางสู่อิสรภาพของทาสในสหรัฐอเมริกา ตอนที่ 5
การหลบหนีของทาส
ในช่วงต้นยุค 1820 (พ.ศ.2363-2372) ผู้ล้มเลิกส่วนมากจะทำงานเพียงลำพัง ไม่ได้รวมกันเป็นกลุ่ม
แต่ในช่วง 1830 (พ.ศ.2373-2382) ผู้ล้มเลิกเริ่มจับกลุ่มกัน ทำงานร่วมกัน พวกเขาเริ่มสร้างภาษารหัสลับที่รู้กันเฉพาะในหมู่ผู้ล้มเลิก เช่น บ้านที่ให้ที่พักแก่ทาสก็เรียกว่า “สถานี” เรียกพวกผู้ล้มเลิกด้วยกันว่า “นายสถานี” เรียกทาสที่หลบหนีว่า “ผู้โดยสาร” เป็นต้น
ข่าวของทางรถไฟใต้ดินเริ่มแพร่ลงใต้ ทาสที่หลบหนีไปได้ทางเหนือหลายรายก็กลายมาเป็นนายสถานี ช่วยเหลือทาสที่หลบหนีมาจากทางใต้
แต่เนื่องจากทางรถไฟใต้ดินนี้เป็นความลับ แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ถึงระบบ เส้นทางการหลบหนีหรือเส้นทางรถไฟใต้ดินนี้โดยละเอียด
ทาสมักจะเลือกช่วงเวลาของฤดูหนาว โดยเฉพาะช่วงวันคริสมาสต์ในการหลบหนี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ทาสได้หยุดพักเป็นเวลาหลายวัน ดังนั้นกว่าเจ้านายของพวกเขาจะรู้ว่าทาสหนีไปแล้วก็เป็นเวลาหลายวัน
ทาสยังรู้วิธีในการบอกใบ้ให้เพื่อนๆ รู้ว่าเขากำลังจะหนี นั่นก็คือการร้องเพลงขณะทำงาน ซึ่งคนคุมทาสก็ไม่ได้สนใจเพลงที่พวกเขาร้อง
หนึ่งในเพลงที่ทาสที่จะหนีเลือกร้องคือ “Let My People Go” ซึ่งเป็นเพลงบอกใบ้ให้ทาสคนอื่นๆ รู้ว่าตนกำลังจะหนี
เจ้าของทาสไม่ชอบพูดถึงเรื่องทางเหนือนัก พวกเขาไม่ต้องการให้ทาสรู้ว่าพวกเขาจะพบเจอชีวิตที่ดีกว่าทางเหนือ
เจ้าของทาสมักจะโกหกทาสว่าทางเหนือนั้นปฏิบัติกับทาสแย่กว่าทางใต้อีก อย่าได้หนีไปทางเหนือเด็ดขาด และยังบอกอีกว่าที่แคนาดานั้นหนาวเกินกว่าจะอาศัยอยู่ได้
ในระหว่างหลบหนี ทาสจะไม่พกอะไรไปด้วยเลย พวกเขาจะหนีไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย
ทาสส่วนมากอ่านหนังสือไม่ออก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทางเหนือคือที่ไหน ไปยังไง พวกเขารู้แค่ว่าทางเหนือไม่มีทาส
พวกเขาต้องการแค่นั้น
ชีวิตของทาสจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามต่อในตอนหน้านะครับ
โฆษณา